10 สุดยอดไฮไลต์ เขย่าตลาดไอทีไทย


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(21 มีนาคม 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

ปี 2554 เป็นปีที่ใครต่อใครออกมาฟันธงว่า แท็บเลต-สมาร์ทโฟนต้องมาแน่นอน สะท้อนให้เห็นจากการเปิดตัวสินค้าและนวัตกรรมใหม่ของบรรดาผู้ผลิตต่างๆ ล้วนเทน้ำหนักให้กับ แท็บเลต และสมาร์ทโฟน หวังกระชากใจผู้บริโภคสุดฤทธิ์ ยิ่งได้งานบิ๊กอีเวนต์ไอที “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011” ที่จะเปิดฉากระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคมนี้ จากการสอบถามผู้ประกอบการต่างหมายมั่นส่งแท็บเลต สมาร์ทโฟนชิงชัยทุกราย

กระแสดังกล่าวตอกย้ำความแรงของแท็บเลต และสมาร์ทโฟนที่กำลังติดลมบน จนอาจจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ไอทีที่มาแทนพระเอกตลอดกาลอย่าง โน้ตบุ๊ก เป็นครั้งแรก งานนี้ “ปฐม อินทโรดม” เจ้าพ่อคอมมาร์ต กล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ ว่า ต้องจับตามองกันให้ดี พร้อมเผย 10 สุดยอดไฮไลต์เด็ดที่ผู้บริโภคจะได้เห็นจากงานคอมมาร์ตครั้งนี้อีกด้วย

1.สงครามโอเอสแท็บเลต “วินโดวส์ 7 VS แอนดรอยด์”

แท็บเลต ต้องมาแน่นอน เพราะถือเป็นสินค้าสุดฮิตที่คอไอทีต้อนรับและนิยมใช้งานเพิ่มขึ้น แต่การมาครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การได้เห็นผู้ประกอบการเปิดตัวแท็บเลตรุ่นใหม่ออกมาชิงตลาดอย่างหนักเท่านั้น แต่สิ่งที่จะได้เห็นตามมาจากนี้ก็คือ การแข่งขันแบบเข้มข้นของสงครามแท็บเลตโอเอสระหว่างวินโดวส์ 7 และแอนดรอยด์

ด้วยความที่แท็บเลตโอเอสวินโดวส์ โฟน 7 ออกตัวช้ากว่า และปล่อยให้แอนดรอยด์กินตลาดมานาน จึงเชื่อว่าคอมมาร์ตครั้งนี้ ค่ายไมโครซอฟท์ ไม่น่าจะปล่อยคู่แข่งตีปีกได้อีก โดยจะได้เห็นผู้ประกอบการส่งแท็บเลตโอเอสวินโดวส์มาทำตลาดประมาณ 3-4 แบรนด์ แต่ไมโครซอฟต์จะประสบความสำเร็จเหมือนตลาดพีซีหรือไม่ เรื่องนี้คงต้องรอพิสูจน์

ขณะที่แท็บเลตโอเอสแอนดรอยด์เชื่อขนมกินได้เลยว่า ฮอตฮิตติดลมบนแน่นอน และจะได้เห็นแท็บเลตที่ใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวมาเต็มรูปแบบครบทุกขนาด ตั้งแต่ 5 นิ้ว 7 นิ้ว ไปจนถึง 11 นิ้ว ทำให้การแข่งขันปะทุถึงจุดเดือดแน่นอน

2.สมาร์ทโฟน

อุปกรณ์ไฮเทคที่ทั้งเกาะกระแสและมาแรงในงาน ต้องยกให้เจ้าแห่งสมาร์ทโฟนเลย โดยในงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 จะเห็นภาพการแข่งขันดุเดือดกว่าทุกครั้งที่เป็นมา มีการคาดการณ์ว่าสมาร์ทโฟนวินโดวส์ โฟน 7 จะมีหลากหลายรุ่นพากันแจ้งเกิด ส่วนแอนดรอยด์จะอวดโฉมโชว์ตัวกันเต็มงาน

แต่คำถามที่เกิดขึ้นคือ เมื่อแอนดรอยด์ออกตัวก่อนและประสบความสำเร็จอย่างมากจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่ยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์ออกตัวล่าช้า ดังนั้น ผลตอบรับจะออกมาเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันในงานคอมมาร์ตปีนี้

3.ถึงเวลาจอแสดงผล LED เกิด

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่วันนี้หลายคนให้ความสนใจในเรื่องของจอภาพแบบ LED มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุที่เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลที่ได้การยอมรับในเรื่องของความคมชัดและสีสันที่สดใส ดังนั้น ในงานคอมมาร์ตครั้งนี้ ผู้บริโภคจะได้เห็นนวัตกรรม LED ที่มาในรูปแบบทีวีสามมิติ มีการเปิดตัวสู่ตลาดอย่างคึกคัก เรียกได้ว่ามีให้ได้เห็นเกือบทุกยี่ห้อ ซึ่งจุดเด่นที่นอกจากการให้ภาพสามมิติในแบบที่ต้องใส่แว่นตาเพื่อรับชมแล้ว ยังให้ภาพที่มีความคมชัดและสีสันสดใส ที่สำคัญราคายังถูกลงประมาณ 20-30%

4.เครื่องฉายโปรเจกเตอร์ขนาดเล็ก

จากการเป็นแค่ของเล่นแกดเจ็ตในโลกไอที ทว่าในงานคอมมาร์ตปีนี้ เครื่องฉายโปรเจกเตอร์สำหรับการพกพา หรือนาโน โปรเจกแตอร์ ที่มีขนาดเล็กเท่าโทรศัพท์มือถือ แต่สามารถแสดงผลได้กว้างถึง 42 นิ้ว ให้ความคมชัดได้เช่นเดียวกับโปรเจกเตอร์ทั่วไป แถมยังใช้ร่วมกับอุปกรณ์ประเภทโมบาย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ หรือ PDA ได้อีกด้วย มีแบตเตอรี่ในตัวสำหรับการเคลื่อนย้ายและพกพาได้สะดวก จะถูกหยิบขึ้นมาใช้เป็นปรกติผสมผสานไปในทุกไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยเราจะได้เห็นแบรนด์ต่างๆ ขนเทคโนโลยีดังกล่าวมาทำตลาดมากขึ้น เช่น 3 เอ็ม

5.MacBook Pro

อย่างไรเสียในแวดวงผลิตภัณฑ์ไอทีที่น่าจับตาจะต้องมีชื่อของสินค้าภายใต้แบรนด์ “แอปเปิล” ติดอันดับมาด้วยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับโน้ตบุ๊ก MacBook Pro รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งตกเป็นกระแสข่าวการยกเครื่องมาพักใหญ่ และล่าสุดเพิ่งเปิดตัวในบ้านเราอย่างเป็นทางการ

แม้ในงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 จะยังไม่มีสินค้ามาจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทว่า งานนี้ “ปฐม” คอนเฟิร์มเลยว่า สาวกแอปเปิลจะได้เห็น MacBook Pro ทั้งด้านหน้าและหลังตัวเครื่องกันเต็มๆ แน่นอน เป็นการยกเครื่องใหม่ที่น่าจะกระแทกใจสาวกแอปเปิลได้มากขึ้นไปอีก

6.iPad 2

มาถึงแกดเจ็ตที่น่าจับตาอีกชิ้น แน่นอนว่ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของแอปเปิล โดยเฉพาะสาวกที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ “ไอแพด 2? ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และยังคงทำให้เหล่าแฟนคลับผู้ติดตามได้ร้อง “อู้หู” และส่งเสียงอื้ออึงได้เหมือนกับทุกครั้งที่ สตีฟ จ๊อบส์ ขึ้นเวทีโชว์ไอโฟนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งแน่นอนว่าคอมมารต์ ไทยแลนด์ 2011 ผู้บริโภคจะได้สัมผัสไอแพด 2 แท็บเลตตัวจริง

7.ซีพียู Core i5 และ Core i7 มาแน่

พลาดไม่ได้เช่นกันกับความเคลื่อนไหวของตลาดซีพียูอินเทล หลังจากส่งพี่ใหญ่ Core i7 มาสู่น้องคนรองอย่าง Core i5 และก่อนหน้านี้ส่งน้องคนเล็กอย่าง Core i3 มาให้ผู้บริโภคได้ใช้งาน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลได้เจ๋งกว่า ในงานคอมมาร์ต นอกจากจะได้เห็นประสิทธิภาพของซีพียูรุ่นใหม่ที่เหนือชั้นมากขึ้นแล้ว ผู้บริโภคยังจะได้เห็นราคาซีพียูน้องเล็ก ที่ปรับราคาลงอย่างเหลือเชื่อ

8. “เน็ตบุ๊ก” ทุบราคา

แม้ว่า “เน็ตบุ๊ก” ดูท่าจะไม่ได้การตอบรับจากตลาดมากมายดังที่ควรจะเป็น อันเนื่องจากการเข้ามาของกระแสแท็บเลตครองเมือง ทำให้ในงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ ครั้งนี้จะได้เห็นสงครามเทกระจาดเน็ตบุ๊กของบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตต่างๆ กันอย่างพร้อมเพรียง ในราคาไม่ถึง 6,000 บาท

9.ตลาดแอปพลิเคชั่นสร้างสีสัน

ขณะนี้ผู้บริโภคชาวไทยบางส่วนเริ่มเห็นการพัฒนาและให้บริการแอปพลิเคชั่น จากนักพัฒนาและผู้บริการเพิ่มจำนวนมากขึ้นแล้ว และคาดว่าจะได้เห็นบริการเพิ่มขึ้นนับจากนี้ไป เนื่องจากแอปพลิเคชั่นเป็นเสมือนเครื่องมือทางการตลาดที่สามารถสร้างประสบการณ์ตรงถึงผู้ใช้ หากพัฒนาได้โดนใจ มีความเป็นสากล โอกาสเติบโตมีมาก

จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้จะได้เห็นแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ เกิดขึ้นในงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 ประมาณ 2-3 แอปด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นก็คือ Commart Check Price เป็นแอปพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ที่เจ้าของงานคอมมาร์ตขอแจมกระแสใช้ในงานคอมมาร์ต โดยผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดเพื่อเช็กราคาสินค้าไอทีในงานได้ทันทีผ่าน iPhone และ iPod Touch

10.สตอเรจความจุ 3 เทราไบต์

การเข้ามาของแท็บเลต และสมาร์ทโฟน ทำให้ปีกระต่ายปีนี้ดูจะเป็นปีทองของตลาดสตอเรจไปด้วย โดยจะเห็นได้จากกระแสของการผลักดันตลาดสตอเรจที่เพิ่มขนาดความจุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในงานคอมมาร์ตนั้นผู้บริโภคจะไม่ตกเทรนด์อย่างแน่นอน กับสตอเรจพกพาขนาด 2.5 นิ้ว ที่มีความจุ 3 เทราไบต์ แถมยังมาในราคาที่แมส โดนใจตลาดแน่นอน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.