|
ชุมชนจีนใหม่ ที่กำลังเพิ่มขึ้น...เพิ่มขึ้น
โดย
เอกรัตน์ บรรเลง
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มีนาคม 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
การก่อกำเนิดขึ้นของเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองต้นผึ้ง สามเหลี่ยมทองคำฝั่ง สปป.ลาวที่กลุ่มดอกงิ้วคำ กลุ่มทุนใหญ่จากจีนได้รับสัมปทานพื้นที่กว่า 7,500 ไร่ เป็นเวลานานถึง 99 ปีก่อนที่จะพัฒนาเป็นโครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism Development Zone เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในลุ่มน้ำโขงนับจากนี้!!
โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ริมแม่น้ำโขงฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ของไทย ภายในแบ่งการพัฒนาเป็น 5 โซนหลักๆ คือ โซน A เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเน้นด้านการค้า พาณิชยกรรม กาสิโน ฯลฯ โซน B เป็นกิจการท่าเรือ โซน C เป็นกิจการด้านวัฒนธรรม โซน D เป็นกิจการด้านโบราณสถาน และโซน E เป็นเขตการท่องเที่ยวธรรมชาติ
เฉพาะเขตการท่องเที่ยวยังได้แบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่ 1-จัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับขุนส่า ซึ่งเกี่ยวข้องกับชายแดนด้านนี้ 2-เกาะดอนซาวโดยเกี่ยวข้องกับดอกงิ้วและตลาดสินค้าชายแดน 3-ชุมชนพม่าโดยจัดให้เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับชาวพม่า 4-โบราณสถานอาณาจักรสุวรรณโคมคำ 5-ท่าเรือบ้านมอมซึ่งมีตลาดและชุมชนชาวลาวด้วย และ 6-ธรรมชาติของสวนป่าและไม้ดอกไม้ประดับ
(อ่านเรื่อง “เซินเจิ้นลาว บนสามเหลี่ยมทองคำ” นิตยสารผู้จัดการ 360 ํ ฉบับเดือนมีนาคม 2552 หรือใน www. gotomanager.com ประกอบ)
ปัจจุบันโครงการนี้ได้ร่วมกับบริษัทท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เพื่อจะดำเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวภายในโครงการร่วมกันแล้ว
ที่ผ่านมา การก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งถนนคอนกรีตเสริมเหล็กครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงการตัดถนนจากโครงการเชื่อมกับเส้นทาง R3a (ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้) ตลอดจนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ทยอยแล้วเสร็จ โดยเฉพาะส่วนของกาสิโนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 หลัง โรงแรมขนาด 700 ห้อง ที่มีหลังคาบนสุดทรงมงกุฎ มองเห็นได้อย่างชัดเจนขณะอยู่ริมน้ำโขงฝั่งไทย พร้อมกับการทยอยเปิดให้บริการร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ฯลฯ
“เราคาดว่าจะมีคนเข้ามาอยู่อาศัยในโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 200,000 คน เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ในอีก 10 ปีต่อจากนี้” จ้าว เหว่ย ประธานบริษัทจินมู่เหมิน จำกัด ที่เข้ามารับช่วงดำเนินโครงการนี้จากกลุ่ม “ดอกงิ้วคำ” ที่เป็นผู้รับสัมปทานพัฒนาพื้นที่โดยตรงจาก สปป.ลาว กล่าวกับคณะนักธุรกิจสมาชิกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย ที่เดินทางเข้าเยี่ยมชมโครงการนี้เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา (2554)
จ้าว เหว่ยบอกว่า ที่นี่จะได้รับการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวครบวงจรในอนาคต บนเส้นทางท่องเที่ยวจากไทย ทั้งกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-เชียงราย ผ่านเข้าพื้นที่โครงการเชื่อมต่อกับหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกของ สปป.ลาว ต่อเนื่องไปถึงสิบสองปันนา คุนหมิง มณฑลหยุนหนันของจีน
เจิ้น ซิน หัวหน้าบัญชีและการประชาสัมพันธ์โครงการฯเสริมว่า นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุนทั้งจากจีน ไทย ฯลฯ อีกหลายรายที่สนใจเข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่กับเขา อย่างห้างสรรพสินค้าเอดิสันของไทย ก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ให้ความสนใจจะเข้ามาเปิดบริการในพื้นที่ของโครงการในอนาคต
เป็นชุมชนใหม่ติดกับพรมแดนภาคเหนือของไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานต่อจากนี้ ซึ่งแน่นอนว่า ผู้คนส่วนใหญ่ที่จะเข้ามา หนีไม่พ้นชาวจีน ที่เป็นเป้าหมายหลักในการดึงดูดให้เข้ามาใช้บริการของกลุ่มทุนที่ดำเนินโครงการนี้
เช่นเดียวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ติดกับพรมแดนเมืองลา มณฑลหยุนหนันของจีน ปลายทางของเส้นทาง R3a ที่กลุ่มทุนกาสิโนจีนได้สัมปทานพื้นที่จากรัฐบาลลาว พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจเฉพาะขึ้นมาก่อนหน้านี้
ซึ่งทั้งสาธารณูปโภค สกุลเงิน ระเบียบข้อกฎหมาย ตลอดจนภาษาในการสื่อสาร ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็น “จีน” ทั้งสิ้น!!
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|