โนเกีย - ไมโครซอฟท์ เสือลำบากกำลังจะติดปีก


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(24 กุมภาพันธ์ 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

- บิ๊กดีลโนเกียผนึกไมโครซอฟท์เขย่ามือถือทั่วโลก
- โลกสื่อสารรูปแบบใหม่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
- การพลิกเกมแก้ลำหลังเสียท่าแอนดรอยด์-ไอโฟน
- ศึกสมาร์ทโฟนนับจากนี้จะยิ่งทวีความร้อนแรงที่สุด

ภาพประวัติศาสตร์ความร่วมมือทางธุรกิจที่จะต้องถูกบันทึกไว้ เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก เมื่อ “สตีเฟ่น อีลอป” ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนเกีย จับมือกับ “สตีเว่น เอ บอลล์เมอร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมโครซอฟท์ ประกาศความร่วมมือกันที่จะสร้างระบบนิเวศโลกสื่อสารรูปแบบใหม่

นัยอาจจะไม่ได้อยู่ที่ความร่วมมือกันเพื่อสร้างการสื่อสารรูปแบบใหม่เท่านั้น แต่ภาพเบื้องหลังก่อนที่จะนำพาทั้งเบอร์หนึ่งแห่งโลกมือถือและเบอร์หนึ่งแห่งโลกซอฟต์แวร์มาผนึกความร่วมมือกันได้นั้น คือแรงบีบคั้นจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงจนทำให้ทั้งสองต้องผนึกจุดแข็งของกันและกันเพื่อกลับมาตั้งหลักสู้ศึกที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

การเกิดขึ้นของ “ไอโฟน” ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลกในวงการมือถือ และวันนี้ “ไอโฟน4” ได้สร้างกระแสถล่มทลายไปในทุกๆ ประเทศที่ไอโฟน 4 เปิดวางจำหน่าย

การเกิดขึ้นของ “แอนดรอยด์” จากกูเกิล ทำให้วันนี้กลายเป็นระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถือที่สามารถแซงหน้าระบบปฏิบัติการ “ซิมเบียน” ของโนเกีย

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ปัจจัยแวดล้อมที่กระชับพื้นที่เข้ามา ทำให้โนเกียและไมโครซอฟท์ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชื่อไม่ถูกลบออกจากตลาด และคู่แข่งบี้แซง

ประกาศแผนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
สร้างระบบนิเวศโลกสื่อสารรูปแบบใหม่

โนเกียและไมโครซอฟท์ประกาศแผนกลยุทธ์ความร่วมมือผนึกรวมความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศของโลกสื่อสารระดับโลกในรูปแบบใหม่

ทั้งสองบริษัทจะมุ่งสร้างอุปกรณ์สื่อสารให้กับตลาดพร้อมบริการต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อนำเสนอโอกาสและทางเลือกให้กับผู้บริโภค โอเปอเรเตอร์และนักพัฒนาในแบบที่ไร้คู่แข่ง

โนเกียและไมโครซอฟท์จะมุ่งเน้นไปที่จุดแข็งของตนพร้อมๆ ไปกับร่วมมือสร้างโอกาสเจาะตลาดอย่างรวดเร็วฉับไว นอกจากนั้นโนเกียและไมโครซอฟท์จะทำงานร่วมกันเพื่อผนึกกำลังความเชี่ยวชาญ และเดินหน้านำเสนอบริการใหม่ๆ พร้อมทั้งขยายตลาดผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่เดิมไปสู่ตลาดใหม่ๆ

ภายใต้ข้อเสนอความร่วมมือระหว่างโนเกียและไมโครซอฟต์นั้น ประกอบด้วย 1.โนเกียจะนำวินโดวส์โฟนมาใช้ในเชิงกลยุทธ์หลักของสมาร์ทโฟน สร้างนวัตกรรมต่อยอดบนแพลตฟอร์มที่โนเกียเป็นผู้นำตลาดเช่นด้านการถ่ายภาพ 2.โนเกียจะผลักดันวินโดวส์โฟนไปสู่อนาคต โดยโนเกียจะใช้ความชำนาญด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์ การรองรับภาษาต่างๆ และช่วยนำวินโดวส์โฟนไปสู่ตลาดที่กว้างขึ้น เจาะตลาดในกลุ่มเซกเมนต์ต่างๆ ในระดับราคาที่หลากหลายมากขึ้น

3.โนเกียและไมโครซอฟท์จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการริเริ่มทางการตลาดร่วมกัน และแบ่งปันแผนการพัฒนาเพื่อร่วมกันปฏิวัติวงการอุปกรณ์สื่อสารในอนาคต 4.โนเกียจะนำ Bing บริการการค้นหา มาใช้ในอุปกรณ์สื่อสารและบริการของโนเกียเพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงบริการค้นหาสำหรับโลกอนาคต และ Microsoft adCenter จะให้บริการค้นหาโฆษณาบนอุปกรณ์สื่อสารและบริการของโนเกีย 5.บริการแผนที่ของไมโครซอฟท์จะประกอบด้วย Nokia Maps เป็นหลัก อาทิ Nokia Maps จะผนึกรวมเป็นหนึ่งกับบริการค้นหาของ Bing และแพลตฟอร์มโฆษณาของ adCenter เพื่อประสบการณ์ด้านโฆษณาและการค้นหาที่เป็นหนึ่งเดียว

6.ข้อตกลงเรื่องการจ่ายเงินผ่านโอเปอเรเตอร์ของโนเกียที่มีอยู่มากมายหลายประเทศ จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อบริการต่างๆ ของโนเกียวินโดวส์โฟนได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในประเทศที่การใช้เครดิตการ์ดไม่แพร่หลาย 7.อุปกรณ์ที่ใช้ในการพัฒนาของไมโครซอฟท์จะถูกนำมาใช้สร้างสรรค์แอปพลิเคชั่นต่างๆ สำหรับโนเกียวินโดวส์โฟน เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถขยายผลงานสู่ระบบนิเวศของการสื่อสารระดับโลกได้อย่างง่ายดาย และ 8.ร้านค้าแอปพลิเคชั่นและคอนเทนต์ของโนเกียจะควบรวมกับ Marketplace ของไมโครซอฟท์

“โนเกียและไมโครซอฟท์จะผนึกรวมความแข็งแกร่งของเราไว้ด้วยเพื่อนำเสนอระบบนิเวศของการสื่อสารขนาดใหญ่ระดับโลกในแบบไร้เทียมทาน พลิกโฉมเกมการแข่งขันไปสู่การชิงชัยของสามระบบปฏิบัติการ”

เป็นคำกล่าวของ สตีเฟ่น อีลอป ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนเกีย

ด้าน สตีเว่น เอ บอลล์เมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับโนเกียครั้งนี้ ระบบนิเวศการสื่อสารจะเติบโตเมื่อเติมเชื้อไฟด้วยความรวดเร็ว นวัตกรรม และศักยภาพ ความร่วมมือวันนี้จะนำไปสู่ขีดความสามารถที่ยิ่งใหญ่ ความเชี่ยวชาญในนวัตกรรมทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์


ทวงบัลลังก์ผู้นำสมาร์ทโฟน
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ “โนเกีย”

11 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นเสมือนวันที่ “สตีเฟ่น อีลอป” ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโนเกีย ประเดิมการประกาศกลยุทธ์ใหม่ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดให้กับ “โนเกีย”

“โนเกียกำลังอยู่บนทางแยกแห่งวิกฤต ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพื่อให้เราสามารถเดินทางต่อไปได้” สตีเฟ่น อีลอป กล่าวและว่า “วันนี้เรากำลังเร่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อไปยังเส้นทางใหม่ โดยมีเป้าในการทวงบัลลังก์ผู้นำสมาร์ทโฟนของเรากลับคืนมา”

โนเกียวางแผนที่จะร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับไมโครซอฟท์เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านการสื่อสารเคลื่อนที่บนจุดเด่นที่เสริมกันและกัน ระบบนิเวศโนเกีย-ไมโครซอฟท์ วางเป้าหมายในการส่งมอบนวัตกรรมที่แตกต่าง มีขีดความสามารถที่ยากจะมีใครแข่งขันได้ มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เข้าถึงทุกภูมิภาค และมีเอกลักษณ์ของแบรนด์

เมื่อระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนเป็นแพลตฟอร์มหลักของสมาร์ทโฟนโนเกีย โนเกียจะขับเคลื่อนอนาคตโดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งฮาร์ดแวร์ การเลือกสรรซอฟต์แวร์ ภาษาที่รองรับและขีดความสามารถในการผลิตและเข้าถึงตลาด นอกจากนี้โนเกียและไมโครซอฟท์จะรวมบริการเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม

ส่วนซิมเบียนจะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้บริการในรูปแบบแฟรนไชส์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการลงทุนที่ได้ทำไปแล้ว กลยุทธ์นี้จะสร้างโอกาสในการรักษาและการส่งผ่านผู้ใช้แพลตฟอร์ม Symbian กว่า 200 ล้านคน ทั้งนี้ โนเกียยังคงมีแผนการที่จะขายโทรศัพท์ซิมเบียนอีกกว่า 150 ล้านเครื่องต่อไปในอนาคต

ภายใต้กลยุทธ์ใหม่ MeeGo จะกลายเป็นโครงการระบบปฏิบัติการสำหรับการสื่อสารเคลื่อนที่แบบ open-source โดยมุ่งเน้นที่การสำรวจเพื่อพัฒนาอุปกรณ์สื่อสารและแพลตฟอร์ม รวมถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคสำหรับยุคหน้า โดยโนเกียยังวางแผนที่จะส่งผลิตภัณฑ์ MeeGoเข้าสู่ตลาดในปีนี้อีกด้วย

สำหรับฟีเจอร์โฟน โนเกียจะใช้นวัตกรรมและความแข็งแกร่งในตลาดที่กำลังเติบโตเพื่อเชื่อมต่อผู้คนอีกพันล้านคนให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต และมอบประสบการณ์ในการใช้งานแอปพลิเคชั่น

โนเกียยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในส่วนทีมผู้บริหาร โครงสร้างการปฏิบัติการและแนวทางการทำงาน เพื่อให้การเดินตามกลยุทธ์ใหม่ที่วางไว้ประสบผลสำเร็จ ทีมบริหารที่ปรับเปลี่ยนใหม่นี้จะเร่งกระบวนการตัดสินใจและปรับปรุงเวลาในการออกผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม โดยเน้นที่ผลลัพธ์ ความรวดเร็ว และความรับผิดชอบ

ทั้งนี้ ในส่วนของโครงสร้างใหม่ของโนเกียจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 แบ่งเป็น Smart Device และ Mobile Phone ซึ่งจะเน้นสองตลาดหลักของโนเกีย ได้แก่ สมาร์ทโฟนสำหรับตลาดบน และโทรศัพท์มือถือสำหรับตลาดกว้าง Smart Device จะรับผิดชอบในการสร้างความเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟน นำทีมโดย โจ ฮาร์โลว ประกอบด้วย สมาร์ทโฟนซิมเบียน คอมพิวเตอร์ MeeGo หน่วยธุรกิจเชิงกลยุทธ์ และโทรศัพท์วินโดวส์โฟน

ส่วน Mobile Phone จะขับเคลื่อนกลยุทธ์ “เว็บสำหรับพันล้านคน” Mobile Phone จะใช้นวัตกรรมและความแข็งแกร่งในตลาดที่กำลังเติบโตเพื่อเชื่อมโยงผู้คนอีกพันล้านคน และนำไปสู่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชั่น Mobile Phone จะนำทีมโดย แมรี่ แมคโดเวลล์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.