|
'แมคฟิว่า' จับเทรนด์คนชอบไอที สร้าง 'Twitmedia' รายแรกของไทย
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(17 พฤษภาคม 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
ปัจจุบันการใช้สื่อไอทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งโซเชียลเน็ตเวิร์คในการโฆษณาสินค้าและบริการ คือสิ่งที่สำคัญที่สินค้าหลากหลายตัวให้ความสำคัญ เพราะเป็นช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคได้จำนวนมากในเวลาไม่นาน และเสียค่าใช้จ่ายไม่สูงเหมือนกับการโฆษณาทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์
ดังนั้น บริษัทเอเจนซี่ที่มุ่งเป้าทำโฆษณา หรือวางแผนสื่อทางออนไลน์จึงเริ่มมีให้เห็นในช่วงไม่เกิน 10 ปีที่ผ่านมา “แมคฟิว่า” (MCFIVA) คือหนึ่งในบริษัทเอเจนซี่รายแรกของไทยที่ให้ความสำคัญกับสื่อทางออนไลน์ โดย “ดร.ศุภชัย ปาจริยานนท์” กรรมการผู้จัดการ มองเห็นเทรนด์ของสื่อออนไลน์จึงได้จัดตั้งบริษัทเพื่อให้บริการด้านนี้เมื่อ 9-10 ปีก่อน
โดย “แมคฟิว่า” จะให้บริการในรูปแบบฟูลเซอร์วิสทางด้านดิจิตอล ทั้งงานด้านการวางแผนกลยุทธ์ งานครีเอทฟ มีเดีย งานโปรดักซ์ชั่น นอกจากนี้ ยังมีดิจิตอลแล็บเป็นของตัวเอง เพื่อพัฒนาดิจิตอลใหม่ๆ ออกสู่สายตาประชาชน
“แมคฟิว่า” ไม่ได้มุ่งแต่การทำสื่อทางด้านออนไลน์ แต่ยังทำหน้าที่วางแผนงานร่วมกับสื่ออื่นๆ เพื่อให้สินค้าของลูกค้าครบรูปแบบ IMC (Integrated Marketing Communication)
“แมคฟิว่าเราสปริงบอร์ดความคิดสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี จนก่อเกิดมาเป็นงานโฆษณาชิ้นโบแดง และพันธกิจของเราข้อหนึ่งก็คือการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นรายแรกเพื่อให้ลูกค้าของเรานำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอ”
นอกจากนี้ การหาช่องทางโฆษณาใหม่ๆ ยังนับเป็นหน้าที่สำคัญที่ “แมคฟิว่า” ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน จึงได้ติดต่อไปยัง Twitter Corporation USA เพื่อขอเป็นเอเจนซี่รายแรกในไทยที่ให้บริการ “Twitter Media” (ทวิตมีดีย)
เนื่องจากเห็นว่า “Twitter.com” มีผู้ใช้งานกว่า 195 ล้านรายทั่วโลก และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ล้านรายในแต่ละวัน พร้อมจำนวนทวีตที่มากกว่า 130 ล้านครั้งต่อวันทั่วโลก และกว่า 1 ล้านครั้งต่อวันในประเทศไทย นอกจากนี้ ปริมาณผู้ใช้ทวิตเตอร์ในไทยที่มีมากถึง 450,000 คน ซึ่งแต่ละวันมีผู้แอคทีฟสูงถึง 100,000 คนต่อวัน คือตัวเลขที่ชี้ให้เห็นว่าคนไทยใช้ทวิตเตอร์ไม่แพงชาติใดในโลก
นอกจากนี้ การที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์มีการพูดที่มากกว่าคนที่ใช้เฟซบุ๊ค นั้นแสดงว่า ทวิตเตอร์กำลังจะเป็นสื่อออนไลน์สำคัญที่เจ้าของสินค้าไม่ควรมองข้าม
ทั้งนี้ การให้บริการของ “Twitmedia” จะใช้ไลฟ์สไตล์และความสนใจของแต่ละบุคคลเป็นแกนกลางในการนำเสนอข้อมูลให้กับผู้บริโภค โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.Promoted Accounts ใช้สำหรับกลุ่มผู้ติดตาม (Follower) จำนวนมากแอคเคานต์ที่ใช้บริการดังกล่าวจะแสดงอยู่บริเวณ “Who to Follow” โดยแสดงตามคำที่ระบุซึ่งอยู่ในข้อความที่ผู้ใช้เขียนขึ้น โดยเมื่อผู้ใช้คลิกที่ปุ่มดังกล่าวก็จะถูกสงไปยังหน้าที่สร้างขึ้น เช่น Campaign site หรือ page
2.Promoted Tweets เหมาะสำหรับเจ้าของสินค้าที่ต้องการสื่อสารกับผู้ใช้งานมากกว่าเป็นเพียงแค่ผู้ติดตาม Promoted Tweets Box จะวางอยู่ในตำแหน่งของกล่องข้อมความที่ถูกเขียนขึ้นโดยผู้ใช้งาน เมื่อผู้ใช้คลิกที่ปุ่มดังกล่าวก็จะพบกับเนื้อหาที่ปรากฎขึ้นทางด้านขวาของจอภาพ จุดเด่นของ Promoted Tweet คือ ข้อความนั้นๆ จะถูกแสดงอยู่ในส่วนบนสุดของหน้านั้นตลอดเวลา
และ 3.Promoted Trends เหมาะสำหรับเจ้าของสินค้าที่ต้องการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวงสนทนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอาจทำให้สินค้านั้นก้าวขึ้นเป็นผู้กำหนดกระแสของหัวข้อการพูดคุย โดยปุ่ม Promoted Trends จะถูกแสดงอยู่บริหาร Trends และแสดงตามค่าที่ระบุซึ่งอยู่ในข้อความที่ผู้ใช้เขียนขึ้น และผู้ใช้จะพบกับตราสินค้านั้นเมื่อคลิกที่ปุ่ม Promoted Trends
ปัจจุบัน Twitter Corporation USA พร้อมให้ “แมคฟิว่า” ให้บริการ Promoted Accounts กับลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการให้บริการ Promoted Tweets จะเปิดให้บริการในไตรมาศ 2 พร้อมกันทั่วโลก
อย่างไรก็ดี การให้สิทธิกับ “แมคฟิว่า” ก่อนคนแรกของ Twitter Corporation USA นั้น ไม่ได้หมายความว่า Twitter Corporation USA จะไม่สามารถให้สิทธิคนอื่นได้ แต่ “แมคฟิว่า” เชื่อว่าการให้สิทธิการทำโฆณษาดังกล่าวก่อนบริษัทเอเจนซี่อื่นๆ ถือเป็นความได้เปรียบของ “แมคฟิว่า”
ปัจจุบันมีลูกค้าที่สนใจในบริการดังกล่าว 3 ราย คือ โตโยต้า แสนสิริ และดีแทค ซึ่งปีนี้บริษัทจะเน้นบริการให้ลูกค้าเป็นหลักก่อน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าแต่ละรายในการใช้นิวมีเดียมากกว่าการเพิ่มจำนวนลูกค้า โดยปีนี้จะมุ่งกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทของคนไทยเป็นหลัก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|