|
สืบทอดกิจการทายาทรุ่น 4
โดย
นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กรกฎาคม 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
ฮาราลด์ ลิงค์ ปีนี้อายุ 56 ปี ตั้งใจไว้ว่าจะลดการทำงานลงภายใน 4 ปีข้างหน้า แต่คงบทบาทกรรมการและที่ปรึกษา เขาเริ่มสอนงานให้กับคาโรลีน ลิงค์ ลูกสาววัย 29 ปีที่ต้องเข้ามาสืบทอดกิจการกลุ่มบี.กริม เพื่อวาดตำนานใหม่ในอนาคต
แม้ว่าความเป็นจริงฮาราลด์ ลิงค์จะมีทายาท 2 คนก็ตาม คือลูกสาวคนโต คาโรลีน ลิงค์ และลูกชาย เฟลิกซ์ ลิงค์ วัย 27 ปี แต่ดูเหมือนลูกชายจะยังไม่สนใจด้านธุรกิจมากนัก เพราะมีใจใฝ่ศึกษาด้านศาสนามากกว่า เวลานี้กำลังคร่ำเคร่งเล่าเรียนภาษาทิเบต ดูเหมือนว่าฮาราลด์ ลิงค์ ปรารถนาส่งเสริมในสิ่งที่ลูกต้องการจะเป็น
สำหรับคาโรลีน ลูกสาวคนโตชื่นชอบธุรกิจ จึงสนใจร่ำเรียน มาทางด้านธุรกิจโดยตรง เริ่มตั้งแต่การเงิน การตลาด เศรษฐศาสตร์และกฎหมาย เธอจบการศึกษาสูงสุดที่ EBS (European Business School), Madrid, Spain Degree: B.A. in International Business Management
หลังจากเรียนจบคาโรลีนเริ่มเข้ามาร่วมงานในกลุ่มบี.กริม พ.ศ.2551 เธอต้องเรียนรู้ธุรกิจทุกอย่าง เริ่มจากเข้าไปทำงานในบริษัทร่วมทุนและเริ่มขายยา
บี.กริมมีธุรกิจหลักทั้งหมด 6 กลุ่ม คือ ธุรกิจพลังงาน คมนาคม เครื่องปรับอากาศ ธุรกิจสุขภาพ ด้านไลฟ์สไตล์ และอสังหาริมทรัพย์
ในปัจจุบันบริษัทเริ่มหยุดดำเนินกิจการธุรกิจคมนาคม เพราะที่ผ่านมาบริษัทร่วมมือกับบริษัทซีเมนส์ ประเทศเยอรมนี แต่หลังจากซีเมนส์ขายกิจการให้กับโนเกีย ทำให้บี.กริมถอนตัว และงานสุดท้ายของธุรกิจนี้ก็คือแอร์พอร์ตลิงค์
“งานแอร์พอร์ตลิงค์เป็นงานสุดท้าย เพราะเป็นงานที่ยาก ไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเกี่ยวข้อง ไม่มีก็ไม่เดือดร้อน”
ขณะเดียวกันธุรกิจคมนาคม ฮาราลด์ ลิงค์มองว่าไม่เหมาะ กับลูกสาว เพราะเป็นอุตสาหกรรมหนักที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้มาก ซึ่งก็สอดคล้องกับความสนใจในธุรกิจของคาโรลีน ลิงค์ ที่ชอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และสุขภาพมากกว่า หลังจากเข้ามาร่วมทำงานกับหลายๆ กลุ่มธุรกิจ
“ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับสถาปนิก และโครงการเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา ทำให้งานสนุกและท้าทาย”
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้อาจยังไม่โดดเด่น เพราะเป็นการบริหารตึก 2 แห่งของบริษัท คือ อาคารอัลม่า ลิงค์ บริเวณสุขุมวิท และอาคาร ดร.แกร์ฮาร์ดลิงค์ บริเวณหัวหมาก (ก่อนเข้า หมู่บ้านนักกีฬา) แต่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่พื้นที่ 1,500 ไร่ พัทยา ชลบุรี มีแผนสร้างที่อยู่อาศัยภายใต้คอนเซ็ปต์สไตล์ยุโรป และอยู่ระหว่างการศึกษาตลาด
สำหรับคาโรลีน นอกเหนือจากการเรียนรู้งานทุกด้านแล้ว ต้องเรียนรู้วัฒนธรรมไทย คนไทย เพราะประวัติการศึกษาร่ำเรียน จากต่างประเทศทั้งหมด ทุกอย่างจึงเป็นตะวันตก แม้จะมีเชื้อชาติ เยอรมัน มีสัญชาติไทยเหมือนพ่อก็ตาม
“ได้รับคำแนะนำจากพ่อ พ่อบอกว่าให้ใจเย็นลง แล้วก็ยิ้ม เพราะเป็นคนใจร้อน เวลาฟังทำหน้าซีเรียสเกิน เขาจะชอบบ่น แต่เป็นจุดเล็ก ถ้าประชุมนานทุกคนจะเครียดเห็นหน้าเรา” คาโรลีนเล่าให้ ผู้จัดการ 360 ํ ฟังพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ตำแหน่งของคาโรลีนในปัจจุบันยังไม่ชัดเจน แต่มีหน้าที่ทำงานชัดเจน คือประสานงานสื่อสารและแบรนด์องค์กร รวมทั้งเป็นกลุ่มฝ่ายพัฒนาและกลยุทธ์องค์กร
ตลอดระยะ 4 ปีที่ทำงานในบริษัท คาโรลีนให้ความสำคัญ เรื่องแบรนด์เป็นอย่างมาก แม้ว่าธุรกิจจะมีอายุนานกว่าหนึ่งศตวรรษ แต่ด้วยมีธุรกิจหลากหลายและเน้นหนักไปในกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ ทำให้คนภายนอกอาจไม่รู้แน่ชัดว่าองค์กรแห่งนี้ทำอะไรบ้าง รวมถึงองค์กรไม่ได้สื่อสารออกไปในวงกว้างมากนัก
เหตุผลส่วนหนึ่งที่แบรนด์ของบี.กริม เริ่มไม่เป็นที่รู้จัก แม้ว่าในยุคเริ่มต้นทำธุรกิจในฐานะผู้นำเข้าสินค้าทุกประเภท บี.กริม.จะติดแบรนด์เข้าไปในสินค้า หลังจากบริษัทหันมาร่วมทุนกับพันธมิตร คนจะรู้จักแบรนด์ของพันธมิตรมากกว่า
เป้าหมายการสร้างแบรนด์จึงเริ่มต้นอีกครั้ง โดยให้บริษัทในเครือมีการสื่อสารภายในมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาจำนวนบริษัทมีจำนวนมาก ทำให้รู้จักกันเฉพาะในบริษัท หรือแผนกตนเองกลายเป็นว่าในกลุ่มบี.กริมก็มีอาณาจักรเล็กๆ อยู่ในนั้น จึงทำให้ขาดการติดต่อสื่อสาร เพราะองค์กรมีพนักงานประมาณ 3,000 คน
การมีอาณาจักรเล็กๆ ในกลุ่มบี.กริม แม้แต่คาโรลีนก็รู้ว่าต้องใช้เวลาเพื่อการสื่อสารทุกบริษัท ทุกแผนก และสิ่งที่เริ่มเข้ามาปรับเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเธอเองก็เชื่อว่าการสร้างแบรนด์นั้นต้องใช้เวลาจากนี้ไปและไม่จบสิ้น
เริ่มจากการปรับชื่อบริษัท จะต้องมีคำว่า “บี.กริม” อยู่ทุกบริษัท แม้กระทั่งอีเมลจะต้องไม่ใช้ชื่อย่อ เช่น บริษัท บี.กริม แมนูแฟคตอริ่ง จำกัด อีเมลอาจจะใช้คำว่า email: gpower ต้อง เปลี่ยนมาเป็น bgrimmgreenpower.com เป็นต้น
ระยะเวลา 4 ปีในการเรียนรู้ในกลุ่มบี.กริม ทำให้คาโรลีน เข้าใจในธุรกิจและซึมซับวัฒนธรรมไทยมากขึ้น ทว่าการเรียนรู้ของเธอยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะมีความตั้งใจจะออกไปแสวงหา ประสบการณ์จากองค์กรภายนอกเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในหรือต่างประเทศก็ตาม
การเติบโตของธุรกิจในกลุ่มบี.กริมมีแนวโน้มไปที่ธุรกิจพลังงาน ไม่ได้สร้างความกังวลให้คาโรลีนมากนัก เพราะผู้บริหาร ส่วนใหญ่ล้วนเป็นมืออาชีพ และพ่อของเธออายุไม่มาก สุขภาพแข็งแรง
อย่างไรก็ดี ในอนาคต หากเธอต้องเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัวก็ไม่หนักใจมากนัก เพราะเชื่อว่าไม่ได้อยู่บนโลกนี้เพียงลำพัง ต้องพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุด ฟังผู้ใหญ่ หากทำสิ่งใดผิดพลาดก็ยินดีรับฟัง เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด
สิ่งที่ฮาราลด์ ลิงค์คาดหวังจากลูกสาวก็คือ ต้องเข้าใจธุรกิจ มีมนุษยสัมพันธ์ดี ทำงานกับคนไทยได้ ต้องใจบุญทำงานเพื่อสังคม และวางบทบาทตัวเองได้ใน 3 ระดับ เป็นผู้ถือหุ้น เป็นกรรมการ เป็นผู้บริหาร
“สิ่งแรกที่เขาต้องเข้าใจเป็นผู้ถือหุ้นทำอย่างไร และเป็นกรรมการทำอย่างไร ถ้าเข้าใจการเป็นผู้บริหารด้วยก็เป็นบุญ ผมพยายามสร้างให้เขาเป็นกรรมการที่เก่ง เป็นผู้ถือหุ้นที่ดี”
นับเป็นเรื่องท้าทายสำหรับ “คาโรลีน ลิงค์” ผู้บริหารหญิงรุ่น 4 ไม่น้อย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|