นัมเบอร์วันเท่านั้น โจทย์ใหญ่ “มิตซูบิชิ”


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(24 กุมภาพันธ์ 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

แม้ “มิตซูบิชิ อีเล็คทริค” จะเป็นผู้นำในหลายตลาด ทั้งเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก พัดลม ปั๊มน้ำ แต่นั่นยังไม่เพียงพอ เพราะเป้าหมายสำคัญของมิตซูบิชิ ต้องการได้ส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในทุกตลาด จึงกลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าแดนปลาดิบที่จะต้องก้าวไปให้ได้ในปี 2554

“ปัจจุบันเราเป็นที่ 1 ในตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ปั๊มน้ำ และพัดลม ส่วนตลาดตู้เย็นอยู่ในท็อปทรี ขณะที่เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่มีส่วนแบ่งตลาด 10% จากตลาดรวม 1 ล้านเครื่อง”

อนันต์ บรรเจิดธรรม กรรมการและผู้จัดการทั่วไป ส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด บอกถึงความท้าทายของมิตซูบิชิในปีนี้ และเป็นผลให้ปีนี้มิตซูบิชิจึงเน้นให้ความสำคัญกับการทำตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่และตู้เย็นเป็นสินค้าหลัก เพื่อเป็นอันดับหนึ่งในตลาดให้ได้

“ที่เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ของเราไม่ได้เป็นอันดับ 1 เพราะก่อนหน้านี้เรานำสินค้าเข้ามาทำตลาด ทำให้ราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งประมาณ 2-3 เท่า”

เกมใหม่ของมิตซูบิชิ ในการไดรฟ์ตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ จึงเน้นใช้กลยุทธ์ราคาที่ต่ำลงกว่าเดิม 50% เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่ง อนันต์ บอกว่า เนื่องจากบริษัทได้มีการย้ายฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่มาที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะแทนการนำเข้าเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และส่งผลให้มิตซูบิชิฯ สามารถปรับลดราคาขายลง 50% และหลังจากเริ่มผลิตสินค้าออกทำตลาดจำนวน 3,000 เครื่อง ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 200%

นอกจากกลยุทธ์ราคาแล้ว เทคโนโลยีในเครื่องปรับอากาศ เป็นอีกปัจจัยที่มิตซูบิชิ พยายามนำมาใช้เพื่อสร้างความต่างกับคู่แข่ง โดยผสมผสาน 2 เทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ Super Invertor และ Move Eye เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงถึง 16.13 ประหยัดพลังงานได้มากกว่า




ไม่เพียงเท่านั้นมิตซูบิชิ ยังมีการขยายช่องทางการทำตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นในกลุ่มโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโต โดยล่าสุดได้เจรจากับกลุ่มควอลิตี้เฮ้าส์ที่จะนำเอาเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ไปติดตั้งในโครงการ

“ราคาที่ปรับลงมาจนไม่แตกต่างจากคู่แข่ง รวมกับคุณภาพสินค้า และแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับ จะทำให้เราสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ได้ใน 2 ปี”

ส่วนแนวทางการทำตลาดพัดลม จะเน้นทำตลาดแบบเจาะจงสินค้า ในลักษณะของ Select & Focus ด้วยการนำเอากลยุทธ์ คัลเลอร์ มาร์เกตติ้ง และดีไซน์ มาใช้สร้างความแตกต่างจากสินค้าที่มีราคาถูก และเจาะกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่และให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าราคา พร้อมชูจุดขายของเทคโนโลยีการออกแบบมอเตอร์ ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น

อนันต์ บอกด้วยว่า ในปีนี้ มิตซูบิชิยังได้มีการปรับโฉมชอปใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern & Luxury โดยชอปใหม่จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ชอปสำหรับเครื่องปรับอากาศ และชอปที่รวมสินค้าภายใต้แบรนด์มิตซูบิชิ ซึ่งปีนี้จะดำเนินการปรับใหม่ทั้งหมด 30 ชอป เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์มิตซูบิชิให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.