โอกาส = อนาคต เกมออนไลน์ไทย


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(8 มีนาคม 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

ในบรรดาเกมทั้งหมด เกมออนไลน์นับเป็นเกมที่มีมูลค่าและอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท และมีการเติบโตเฉลี่ย 10-15% ขณะที่จำนวนผู้เล่นในตลาดมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่แทบไม่น่าเชื่อว่า มูลค่าอุตสาหกรรมเกมเกือบ 3,000 ล้านบาท กลับมีผลิตผลที่มาจากคนไทยอยู่ไม่ถึง 5% ส่วนที่เหลือเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้น ผิดกับเกาหลี และจีน กลับพัฒนาจนสามารถสร้างเป็นรายได้กลับเข้าประเทศปีละมหาศาล

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ และจากนี้ไปเกมออนไลน์ไทยจะสามารถผลักดันส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ทวีชัย ภูรีทิพย์ ประธานบริหาร บริษัท ไอ ดิจิตอล คอนเนคท์ จำกัด (ไอดีซีซี) มือเก๋าแห่งวงการเกมออนไลน์ ที่ล่าสุดเปิดเกมรุกปลุกปั้นเกมไทยลงสนามแข่ง บอกว่า มูลเหตุสำคัญที่ทำให้ตลาดเกมออนไลน์ที่พัฒนาโดยคนไทยยังมีสัดส่วนในตลาดน้อยเมื่อเทียบกับเกาหลี เพราะพอพูดถึงเกมไทย คนส่วนใหญ่มักมองว่าคุณภาพไม่ถึงขั้น รู้สึกว่าสู้เกมต่างประเทศไม่ได้

อีกทั้งพฤติกรรมคนไทยยังไม่นิยมเล่นเกมไทย เพราะผู้เล่นบางรายอาจจะเคยชินกับการเล่นเกมที่พัฒนาจากต่างประเทศ ตลอดจนขาดการสนับสนุนด้านเงินทุนและการตลาด จึงทำให้สัดส่วนเกมออนไลน์ไทยแทบจะไม่มีการเติบโตหรือมีการเติบโตหดตัวลง โดยก่อนหน้ามีสัดส่วนประมาณ 3-5% แต่ปัจจุบันมีสัดส่วนตลาดเพียง 1% โดยมีเกมไทยที่ทำตลาดอยู่ประมาณ 4 เกมเท่านั้น

เมื่อสภาพตลาดเป็นเช่นนี้ แล้วเหตุใด ไอดีซีซี จึงกล้าที่จะนำเกมไทยที่ชื่อ “12 หางออนไลน์” ลงสนามแข่งในครั้งนี้กันเล่า?

เพราะนั่นเท่ากับไอดีซีซีต้องเผชิญกับความเสี่ยงเป็นสองเท่าตัวอย่างปฏิเสธไม่ได้

การนำเกมไทยมาทำตลาดมีความเสี่ยงมากกว่า แต่สิ่งที่ไอดีซีซีมองเพิ่มและแตกต่างจาก Player รายอื่นในตลาด ก็คือ เกมทุกเกมมีความเสี่ยง แต่ที่เลือกเกมไทยเพราะเชื่อว่าเกมไทยมีโอกาสเติบโต เนื่องจากนักพัฒนาเกมไทยมีฝีมือ แต่ขาดโอกาส จึงอยากเป็นตัวจุดประกายให้ในวงการเกมเห็นว่าคนไทยสามารถทำได้



นอกจากนี้ยังมองการแข่งขันในวันนี้ต่างออกไปด้วย โดยไอดีซีซีไม่ได้แข่งกับเจ้าใหญ่ เพราะขนาดแข่งไม่ได้อยู่แล้ว แต่เป็นการแข่งกับการมองหาจังหวะ โอกาส และช่องว่างที่แตกต่างจากเกมออนไลน์อื่นที่ให้บริการอยู่ในตลาด เพื่อสร้างความแปลกใหม่ และดึงดูดผู้เล่น ซึ่งหากไอดีซีซีมองตลาดได้ถูก โอกาสย่อมตกเป็นของค่ายเกมน้องใหม่ที่มีมือเก๋าในวงการเกมผู้นี้กุมบังเหียน

และแน่นอนว่า การตัดสินใจนำเกม 12 หางมาทำตลาดในช่วงเวลานี้ ย่อมไม่ใช่แค่การเปิดตัวธรรมดาทั่วไป แต่มีนัยสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า เป็นห้วงเวลาที่เกมไทยจะได้ประกาศศักดาอย่างจริงจังเสียที

“ท้ายที่สุดแล้ว คุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ของเกมจะเป็นตัวชี้วัด”

ทวีชัย บอก และว่า เกม 12 หางออนไลน์ไม่ใช่แค่เกมที่พัฒนาโดยคนไทย แต่เป็นเกมที่เต็มไปด้วยเนื้อหา ความคิดสร้างสรรค์ที่ดี และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถแข่งกับเกมออนไลน์จากต่างประเทศได้

“ถ้าเปรียบเกมออนไลน์ไทยเสมือนรถยนต์ เท่ากับว่าตอนนี้ไทยเริ่มมีรถยนต์ที่เป็นของคนไทย แต่ยังไม่ใช่รถเฟอร์รารี่ แต่ก็เป็นรถที่มีสมรรถภาพดี”

เกม 12 หางออนไลน์ หรือในชื่อภาษาอังกฤษ 12 TAILS Online เป็นเกมที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท บิ๊ก บัค สตูดิโอ จำกัด มีจุดเด่นที่เนื้อหาของเกมที่มีระบบต่อสู้ที่สนุก และภาพกราฟิกสวยงามไม่แพ้เกมออนไลน์จากต่างประเทศ โดยจะเปิดช่วง พรี โคลสเบต้า เพื่อให้เกมเมอร์เข้าร่วมทดสอบระบบตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.นี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้เล่น ในการกำหนดทิศทางของเกม และหากระบบมีความพร้อม คาดว่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบได้ไม่เกินกลางปีนี้ โดยตั้งเป้าหมายมีจำนวนผู้เล่นที่เข้ามาเล่นในเวลาเดียวกันจำนวน 10,000 ไอดี

สำหรับการทำตลาด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้พัฒนาเกมไทยต้องใส่ใจและมีการปรับกลยุทธ์ที่จะเข้าถึงคอเกมให้โดดเด่น ซึ่งปีนี้ไอดีซีซีมีแผนจะทำการตลาดเชิงรุกทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อกระตุ้นการรับรู้ในแบรนด์ภายใต้โมเดลการเลือกใช้สื่อให้คุ้มค่าและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

จากแนวทางการเลือกเกมที่มีคุณภาพ และการบุกตลาดถึงคอเกมอย่างหนัก เชื่อว่าจะทำให้เกมไทยเป็นที่ยอมรับของคอเกมมากขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.