ซีเคียว-ริคอร์ เป็นบริษัทขนส่งเงินทองของต่างประเทศที่ทำมานานแล้วในหลายประเทศ
ในประเทศไทย ซีเคียว-ริคอร์ เพิ่งจะเข้ามาในปีสองปีนี้ โดยร่วมหุ้นกับ
วารินทร์ พูนศิริวงศ์ ประธานและผู้ถือหุ้นใหญ่ของหนังสือพิมพ์แนวหน้า
หนังสือพิมพ์แนวหน้าเดิมทีเป็นโครงการเริ่มโดยเผด็จ ภูรีปฏิภาณ หรือ "พญาไม้"
กับชูพงศ์
มณีน้อย กับ ประสงค์ ธนเศรษฐการ หรือ "บารอน" กับ สุภาพ คลี่ขจาย
หรือ "ฉัตร เชิงดอย" ร่วมกับหนังสือพิมพ์บ้านเมือง
จนมาวันหนึ่งหนังสือพิมพ์บ้านเมืองก็บอกให้หนังสือพิมพ์แนวหน้าพยายามยืนอยู่บนลำแข้งของ
ตนเอง
เผด็จ ภูริปฏิภาณก็แสวงหาหุ้นส่วนใหม่ ได้คนที่ชื่อ วารินทร์ พูนศิริวงศ์
ซึ่งมีกิจการส่งวัสดุชื่อ WORLD EXPRESS
วารินทร์ พูนศิริวงศ์ มีภรรยาชื่อ ผานิต พูนศิริวงศ์ ผู้ซึ่งได้รับปริญญามาจากสาขาสื่อมวลชน
ซึ่งต้องการจะทำหนังสือมาก
การสันถวะกันระหว่างสองกลุ่มก็ดูจะไปด้วยดีพอสมควร พร้อมกับการลงทุนซื้อแท่นพิมพ์และขยายงาน
จนวันหนึ่ง เหมือนกับตำนานหุ้นส่วนทั่วๆ ไปที่เผด็จ ภูริปฏิภาณ ต้องจากแนวหน้ามาด้วยความขมขื่น
วารินทร์ พูนศิริวงศ์ เองก็ได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกขึ้นมาไม่นานนักหลังจากมีชื่อว่าเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ที่ชื่อแนวหน้า
ส่วนผานิต พูนศิริวงศ์ ที่ใช้นามปากกาว่า "คุณแหน" ในที่สุดก็มีความสุขกับการเริงร่าถลาไปตามงานต่างๆ
พร้อมทีมงานถ่ายรูปเขียนแต่ข่าวสังคม บรรยายแต่ภาพงานที่มีระดับ รวมทั้งการเข้าไปเสวนากับกลุ่มต่างๆ
ที่อยู่ในระดับซึ่งเธอคิดว่าไม่ทำให้สถานภาพตกต่ำ
วารินทร์ พูนศิริวงศ์ ก็เริ่มพูดจาแล้วชักจะมีคนฟังบ้าง เพราะเป็นถึงวุฒิสมาชิก
และเจ้าของหนังสือพิมพ์แนวหน้า และไม่นานต่อมา วารินทร์ก็ได้งานส่งเงินตามสาขาต่างๆ
ของกรุงเทพจากชาตรี โสภณพนิช ในนามของซีเคียว-ริคอร์ หลังจากเพียรพยายามเอาอกเอาใจบรรดาผู้บริหารธนาคารกรุงเทพอย่างหนัก
ส่วนเผด็จ ภูริปฏิภาณ คนขี่หลังเสือ หลังจากไปจับหนังสือรายสัปดาห์ที่ชื่อนิวสตรีทอยู่พักหนึ่ง
ก็ได้มีโอกาสไปขี่เสือตัวใหญ่ที่ชื่อ "ข่าวสด" อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อขมิ้นอยู่ที่ "ข่าวสด" และปูนอยู่ที่ "แนวหน้า"
ก็เป็นของธรรมดาที่คนซื้อแนวหน้าก็ต้องซื้อข่าวสด
ถึงแม้ว่าเนื้อความในคอลัมน์บางคอลัมน์ไม่ได้เอ่ยชื่อผู้เคราะห์ร้าย แต่คนที่อยู่ในวงการก็พอจะรู้ว่าใครเป็นใคร
การส่งลูกไปมาระหว่าง "แนวหน้า" กับ "ข่าวสด"
มักจะเป็นฝ่ายข่าวสดเป็นผู้รุกโดยแนวหน้า
เป็นผู้รุกโดยแนวหน้าเป็นคนรับตลอด
จนกระทั่งวันหนึ่ง ธนาคารกรุงเทพสาขาบางแค ได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจหลักสองว่า
เงินที่บริษัทซีเคียว-ริคอร์ ส่งมาจากสำนักงานใหญ่ขาดส่ง 500,000 บาท ขอให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ช่วยหาคนร้ายให้ด้วย
"ข่าวสด" ก็ไม่รีรอที่จะทำข่าวชิ้นนี้ด้วยความกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
แต่เผอิญการพาดหัวข่าวค่อนข้างจะทำให้ซีเคียว-ริคอร์ เชื่อว่าเป็นการหมิ่นประมาทไปหน่อย
วารินทร์และคณะก็คงรออยู่แล้ว ก็เลยคิดจะดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท
แต่ถึง "ข่าวสด" จะถูกดำเนินคดีก็ตาม
ซีเคียว-ริคอร์เองก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเงินที่หายไป 500,000 บาทนั้น
หาใช่ฝีมือของซีเคียว-ริคอร์ไม่
"ทางซีเคียว-ริคอร์ เขามั่นใจว่าตัว SEAL ที่ปากถุงเงินนี้เปิดกันไม่ได้
ถึงกับฝรั่งที่บินมาจากเมืองนอกจะให้รางวัลผู้เปิด SEAL ปากถุงได้เป็นแสน"
แหล่งข่าวผู้รู้เรื่องดีเปิดเผยให้ฟัง
"คุณชาตรีสั่งมาให้พิสูจน์หาตัวผู้รับผิดชอบให้ได้ เดิมทีทางซีเคียว-ริคอร์เขาจะชดใช้เงินก้อนนี้ให้
แต่ทางแบงก์คิดว่าเรื่องนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ชดใช้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นฝ่ายแบงก์นับเงินใส่ถุงขาดก็จะได้รู้กันว่าใครจะได้ลงโทษกันถูก
แต่ถ้าเป็นคนของซีเคียว-ริคอร์ทำเอง ก็ต้องว่ากันไป" คนภายในธนาคารกรุงเทพพูดให้ฟัง
แต่ที่แน่ๆ ทางแผนกจัดเงินยืนยันมาว่ายอดเงินถูกต้องและลงตัวพอดี
ก็ยังรอดูต่อไปว่างานนี้ ซีเคียว-ริคอร์ จะซีเคียวมากแค่ไหน ?
แหม "แนวหน้า" ก็น่าจะลงข่าวเรื่องเงินหายเสียหน่อยก็จะได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีทำไมให้
ข่าวสดแย่งข่าวดีๆ ไปลงเสียด้วยก็ไม่รู้