“หลอดไฟสู่เฟอร์นิเจอร์” ติดปีกธุรกิจไลติ้ง “ฟิลิปส์”


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(21 มีนาคม 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

เพราะเชื่อว่าเทคโนโลยี LED คืออนาคตของธุรกิจไลติ้ง ทิศทางธุรกิจอุปกรณ์แสงสว่างของฟิลิปส์ในปีกระต่ายจึงทุ่มน้ำหนักให้กับ LED สุดตัว โดยจะอาศัยจุดเด่นของ LED สร้างเทรนด์นวัตกรรมหลอดไฟใหม่ ที่เน้นบรรยากาศตกแต่งด้วยสี เป็นไม้เด็ดต่อกรกับคู่แข่ง

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา การแข่งขันในตลาดหลอดไฟเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่มีการแข่งขันรุนแรงจากการเข้ามาบุกตลาดของผู้เล่นในตลาดหลากหลายแบรนด์ และปีนี้มีการคาดการณ์กันว่า ตลาดน่าจะมีการแข่งขันรุนแรงต่อเนื่อง จากการขยายตัวในอัตราประมาณ 10% จากตลาดรวม 6,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ที่นิยมใช้กัน คือ การห้ำหั่นด้วยสงครามราคา ตามด้วยการพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ให้เหนือคู่แข่ง

แต่สำหรับเจ้าตลาดหลอดไฟ “ฟิลิปส์” ขอเลือกที่จะเดินเกมต่าง โดยปีนี้เลือกใช้เทคโนโลยี LED เป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนและสร้างนวัตกรรมแสงสว่างที่เหนือไปอีกชั้น ด้วยการหันมาเล่นในเรื่องการสร้างบรรยากาศตกแต่งบ้านด้วยสี ควบคู่ไปกับนวัตกรรมควบคุมการทำงานระบบแสงสว่างด้วยรีโมตคอนโทรล ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

“ต่อไปหลอดไฟจะเป็นมากกว่าอุปกรณ์ให้แสงสว่าง แต่จะเป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในบ้าน”

ประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงเทรนด์หลอดไฟ และชี้ว่าเป็นเพราะแนวโน้มของอุปกรณ์แสงสว่างกำลังเปลี่ยนจากหลอดผอม หลอดตะเกียบ มาสู่หลอด LED ซึ่งเป็นพัฒนาการอีกขั้นของกระแสไฟฟ้าจากที่วิ่งเข้าหลอดไฟแบบธรรมดาสู่สารเซมิคอนดักเตอร์ ที่นอกจากข้อดีตรงประหยัดพลังงานมากกว่าแล้ว ยังมีความสามารถในการตอบสนองต่ออารมณ์ของผู้บริโภคได้ดีกว่าหลอดประเภทอื่นในการปรับเปลี่ยนแสงสีต่างๆ ได้หลากหลาย

ยิ่งพิจารณาจากตัวเลขการเติบโตของหลอด LED ในอีก 5 ปี ที่จะเติบโตหลายเท่าตัว ยิ่งทำให้ฟิลิปส์มั่นใจในการรุกตลาดนี้มากขึ้น

ปีนี้ฟิลิปส์จะส่งนวัตกรรมหลอดไฟ LED ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแปลกใหม่ภายในบ้านด้วยสี จำนวน 4,000 รุ่นออกตลาด ควบคู่ไปกับการส่งนวัตกรรมหลอดประหยัดไฟที่มาพร้อมรีโมตคอนโทรล ซึ่งสามารถใช้แทนหลอดไฟเดิมได้ทันที โดยไม่ต้องเดินระบบไฟใหม่ โดยรีโมตคอนโทรลจะครอบคลุมการทำงานของแสงสว่างในบ้านได้ถึง 50 จุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการสร้างจินตนาการของคนรุ่นใหม่

นอกจากการส่งนวัตกรรม LED สร้างเทรนด์หลอดไฟในตลาดแล้ว ปีนี้ฟิลิปส์ยังให้ความสำคัญกับแผนปรับโฉมชอปใหม่

นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังมีแผนรีแบรนด์ชอป “ฟิลิปส์ ไลท์ สตูดิโอ” ใหม่ เป็น “ฟิลิปส์ แบรนเด็ด สโตร์” ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายไลน์สินค้าใหม่เข้ามามากขึ้น จึงต้องการให้โมเดลโชว์รูมมีความชัดเจนขึ้น โดยภาพลักษณ์ชอปใหม่จะเน้นเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์แสงสว่าง แสดงให้เห็นดีไซน์ทันสมัย และประสิทธิภาพของเทคโนโลยีแสงสว่างต่างๆ ครอบคลุมทั้งภายในและภายนอกบ้าน โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายฟิลิปส์ แบรนเด็ด สโตร์ในกรุงเทพฯ เพิ่มอีก 3 แห่ง จากปัจจุบันมี 1 แห่งที่ภูเก็ต รวมเป็น 4 แห่ง

นอกเหนือจากการเปิดตัวสินค้าและนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องแล้ว ฟิลิปส์ยังให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มบีทูบีมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่เคยทำมาก่อนและน่าจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับฟิลิปส์ โดยจะมีการจัดโปรแกรมสนับสนุนที่มีชื่อว่า Green Switch Program คอนเซ็ปต์คือ ฟิลิปส์จะสนับสนุนลูกค้าที่มีแผนจะเปลี่ยนระบบแสงสว่างแบบเดิม มาเป็นโซลูชั่นแสงสว่างที่มีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าก่อน โดยลูกค้าจะนำเอาส่วนประหยัดไฟมาผ่อนจ่ายคืนให้กับฟิลิปส์ใน 3 ปี

ธุรกิจ 3 ขา สร้างการเติบโต “ฟิลิปส์”

แม้ชื่อของ “ฟิลิปส์” จะเป็นที่รู้จักกันดีในความเป็นเจ้าแห่งแบรนด์อุปกรณ์แสงสว่างมาตลอดกาล แต่ปัจจุบัน ธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนรายได้ให้กับฟิลิปส์ ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง (lighting), 2.หมวดซีแอล (consumer lifestyle) ที่รวมสินค้าคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งกลุ่มภาพ-เสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเข้าด้วยกัน และ 3.กลุ่มเครื่องมือแพทย์ (health care)

ถ้าแบ่งสัดส่วนการเติบโตของแต่ละกลุ่มในปี 2553 ที่ผ่านมา “ปกรณ์” บอกว่า กลุ่มคอนซูเมอร์มีสัดส่วนเติบโตมากสุด 39% รองลงมาเป็นกลุ่มไฟฟ้าและแสงสว่าง มีสัดส่วน 37% และกลุ่มเครื่องมือแพทย์ มีสัดส่วน 24% ฟิลิปส์ตั้งเป้าในปี 2558 สัดส่วนรายได้ทั้ง 3 กลุ่มจะอยู่ในจุดสมดุลและสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตให้กับฟิลิปส์ทั้งในไทยและระดับโลก

สำหรับกลยุทธ์หลักในปีนี้ ฟิลิปส์ยังคงมุ่งนำเสนอนวัตกรรมที่พัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายที่จะเติบโตในตลาดที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ จีน อินเดีย บราซิล และไทย พร้อมเร่งดำเนินงานตามแผนงานในแต่ละกลุ่มธุรกิจเพื่อให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแรงในทุกกลุ่มธุรกิจ

ในกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ ปีนี้ฟิลิปส์จะมีสินค้าใหม่ พร้อมโปรแกรมส่งเสริมการขายออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรม ณ จุดขายและโรดโชว์ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ตรง และนอกจากสินค้าหลักที่มีอยู่แล้ว อาทิ ทีวี, เครื่องเสียง ในปีนี้มีแผนรุกและทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือนชิ้นเล็ก โดยเน้นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ได้แก่ หม้อทอดไฟฟ้า เครื่องชงกาแฟ

ส่วนกลุ่มธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ฟิลิปส์ยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชั่นเพื่อการรักษาและการดูแลสุขภาพที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพให้กับโรงพยาบาล พร้อมจัดกิจกรรมเชิงวิชาการอย่างต่อเนื่อง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.