|
SUSCO รุก NGV
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( เมษายน 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
ภูมิทัศน์ของตลาด NGV กำลังขยายตัวต่อเนื่อง และอาจเผยให้เห็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะ ปตท. เมื่อบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายธุรกิจทุ่มเงิน 400 ล้านบาท เข้าซื้อสถานีบริการ NGV ใหญ่ที่สุด รองรับความต้องการใช้ NGV ในภาคขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น
ชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทได้ตัดสินใจใช้เงินลงทุนรวม 400 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนในส่วนของสถานีให้บริการก๊าซธรรมชาติ (NGV) ตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งนี้ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่มีการแข่งขันสูง อีกทั้งแนวโน้ม ความต้องการใช้ NGV ในภาคขนส่งได้เพิ่มสูงขึ้นมาก ในขณะที่สถานีบริการ NGV ยังมีอัตราการขยายตัวไม่ทันกับความต้องการ
“การซื้อกิจการสถานีบริการ NGV ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาเข้าซื้อบริษัท สิริเจริญวัฒนา จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานีดังกล่าว พร้อมทั้งที่ดินในวงเงินรวม 400 ล้านบาท โดยสถานีดังกล่าวได้ดำเนินการมาแล้วประมาณ 2 ปี ปัจจุบันมียอดขายก๊าซธรรมชาติประมาณ 100 ตัน/วัน”
สำหรับสถานีบริการ NGV ที่ SUSCO เข้าซื้อกิจการ ตั้งอยู่ติดกับสถานีขนส่งสายใต้ใหม่บนถนนบรมราชชนนี บนเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ เป็นสถานีให้บริการ NGV ขนาดใหญ่ที่มี 48 หัว จ่าย สามารถจ่ายก๊าซธรรมชาติได้สูงถึงประมาณ 230 ตัน/วัน รองรับการให้บริการรถได้กว่า 5,000 คันต่อวัน โดยแยกเป็นสถานี ที่ให้บริการเฉพาะรถขนาดใหญ่ (Fleet Station) และสถานีที่ให้บริการทั่วไป (Super Conventional Station) และถือเป็นสถานี บริการก๊าซธรรมชาติประเภทแนวท่อที่ใหญ่ที่สุด โดย SUSCO เริ่มเข้าไปบริหารสถานี NGV แห่งนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
มาวีร์ สิมะโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมและแสดงความเชื่อมั่นต่อการลงทุนใหญ่ครั้งสำคัญในครั้งนี้ว่า เป็นการขยายฐานธุรกิจในส่วนของสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับความต้องการใช้ NGV ในภาคขนส่งที่สูงขึ้น โดยประเมินจากตัวเลขในภาพรวมของตลาดที่มียอดขายผ่านสถานีบริการ NGV ทั่วประเทศประมาณ 4,000 ตัน/วัน ในปี 2552 และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6,000 ตัน/วัน ในปัจจุบัน ซึ่งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ที่สำคัญ สถานีบริการ NGV แห่งนี้ ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพมาก เนื่องจากอยู่ติดกับสถานีขนส่งสายใต้ใหม่เป็นศูนย์การเดินรถไปยังจังหวัดในภาคใต้ของประเทศ อีกทั้งรถโดยสารขนาดใหญ่ได้ทยอยเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว มาเป็นใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงร่วม เพราะสามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้อย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีรถตู้และรถแท็กซี่ที่เวียน เข้ามารับผู้โดยสาร และใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หากในอนาคต สถานีขนส่งสายใต้มีการขยายตัว สถานีบริการแห่งนี้ก็จะมียอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”
ปัจจุบัน บมจ.ซัสโก้ มีกำไรขั้นต้นก่อนหักค่าใช้จ่ายประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นกำไรขั้นต้นที่มาจากสถานีบริการ NGV ประมาณร้อยละ 10 เมื่อซื้อสถานีบริการดังกล่าวเข้ามาคาดว่าจะทำให้สัดส่วนกำไรขั้นต้นที่มาจากธุรกิจ NGV เพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 20 ภายใน 2 ปี ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันอยู่ 147 แห่งทั่วประเทศ และมีสถานีบริการ LPG 7 แห่ง สถานีบริการ NGV จำนวน 8 แห่ง การเข้าซื้อสถานี NGV แห่งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีสถานีบริการ NGV รวมเป็น 9 แห่ง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|