วรวัฒน์ ปั้นจิตร สู่สุขคติแล้วครอบครัวก็คงจะต้องดิ้นรนกันไป


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2530)



กลับสู่หน้าหลัก

ที่จริง "ผู้จัดการ" ภายหลังถ่ายทอดเรื่องราวของวรวัฒน์ ปั้นจิตร อดีตพนักงานบริษัทโกดัก (ประเทศไทย) ที่ป่วยเป็นมะเร็งในสมองและต้องถูกให้ออกจากงาน ก็ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเขามาโดยตลอด

เราทราบว่าอาการป่วยของวรวัฒน์ทรุดอยู่ทุกขณะ

ทราบว่าภรรยาพยายามทวงถามความเป็นธรรมจากโกดัก และได้รับการสนองตอบระดับหนึ่งโดยเฉพาะเพื่อนพนักงานหลายฝ่ายถึงกับรวบรวมเงินคนละนิดคนละหน่อย เตรียมนำมามอบให้กับครอบครัวของวรวัฒน์

แต่ดูเหมือนจะไม่มีเสียงขานตอบจากตัวบริษัทโกดัก

"ก็พูดกันว่าผู้บริหารหลายคนเห็นใจวรวัฒน์ แต่ลมเสียมากที่เรื่องของวรวัฒน์ปรากฏอยู่บนหนังสือพิมพ์ทำให้โกดักเสียภาพพจน์…" แหล่งข่าวคนหนึ่งบอกกับ "ผู้จัดการ"

ภรรยาของวรวัฒน์นั้นภายหลังจากเฝ้ารออยู่นานพอควรว่าจะมีอะไรจากโกดักหรือไม่ ซึ่งก็ปรากฏแต่ความเงียบ

ก็เลยต้องตัดสินใจเดินขึ้นศาลแรงงานกลาง ฟ้องบริษัทโกดักเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับวรวัฒน์ที่ตอนนั้นได้แต่นอนแบบเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนไม่ได้แล้ว "ก็ขึ้นแบบอนาถาไม่มีเงินจ้างทนายต้องขอความช่วยเหลือจากนิติกรของศาลแรงงานกลาง…" คนที่รู้จักกับครอบครัวของวรวัฒน์เล่า

คดีระหว่างวรวัฒน์ ปั้นจิตรกับบริษัทโกดัก (ประเทศไทย) แรก ๆ ก็มีแนวโน้มว่าจะต้องยืดเยื้อไปอีกนาน เพราะฝ่ายโกดัก (ประเทศไทย) ก็บอกว่า ได้ตัดสินใจกระทำลงไปถูกต้องตามขั้นตอนและกฎเกณฑ์ทุกประการแล้ว

แต่ภายหลังการขึ้นให้การของภรรยาวรวัฒน์ ที่บอกกับศาลด้วยน้ำตานองหน้ายังความสลดหดหู่ให้กับคนที่พบเห็น และรับทราบชะตากรรมของวรวัฒน์ที่จะมีผลกระทบถึงครอบครัวรวมทั้งลูกชายตาดำ ๆ อีก 2 คนของเขา ฝ่ายโกดัก (ประเทศไทย) ก็ตัดสินใจยุติข้อพิพาทยินยอมจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับวรวัฒน์ไปตามจำนวนที่เรียกร้อง

"วรวัฒน์เรียกไปแสนเศษ หักหนี้ที่วรวัฒน์ค้างชำระกับโกดักก็เหลือราว ๆ 8 หมื่นบาท…" แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวพร้อมกับถือโอกาสชมเชยความมีน้ำใจของโกดักพอหอมปากหอมคอ

และเงินก้อนนี้วรวัฒน์คงจะต้องยินดีมาก ๆ ก็เป็นได้ เพราะมันไม่ได้ถูกใช้ไปกับการป่วยของเขามากนัก หากแต่สามารถเก็บเป็นค่าใช้จ่ายของภรรยาและลูกได้อย่างน้อยก็วาระหนึ่ง

วรวัฒน์ ปั้นจิตร สิ้นลมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2528 วันสิ้นปีที่ทุกครอบครัวเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข!

พิธีศพของเขาจัดอย่างประหยัดและรวบรัดท่ามกลางแขกวงในจริง ๆ ในพิธีสวด 2 คืนแรกเนื่องจากเป็นวันหยุดติดต่อผู้คนลำบาก

กระทั่งคืนที่ 3 ที่เป็นคืนสุดท้าย เพื่อน ๆ พนักงานโกดักกับเพื่อน ๆ ที่เคยทำงานชิปปิ้งด้วยกันจึงได้มีโอกาสมาคารวะศพ ซึ่งพนักงานโกดักนั้นก็ล้วนแต่เป็นพนักงานธรรมดา ๆ ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมงานฝ่ายเดียวกันมาเป็นส่วนใหญ่ ไม่ปรากฏแม้แต่เงาของผู้หลักผู้ใหญ่สักคนเดียว

รุ่งขึ้นอีกวันก็เป็นวันปลงศพ

เป็นการจากไปตามการคาดหมายที่หลาย ๆ คนก็ภาวนาว่าอย่าได้เป็นเช่นนั้นเลย

ครอบครัวของวรวัฒน์ ปั้นจิตรเองก็มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญอีกครั้งหนึ่ง

ทุกคนจะต้องปรับตัวและหาทางดิ้นรนเอาชีวิตรอด

และเรื่องราวของหัวหน้าครอบครัวของพวกเขาเช่นวรวัฒน์นั้น คงทำให้ต้องจดจำชื่อโกดักไปอีกนาน ไม่ต้องมานึกตอนเลือกกระดาษอัดภาพสีอย่างที่โฆษณานั่นหรอก



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.