|
กิฟฟารีนปรับแผนลุยเดี่ยวตปท.เล็งบุกอเมริกาตลาดหิน
ASTV ผู้จัดการรายวัน(23 พฤษภาคม 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
กิฟฟารีนปรับแผนลุยต่างประเทศ เน้นลงทุนเอง ไม่มุ่งแฟรนไชส์ อีก1-2ปีเตรียมบุกอเมริกา พร้อมปรับโปรแกรมท่องเที่ยวระยะสั้นกระตุ้นนักขายมือใหม่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ล่าสุดร่วมกับ Firmenich เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นเฉพาะสำหรับกิฟฟารีน ก.ย.วางขาย ภายใต้งบการลงทุนรวมปีนี้มากกว่า 300 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีรายได้แตะ 5,500 ล้านบาทตามเป้า
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของกิฟฟารีนในปีนี้มั่นใจว่า จะมีรายได้รวมตามเป้าที่วางไว้คือ 5,500 ล้านบาทเติบโตขึ้น 10% โดยใน4เดือนแรกที่ผ่านมา มีการเติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยฉพาะในเดือนเม.ย. ที่มีความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้เม.ย.ปีนี้การเติบโตดีกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก ดังนั้นปัจจัยที่น่ากังวลมากที่สุด ยังคงเป็นเรื่องของการเมือง ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น ถึงแม้ว่าฝ่ายใดจะก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาลหรือผู้นำประเทศก็ตาม
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ รวมใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ประกอบด้วย งบอินเทอร์นอล มาร์เก็ตติ้งไว้กว่า 200 ล้านบาท สำหรับการจัดกิจกรรมโปรแกรมท่องเที่ยวระยะสั้นรอบ6เดือนให้กับนักขายมือใหม่ เดิมการจัดเที่ยวจะรับได้ไม่กี่คน ตอนนี้ปรับวิธีการใหม่สามารถจัดได้มากยิ่งขึ้น จากระดับสิบคนสู่ระดับร้อยคนเริ่มใช้ครั้งแรกแล้วกับทริปไปฮ่องกงที่ผ่านมา ขณะที่งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ปีนี้ใช้กว่า 100 ล้านบาท และงบไอทีอีกว่า 30 ล้านบาท ส่วนงบพัฒนาสินค้าใหม่อีก 20 ล้านบาท โดยครึ่งปีหลังนี้จะมีออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกร่วม10 รายการในทุกกลุ่มสินค้า
ล่าสุดทางบริษัทได้ร่วมกับทาง บริษัท Firmennich (เฟิร์มเมนิช) บริษัทผู้ผลิตหัวน้ำหอมยักษ์ใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส ในการสร้างสรรค์น้ำหอม Giffarine Signature Eau De Parfum กลิ่นเฉพาะที่เป็นซิกเนเจอร์ลิขสิทธิ์ของกิฟฟารีน สำหรับผู้ชาย1กลิ่น และผู้หญิง1กลิ่น จับกลุ่มอายุตั้งแต่ 25-35 ปี วางราคาในระดับพรีเมี่ยม ราว 1,300-1,400 บาท คาดว่าจะวางจำหน่ายได้ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.นี้จาเดิมกิฟฟารีนมีน้ำหอมวางขายอยู่กว่า 26 กลิ่น และกลุ่มเครื่องหอมประกอบด้วยน้ำหอมและเครื่องประทินผิวนี้สร้างยอดขายให้ที่ 5-10% เทียบกับยอดขายรวมทั้งหมด โดยมองว่าปีนี้กลุ่มเครื่องหอมจะเติบโตขึ้นอีก 2-5%
อย่างไรก็ตามปีนี้ทางบริษัทได้ปรับวิธีการในการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศใหม่ด้วย จากเดิมที่มีการขายแฟรนไชส์ เช่นในมาเลเซีย และกัมพูชา จากนี้ไปบริษัทจะมุ่งเข้าไปลงทุนเอง เพื่อความสะดวกในการทำงานอย่างเต็มที่ และจะไปในลักษณะของธุรกิจเครือข่ายเช่นเดียวกัน โดยในอีก 1-2 ปีนี้ จะเข้าไปลงทุนที่สหรัฐอเมริกา รวมถึงในฟิลิปปินส์จะเริ่มได้ในปีหน้าและลาวในสิ้นปีนี้ เป็นต้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|