ซีเคียว-ริคอร์กับเงิน 500,000 บาท ธ.กรุงเทพสาขาบางแค กับ สน.หลักสอง


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2528)



กลับสู่หน้าหลัก

ซีเคียว-ริคอร์ เป็นบริษัทขนส่งเงินทองของต่างประเทศที่ทำมานานแล้วในหลายประเทศ

ในประเทศไทย ซีเคียว-ริคอร์ เพิ่งจะเข้ามาในปีสองปีนี้ โดยร่วมหุ้นกับ วารินทร์ พูนศิริวงศ์ ประธานและผู้ถือหุ้นใหญ่ของหนังสือพิมพ์แนวหน้า

หนังสือพิมพ์แนวหน้าเดิมทีเป็นโครงการเริ่มโดยเผด็จ ภูรีปฏิภาณ หรือ "พญาไม้" กับชูพงศ์

มณีน้อย กับ ประสงค์ ธนเศรษฐการ หรือ "บารอน" กับ สุภาพ คลี่ขจาย หรือ "ฉัตร เชิงดอย" ร่วมกับหนังสือพิมพ์บ้านเมือง

จนมาวันหนึ่งหนังสือพิมพ์บ้านเมืองก็บอกให้หนังสือพิมพ์แนวหน้าพยายามยืนอยู่บนลำแข้งของ

ตนเอง

เผด็จ ภูริปฏิภาณก็แสวงหาหุ้นส่วนใหม่ ได้คนที่ชื่อ วารินทร์ พูนศิริวงศ์ ซึ่งมีกิจการส่งวัสดุชื่อ WORLD EXPRESS

วารินทร์ พูนศิริวงศ์ มีภรรยาชื่อ ผานิต พูนศิริวงศ์ ผู้ซึ่งได้รับปริญญามาจากสาขาสื่อมวลชน

ซึ่งต้องการจะทำหนังสือมาก

การสันถวะกันระหว่างสองกลุ่มก็ดูจะไปด้วยดีพอสมควร พร้อมกับการลงทุนซื้อแท่นพิมพ์และขยายงาน

จนวันหนึ่ง เหมือนกับตำนานหุ้นส่วนทั่วๆ ไปที่เผด็จ ภูริปฏิภาณ ต้องจากแนวหน้ามาด้วยความขมขื่น

วารินทร์ พูนศิริวงศ์ เองก็ได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกขึ้นมาไม่นานนักหลังจากมีชื่อว่าเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ที่ชื่อแนวหน้า ส่วนผานิต พูนศิริวงศ์ ที่ใช้นามปากกาว่า "คุณแหน" ในที่สุดก็มีความสุขกับการเริงร่าถลาไปตามงานต่างๆ พร้อมทีมงานถ่ายรูปเขียนแต่ข่าวสังคม บรรยายแต่ภาพงานที่มีระดับ รวมทั้งการเข้าไปเสวนากับกลุ่มต่างๆ ที่อยู่ในระดับซึ่งเธอคิดว่าไม่ทำให้สถานภาพตกต่ำ

วารินทร์ พูนศิริวงศ์ ก็เริ่มพูดจาแล้วชักจะมีคนฟังบ้าง เพราะเป็นถึงวุฒิสมาชิก และเจ้าของหนังสือพิมพ์แนวหน้า และไม่นานต่อมา วารินทร์ก็ได้งานส่งเงินตามสาขาต่างๆ ของกรุงเทพจากชาตรี โสภณพนิช ในนามของซีเคียว-ริคอร์ หลังจากเพียรพยายามเอาอกเอาใจบรรดาผู้บริหารธนาคารกรุงเทพอย่างหนัก

ส่วนเผด็จ ภูริปฏิภาณ คนขี่หลังเสือ หลังจากไปจับหนังสือรายสัปดาห์ที่ชื่อนิวสตรีทอยู่พักหนึ่ง ก็ได้มีโอกาสไปขี่เสือตัวใหญ่ที่ชื่อ "ข่าวสด" อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อขมิ้นอยู่ที่ "ข่าวสด" และปูนอยู่ที่ "แนวหน้า" ก็เป็นของธรรมดาที่คนซื้อแนวหน้าก็ต้องซื้อข่าวสด

ถึงแม้ว่าเนื้อความในคอลัมน์บางคอลัมน์ไม่ได้เอ่ยชื่อผู้เคราะห์ร้าย แต่คนที่อยู่ในวงการก็พอจะรู้ว่าใครเป็นใคร

การส่งลูกไปมาระหว่าง "แนวหน้า" กับ "ข่าวสด" มักจะเป็นฝ่ายข่าวสดเป็นผู้รุกโดยแนวหน้า

เป็นผู้รุกโดยแนวหน้าเป็นคนรับตลอด

จนกระทั่งวันหนึ่ง ธนาคารกรุงเทพสาขาบางแค ได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจหลักสองว่า เงินที่บริษัทซีเคียว-ริคอร์ ส่งมาจากสำนักงานใหญ่ขาดส่ง 500,000 บาท ขอให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ช่วยหาคนร้ายให้ด้วย

"ข่าวสด" ก็ไม่รีรอที่จะทำข่าวชิ้นนี้ด้วยความกระตือรือร้นเป็นพิเศษ แต่เผอิญการพาดหัวข่าวค่อนข้างจะทำให้ซีเคียว-ริคอร์ เชื่อว่าเป็นการหมิ่นประมาทไปหน่อย

วารินทร์และคณะก็คงรออยู่แล้ว ก็เลยคิดจะดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท

แต่ถึง "ข่าวสด" จะถูกดำเนินคดีก็ตาม

ซีเคียว-ริคอร์เองก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเงินที่หายไป 500,000 บาทนั้น หาใช่ฝีมือของซีเคียว-ริคอร์ไม่

"ทางซีเคียว-ริคอร์ เขามั่นใจว่าตัว SEAL ที่ปากถุงเงินนี้เปิดกันไม่ได้ ถึงกับฝรั่งที่บินมาจากเมืองนอกจะให้รางวัลผู้เปิด SEAL ปากถุงได้เป็นแสน" แหล่งข่าวผู้รู้เรื่องดีเปิดเผยให้ฟัง

"คุณชาตรีสั่งมาให้พิสูจน์หาตัวผู้รับผิดชอบให้ได้ เดิมทีทางซีเคียว-ริคอร์เขาจะชดใช้เงินก้อนนี้ให้ แต่ทางแบงก์คิดว่าเรื่องนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ชดใช้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นฝ่ายแบงก์นับเงินใส่ถุงขาดก็จะได้รู้กันว่าใครจะได้ลงโทษกันถูก แต่ถ้าเป็นคนของซีเคียว-ริคอร์ทำเอง ก็ต้องว่ากันไป" คนภายในธนาคารกรุงเทพพูดให้ฟัง

แต่ที่แน่ๆ ทางแผนกจัดเงินยืนยันมาว่ายอดเงินถูกต้องและลงตัวพอดี

ก็ยังรอดูต่อไปว่างานนี้ ซีเคียว-ริคอร์ จะซีเคียวมากแค่ไหน ?

แหม "แนวหน้า" ก็น่าจะลงข่าวเรื่องเงินหายเสียหน่อยก็จะได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีทำไมให้

ข่าวสดแย่งข่าวดีๆ ไปลงเสียด้วยก็ไม่รู้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.