ครอบครัวผู้สร้างประสบการณ์ “โฮกุ้น เบรคเก้”

โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( เมษายน 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

ความเอื้ออารีของ “โฮกุ้น เบรคเก้” ที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นเพราะเขามาจากครอบครัวที่ร่วมหยิบยื่นประสบการณ์หลากหลายให้กับเขา

โฮกุ้น เบรคเก้ วัย 17 ปี และครอบครัวเป็นคนนอร์เวย์ เขามาจากครอบครัวอบอุ่นที่บิดาและมารดามีหน้าที่การงานมั่นคงในฐานะผู้บริหารระดับสูง

บิดาของเขา “ซิคเว่ เบรคเก้” ปัจจุบันเป็นรองประธานกลุ่มเทเลนอร์ กรุ๊ป ประเทศนอร์เวย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทเลนอร์เอเชีย และเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัทดีแทค ก่อนหน้าที่เขาจะเข้าร่วมงานกับเทเลนอร์ เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศนอร์เวย์ช่วงปี 2536-2539

ด้านการศึกษาเรียนปริญญาโทสาขารัฐศาสตร์จาก John F. Kennedy School of Government, Harward University

ส่วนมารดา โทรกุน โอ๊ส เรเกสต้าด์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Kids Action for Kids เธอยอมรับว่าภูมิใจในลูกชายที่มีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะประเทศไทยที่ครอบครัวของเธอได้มาอาศัยอยู่เป็นเวลานาน

โทรกุนมีประสบการณ์งานการเมืองกว่าสิบปี เริ่มตั้งแต่ปี 2526 ในตำแหน่งเลขาธิการของ The Norwegian Labour Party’s Youth Organization ในเมือง Buskerud ของนอร์เวย์ ด้วยวัยเพียง 21 ปี เธอก้าวขึ้นเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการประจำรัฐสภาหลายคณะ และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อายุน้อยที่สุด นอกจากนี้เธอเคยรับตำแหน่งที่ปรึกษาทางการเมืองและผู้จัดการพรรค Labour ซึ่งมีสมาชิกกว่า 155,000 คน ระหว่างปี 2529-2541

ปี 2552 เข้าสู่งานเอกชนโดยรับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้กับบริษัท The Scandinavian Power Brokers และก่อตั้งบริษัทของตัวเองในปี 2546 ที่สิงคโปร์ ก่อนจะย้ายมาที่ประเทศไทย

โทรกุนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทด้านบริหารจาก Norwegian School of Management ในนอร์เวย์ได้รับประกาศนียบัตรด้านบริหารจัดการจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดในสหรัฐอเมริกา และปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจาก National University of Singapore ประเทศสิงคโปร์

แม้ซิคเว่และโทรกุนจะเป็นผู้บริหารระดับสูง มีงานยุ่งเพียงใดแต่ทั้งสองจะต้องมีกิจกรรมร่วมกับลูกชายทั้ง 3 คน โฮกุ้น มาร์ติน และแอนเดิร์ส คือการเดินทางท่องเที่ยว

ประสบการณ์ของโฮกุ้นที่ต้องเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่หลายประเทศ เช่น นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์และไทย ทำให้เขาได้มีโอกาสเดินทางไปสัมผัสกับวัฒนธรรมหลากหลาย เขาสนใจทั้งการเมืองและสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้

โฮกุ้นมีกิจกรรมร่วมกับครอบครัวทุกปี คือการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ เป็นเวลาหนึ่งเดือนในช่วงหยุดเรียนภาคฤดูร้อน เขาบอกว่าเหมือนกับการเข้าห้องเรียนอีกแบบหนึ่ง เพราะมีโปรแกรมที่ยาวเหยียดและอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในต่างประเทศ โดยครอบครัวของเขาจะหลีกเลี่ยงไม่ไปสถานที่ท่องเที่ยว แต่จะเลือกไปในที่ที่ทำให้ได้เห็นและสัมผัสการใช้ชีวิตชาวบ้าน

เขาเล่าประสบการณ์การเดินทางที่ผ่านมาว่า ระหว่างไปเที่ยวเปรู ครอบครัวเขาได้สุ่มเดินเคาะประตูตามบ้านของชุมชนที่อาศัยในเทือกเขาสูงแห่งหนึ่ง เพื่อดูว่าจะมีใครอนุญาตให้เราเข้าไปเยี่ยมชมบ้านและวิถีความเป็นอยู่ของเขาบ้างหรือไม่

แม้กระทั่งการเดินทางไปเชียงใหม่ เขาไปอาศัยอยู่กับชาวเขา หรือตอนไปรัฐเซาท์ดาโคตาที่สหรัฐอเมริกา ก็ได้ร่วมกิจกรรมกับชาวอินเดียนแดง รวมถึงเดินไปดูชุมชนแออัดในดักกา (บังกลาเทศ) และริโอ เด จาเนโร ในบราซิล

ประสบการณ์เหล่านี้ โฮกุ้นมองว่าดีกว่าเดินทางไปดูพิพิธภัณฑ์ เพราะมันจะอยู่ในความทรงจำเขาตลอดไป ขณะที่ภาพวาดที่เห็นในพิพิธภัณฑ์จะเลือนหายไปจากใจเราอย่างรวดเร็ว

การติดตามครอบครัวไปยังสถานที่ต่างๆ ของโฮกุ้น ไม่ได้เพียงเปิดโลกทัศน์ของเขาเท่านั้น แต่เขายังมีโอกาสแบ่งปันสิ่งที่เขามีให้กับคนที่ด้อยโอกาส


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.