สมุทรปราการ ที่นี่ไม่ได้มีแค่โรงงานอุตสาหกรรม

โดย ธนิต วิจิตรพันธุ์
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กุมภาพันธ์ 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

เมืองที่ตั้งอยู่ปลายสุดของแม่น้ำเจ้าพระยา เหนืออ่าวไทย สมุทรปราการ “เมืองปากน้ำ” ที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระประแดงเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดีเมืองหนึ่งมีประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย มีขนบธรรมเนียมประเพณีอันเก่าแก่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นอันมีคุณค่าควรแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง

หลังจากได้ไปเยือนเมืองชล ทำให้นึกได้ว่าเมื่อสมัยหลายสิบปีก่อนนั้น หากจะเดินทางไปแถบจังหวัดชายทะเลภาคตะวันออกนั้น จะต้องใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทสายเก่า โดยเริ่มต้นจากพระโขนงวิ่งผ่านจังหวัดสมุทรปราการ ริมสองข้างทางจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าจากตลอดการเดินทาง

เมื่อผ่านโรงเรียนนายเรือไปแล้วจะถึงสะพานข้ามคลองวัดมหาวงษ์ ก่อนจะพบเจอสามแยกหอนาฬิกา ศาลากลางจังหวัด เลี้ยวซ้ายไปตามถนน จะเห็นร้านค้าเพิงค้าที่กำลังขะมักเขม้นกับการปิ้งขนมจาก บ้างก็คอยเรียกชวนเชื้อเชิญลูกค้าไม่ขาดปาก เรียงรายอยู่ตลอดแนว

ที่จำได้ติดตาคือ ขนมจากยี่ห้อลิ้มดำรง ซึ่งเมื่อปิ้งเสร็จจะมัดเป็นชุดๆ ห่อด้วยกระดาษสีชมพู ติดโลโกอย่างสวยงาม ทำให้อยากซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วย

ก่อนที่จะถึงสถานที่ที่เราเรียกกันว่า สถานตากอากาศเพื่อชมนก ชมไม้ สถานลีลาศเต้นรำในยุคคุณปู่คุณย่า บางปู สวางคนิวาส ที่ขึ้นชื่อสำหรับหนุ่มสาวอินเทรนด์ในยุคกระโน้น

เมืองที่ตั้งอยู่ปลายสุดของแม่น้ำเจ้าพระยา เหนืออ่าวไทย สมุทรปรากการ “เมืองปากน้ำ” ที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าพระประแดง เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดีเมืองหนึ่ง มีประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย มีขนบธรรมเนียมประเพณีอันเก่าแก่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นอันมีคุณค่าควรแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง

เมืองหน้าด่าน สมุทรปราการตั้งขึ้นในสมัยอยุธยา เมืองปากน้ำพระประแดงคือบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งทะเลยังลึกเข้ามามากจนจรดเขตทางใต้ของกรุงเทพฯ

ณ เวลานั้นขอมเรืองอำนาจครอบครองอยู่ มีอายุเกือบพันปี แต่เริ่มสร้างในสมัยกษัตริย์ขอมพระองค์ใดไม่แน่ชัด เมื่อแผ่นดินงอก เมืองพระประแดงห่างจากปากน้ำมากขึ้น จึงมีการโยกย้ายเมืองปากน้ำไปยังพื้นที่ตำบลบางเจ้าพระยาเพื่อความเหมาะสม ทำให้มีทั้งเมืองสมุทรปราการและเมืองพระประแดงในสมัยอยุธยา

คำว่าประแดง หมายถึงคนเดินหมาย คนนำข่าวสาร เมือง พระประแดงคือเมืองหน้าด่าน มีหน้าที่ในการแจ้งข่าวสารไปยังราชธานีของขอมคือ เมืองละโว้ (ลพบุรี)

เมื่อ พ.ศ.1893 พระเจ้าอู่ทองได้สร้างพระนครที่อยุธยา รวบรวมนครธม อันเป็นนครหลวง พร้อมดินแดนด้านเกาะลันตาของเขมรทั้งหมด หัวเมืองฝ่ายใต้ตั้งแต่เมืองราชบุรี เพชรบุรี ไปตลอดแนวแหลมมลายู ทางเหนือของลพบุรี ซึ่งติดกับอาณาจักรสุโขทัย มาขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเมืองหน้าด่านทั้งสี่ทิศ ทิศเหนือที่ลพบุรี ทิศตะวันออกที่เมืองนครนายก ทิศตะวันตกที่เมืองสุพรรณบุรีและทิศใต้ที่เมืองพระประแดง เมืองหน้าด่าน ทางทะเล

ในสมัยพระเจ้าทรงธรรม เมืองสมุทร ปราการ บริเวณใต้คลองบางปลากด ซึ่งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาสมัยนั้น บริเวณนี้ไทยติดต่อค้าขายกับชาวโปรตุเกสและชาวฮอลันดา

สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถพระราชทานที่ดินบริเวณเหนือคลองสร้างเป็นคลังสินค้า จึงเรียกที่นี่ว่านิวอัมสเตอร์ดัม

ระหว่าง พ.ศ.2199-2231 ได้ติดต่อกับ ชาวต่างประเทศมากขึ้น เมืองสมุทรปราการ จึงเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญ มีการทำค่ายป้อมให้มั่นคงแข็งแรง เป็นสาเหตุที่ทำให้ไทย มีธงชาติขึ้น กล่าวคือในปี พ.ศ.2202 มีเรือกำปั่นฝรั่งเศสเข้ามาทางปากน้ำผ่านป้อมบางกอกและชักธงฝรั่งเศสขึ้น ไทยนำผ้าแดง ชักขึ้น ฝรั่งเศสคำนับธงแดง ธงแดงจึงเป็นธงชาติไทยตลอดมาจนกระทั่งมาเป็นธงช้าง

เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในปี พ.ศ.2310 เมืองสมุทร ปราการถูกทำลายย่อยยับ

สมัยกรุงธนบุรี โปรดเกล้าฯ ให้รื้อกำแพงเมืองพระประแดง เดิมไปสร้างกำแพงวังที่ธนบุรี

สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงเห็นว่า บริเวณลัดโพธิ์มีชัยภูมิที่ดี เหมาะสมสำหรับการสร้างเมืองใหม่ จึงได้มีการสร้างป้อมค่ายขึ้นที่ฝั่งซ้ายแม่น้ำเจ้าพระยา ชื่อว่าป้อมวิทยาคม ซึ่งอยู่ตรงข้ามอำเภอพระประแดงในปัจจุบัน

รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้ตัดท้องที่แขวงกรุงเทพฯ แขวง สมุทรปราการ รวมกันตั้งขึ้นเป็นเมืองใหม่ “นครเขื่อนขันธ์” และได้มีการย้ายชาวมอญจากปทุมธานีมาอยู่นคร เขื่อนขันธ์

มีการสร้างป้อมทางฝั่งตะวันออก ป้อมมหาสังหาร ป้อมศัตรูพินาศ ป้อมจักรารอ และป้อมพระจันทร์ พระอาทิตย์ ทั้งนี้เพื่อความมั่นคง แข็งแรง ป้องกันข้าศึกทางทะเล

พร้อมกันนี้ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองลัดใหม่เหนือคลองลัดโพธิ์ นครเขื่อนขันธ์จึงตั้งอยู่ระหว่างปากคลองลัดโพธิ์ และคลองลัดหลวง จึงนิยมเรียกเมืองนี้ “ปากลัด” และได้สร้างป้อมเพชรหึงเพิ่มขึ้นอีก

ในปี พ.ศ.2366 พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ แม่กองพร้อมด้วยเจ้าพระยาพระคลัง (ดิส) ควบคุมการสร้างเมืองสมุทรปราการ แล้วเสร็จในเวลา 3 ปีต่อมา

สมุทรปราการครั้งนี้คือบริเวณบางเจ้าพระยา คือตำบลปากน้ำในปัจจุบัน อยู่ระหว่างคลองปากน้ำกับคลองมหาวงษ์

ในสมัยรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 4 ได้มีการสร้างเมืองออกไปทั้งสี่ทิศ เพื่อสร้างป้อมเพิ่มเติม

พระเจดีย์กลางน้ำ พระสมุทรเจดีย์ สัญลักษณ์ของจังหวัด พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเห็นว่ามีหาดทรายที่ท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร ได้ทรงมีพระราชดำริจะทรงสร้างพระมหาเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์พระราชทานนามไว้ล่วงหน้าว่าพระสมุทรเจดีย์ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2371 โดยมีบูรณะ ดัดแปลงก่อสร้างเพิ่มเติมในสมัยพระจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว

ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ ตำบลแหลมฟ้าผ่า ตรงบริเวณพื้นที่งอกออกไปในทะเลทางฝั่งขวาของแม่น้ำสร้างเมื่อ พ.ศ.2428 และสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2436 เป็นป้อมที่ทันสมัย

พ.ศ.2485 ได้มีพระราชบัญญัติรวมจังหวัดพระนครธนบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี เข้าด้วยกันเป็น “นครบาลกรุงเทพฯ ธนบุรี”

พ.ศ.2489 ได้มีพระราชกฤษฎีกาการประกาศจัดตั้งจังหวัดสมุทรปราการขึ้นใหม่

นอกจากเป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลแล้ว สมุทรปราการยังมีเส้นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย โดยบริษัทรถไฟสาย ปากน้ำของเอกชน ชาวเดนมาร์กได้รับสัมปทาน 50 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2429 เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2431 ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นรถราง (รถไฟฟ้า) เมื่อ พ.ศ.2469 รถไฟสายนี้เลิกกิจการเมื่อปี พ.ศ.2503

นอกจากรถไฟสายแรกมีกำเนิดที่จังหวัดสมุทรปราการแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2418 ได้มีการก่อตั้งโทรเลข โทรศัพท์ระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดสมุทรปราการ เป็นกิจการเริ่มแรกในประเทศไทย มีระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร คดเคี้ยวตามภูมิประเทศ เพื่อเลี่ยงให้ปราศจากการรบกวน

มีการตราพระราชบัญญัติ เพื่อให้อำนาจข้าหลวงนำช่างออกไปทำทางสายโทรเลขให้กรมกลาโหม เป็นเจ้าหน้าที่เริ่มงาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2418 เริ่มพาดสายโทรเลขเมื่อปี พ.ศ.2421 และได้ตั้งกรมโทรเลขขึ้น

โทรเลขในตอนแรกๆ ใช้ภายในวงราชการ เช่น การแจ้งเรื่องการย้ายออกของเรือเดินทะเล

มาปากน้ำทั้งที ถ้าไม่ได้พูดคุยเรื่องขนมนมเนยเป็นไปไม่ได้เลย ที่ได้กล่าวมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าสองฟากระหว่างการเดินทางนั้น จะเต็มไปด้วยป่าจาก ดงจาก ตำนานของขนมที่จะกล่าวถึงคือ ขนมจากนั่นเอง

จาก เป็นพืชจำพวกปาล์มเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในป่าชายเลน มีลำต้นอยู่ใต้ดิน พืชเก่าแก่มากชนิดหนึ่งที่มีซากดึกดำบรรพ์อายุถึง 70 ล้านปี กำเนิดในน้ำจืด น้ำกร่อย แถบเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ประโยชน์ของจากนั้นตั้งแต่ผลจนถึงใบ

ลักษณะใบเหนียวและกว้าง สามารถนำมาเย็บเป็นตับ “ตับจาก” นำมามุงหลังคากันแดดกันฝน “หลังคามุงจาก” ใบจาก ยังใช้ในการนำมาห่อขนมจาก ขนมที่ทำจากแป้ง มะพร้าว น้ำตาล ผสมกันจนได้ที่ แล้วห่อด้วยใบจาก แล้วนำไปปิ้งบนเตา จะได้ขนมจากที่อร่อยกลิ่นหอม มีรสชาติ

นอกจากนี้ยังใช้ใบไปห่อยาสูบโดยใช้ใบจากที่ตากแห้ง

สำหรับผลของจาก ผลจากเมื่อสุกแล้วจะเป็นสีขาว ใส นุ่ม มีรสชาติหวาน

ตัดปลายช่อดอกของจากเพื่อเอาน้ำตาลจากไปทำน้ำเมา ผลอ่อนที่แตกหน่อนำจาวข้างในมาเชื่อมรับประทาน เช่นเดียวกับ จาวตาล จาวมะพร้าว

ส่วนกลีบดอกนำไปเป็นส่วนผสมของชาสมุนไพรได้อีก

เมื่อก่อนนั้น มีคำพูดติดปากว่า “มาปากน้ำถ้าไม่ได้ซื้อขนมจาก ถือว่ายังมาไม่ถึง” ขนมจากนับว่าเป็นของฝากยอดนิยมของเมืองปากน้ำ

ไม่มีหลักฐานแน่ชัด สำหรับเรื่องราวขนมจากในเมืองไทย แต่มีผู้คนเคยเห็นภาพวาดบนฝาผนังศาลาทรงยุโรปที่พระสมุทรเจดีย์ ปรากฏภาพเหตุการณ์ในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 ระหว่างการก่อสร้างป้อมปราการที่ปากน้ำ

ด้านข้างกำแพงเมืองสมุทรปราการ มีแม่ค้านั่งปิ้งขนมจาก อยู่หน้าประตูทางเข้า เมื่อก่อนชาวบ้านมักปิ้งขนมจากแจกกันในหมู่ญาติ ต่อเมื่อเกิดชุมชนสถานีรถไฟปากน้ำ และต่อมามีการตัด ถนนสุขุมวิทสายเก่าไปบางแสน โดยเฉพาะเมื่อร้านลิ้มดำรงร่วมออกร้านขนมจากงานกาชาดที่สวนอัมพร โดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ทรงมีพระราชดำริ และคุณยายแอบ ดำรงรัตน์ สนองพระราชดำริ ทำให้ขนมจากซึ่งมีผู้คนนิยมอยู่แล้ว ดังลั่นสนั่นเมืองมากขึ้นอีก ทำให้อาชีพทำขนมจากขายเป็นที่นิยม มีร้านรวงเกิดขึ้นมากมาย

แต่ความนิยมลดน้อยถอยลง เมื่อได้มีการเลิกกิจการรถราง และถนนสายบางนา-ตราดเกิดขึ้นนั่นเอง

ร้านลิ้มดำรง ถือว่าเป็นร้านขนมจากเก่าแก่ร้านแรกๆ ของ ปากน้ำทีเดียว ปัจจุบันยังคงดำรงไว้ แม้ว่าข้าวของประกอบการปรุงจะแพงขึ้น กำไรน้อยมาก แต่ชาดา ชุนหะจินดา ทายาทรุ่นที่ 4 หลานยายแอบ ดำรงรัตน์ เจ้าของสูตรขนมห่อใบจากหวานมันกลมกล่อมและกลิ่นหอม ซึ่งทำกันมาในครอบครัวกว่า 100 ปี โดยมีป้าริ้ว จุรินทร์ ดำรงรัตน์ รับช่วงต่อมา ปัจจุบันเพิ่มเมนูข้าวเหนียวสมุนไพร เช่น จากดอกอัญชัญ ขมิ้น เฟื่องฟ้า ใบเตย แครอท ชาเขียว และ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีข้าวเหนียว ปิ้งจำหน่ายอีกด้วย ร้านจะได้อยู่ได้เพื่อสืบทอดร้านขนมจากให้คงอยู่ต่อไปอีกยาวนานนั่นเอง

เมื่อมาชิมขนมจากกันแล้ว ไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยวฟาร์มจระเข้ ซึ่งมีมาช้านานมากแล้ว ว่ากันว่าเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีการเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดต่างๆ กว่า 60,000 ตัว มีการแสดงโชว์จระเข้ การให้อาหารจระเข้ นอกจากนี้ยังมีการแสดงของช้าง และยังมีสัตว์อื่นๆ เช่น เสือ ลิง ชะนี เต่า งู นก อูฐ กวาง ฮิบโป และปลาอีกเป็นจำนวนมาก ที่พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ มีการแสดงกระดูกและหุ่นจำลอง

สมัยหลายสิบปีที่ผ่านมา เมื่อพูดถึงจระเข้ ทุกคนจะคิดถึง บึงบรเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งชุกชุมไปด้วยจระเข้จำนวนมากขึ้นมาทันที ปัจจุบันคนไทยนิยมเลี้ยงจระเข้เพื่อการค้า โดยนำไปทำผลิตภัณฑ์หนังจระเข้ ซึ่งเมื่อมีเหตุการณ์น้ำท่วมคราใดจะพบเห็นข่าวจระเข้หลุดออกจากฟาร์มเพาะเลี้ยงไปอาละวาดชาวบ้านอยู่เสมอ

จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ชอบอาศัยอยู่บริเวณ ป่าริมน้ำ ผิวหนังแข็งเป็นเกล็ด ปากยาว และปลายปากนูนสูงขึ้น เป็นช่องเปิดของรูจมูก เรียกกันว่า ก้อนขี้หมา หางแบนยาวใช้โบกว่ายน้ำ เพราะชอบหากินในน้ำ จระเข้ในประเทศไทยเรามีอยู่ 3 ชนิด คือ จระเข้น้ำจืด หรือจระเข้บึง จระเข้อ้ายเคี่ยม หรือจระเข้น้ำเค็ม และตะโขง หรือจระเข้ปากกระทุงเหว

จระเข้ออกลูกเป็นไข่ มีการพบว่าอุณหภูมิการกกไข่เป็นตัว กำหนดเพศ โดยอุณหภูมิประมาณ 30 ํC และอุณหภูมิกว่า 32 ํC จะได้จระเข้เพศผู้และเมียตามลำดับ

เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้โดยเฉพาะกระเป๋าถือหนังจระเข้ ผู้คนนิยมใช้กันมาก เป็นสินค้าที่มีราคาแพง เพราะวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต นอกจากจะเป็นหนังที่มีความยืดหยุ่นสูงและอ่อนนุ่มแล้ว ยังมีความสวยงามแข็งแรง ทนทาน มีลวดลายที่เป็นธรรมชาติ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลวดลายแต่ละใบจะมิซ้ำกันได้เลย ความนุ่มนวลของหนังจระเข้นี้ทำให้สะดวกแก่การตัดเย็บ นอกจากนี้ยังนิยมทำเป็นรองเท้า เข็มขัด กระเป๋าเดินทาง แหล่งอาศัยจระเข้ส่วนใหญ่อยู่ในแถบเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย

ออสเตรเลียถือได้ว่าเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของสินค้าหนังจระเข้ แหล่งของหนังจระเข้น้ำเค็มถือว่าดีที่สุด และเป็นที่นิยม หนังจระเข้ที่นำมาทำการค้านั้น จะต้องได้รับอนุญาตเฉพาะหนังจระเข้ที่ผลิตจากฟาร์มจากประเทศที่ได้ลงนามภายใต้สนธิสัญญา CITES เพื่อการควบคุมปริมาณจระเข้ในธรรมชาติที่กำลังจะสูญพันธุ์

การเลี้ยงจระเข้ให้มีขนาดรอบลำตัว 40 เซนติเมตร ใช้เวลาถึง 3 ปีขึ้นไป ซึ่งพอจะใช้งานได้

หนังจระเข้จะแบ่งคร่าวๆ เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหลัง และ ส่วนท้อง แหล่งผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้ที่นิยมและมีชื่อเสียงคือประเทศอิตาลี

Emil Mirzakhanian เป็นผู้ผลิตสินค้าเครื่องหนังจระเข้ส่งออกยี่ห้อ M คอลเลกชั่น มีแบรนด์ดังหลายเจ้าซื้อและสั่งทำไปติดยี่ห้อเอง เขาเป็นคนที่รักลวดลายแตกต่าง แต่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์และศิลปะ เป็นเจ้าของแกลเลอรี เวีย บากุดด้า ที่มิลาน เพราะความรู้สึกดื่มด่ำเชิงศิลปะ “หนังจระเข้เป็นศิลปะสมัยใหม่ที่หรูหรา”

ในมุมมองของ Mirzakhanian เชื่อว่า สินค้า Luxury นั้นต้องมีการผลิตที่มีจำนวนน้อย และไม่สามารถลอกเลียนแบบ ฉะนั้น สินค้าของ M คอลเลกชั่น ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า กระเป๋า ถุงไม้กอล์ฟ จะผลิตด้วยมือ และจำนวนน้อยโดยใช้ลวดลายของหนังจระเข้เป็น ตัวบ่งบอกว่ามีเพียงชิ้นเดียว หนังจระเข้ที่นำมาผลิตส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ไทยเกรด A แยกเลี้ยงเป็นอย่างดี ป้องกันการต่อสู้กันจนมีรอยขีดข่วน ใช้หนังเต็มผืนมาตัดเย็บไร้รอยต่อ

จระเข้ที่มาจากลุ่มแม่น้ำไนล์และประเทศไทย แต่การเลี้ยงดู ของไทยดีกว่าสวยกว่า

บางปูในสายตาของชาวพระนครตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 คือชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด สมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงครามได้พัฒนาป่าแสมโกงกางของบางปูให้เป็นสถานที่ตากอากาศ มีการสร้างสะพานสุขตา ทอดลงไปในทะเลมีความยาวกว่า 500 เมตร ศาลาสุขใจเปิดเป็นเวทีลีลาศสำหรับนักเต้นรำ ทั้งหลาย ชาวพระนครคนรุ่นหนุ่มรุ่นสาวจะพากันไปท่องเที่ยวเป็น กลุ่มใหญ่ในวันเสาร์อาทิตย์ ดูนกนางนวล ปลาตีน ดูทะเลอ่าวไทย ให้ลมทะเลปะทะหน้าอย่างมีความสุข ได้ไปแค่นี้ ยิ่งเป็นคู่รักด้วยแล้ว ถือว่าสุขสุดยอดแล้วในยุคนั้น

ละครภาพยนตร์ย้อนยุค จึงมักจะมีฉากที่นี่มากมายหลาย เรื่องราว

สถานที่แห่งนี้อยู่ในความดูแลของกรมพลาธิการทหารบก มีเนื้อที่กว่า 600 ไร่ มีกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วยการปลูกป่าชายเลน ผู้คนนิยมไปชมนก ชมไม้ ชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม และแวะรับประทานอาหารที่ศาลาสุขใจ โดยเฉพาะในวันเสาร์เวลาแดดร่มลมตก จะได้ออกกำลังกายจากเสียงดนตรีอันไพเราะในจังหวะลีลาศ เต้นรำเพื่อความสุขสนุกสนาน และย้อนอดีตสำหรับบุคคลรุ่นคุณตาคุณยาย

นกนางนวลที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ อพยพหนีหนาวมาจากแถบไซบีเรีย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงมกราคม

นกนางนวลในอ่าวไทย มี 2 ชนิด คือ นกนางนวลใหญ่และนกนางนวลแกลบ

สำหรับนกนางนวลใหญ่ เมื่อบินจนเหนื่อยแล้วชอบลงลอย ตัวบนน้ำทะเล สำหรับนกนางนวลแกลบชอบเกาะตามเสาหรือตามหลัก ซึ่งมีอยู่ในน่านน้ำไทยถึง 15 ชนิด

สำหรับนกนางนวลที่นี่ เป็นนกที่ทำรังวางไข่อยู่รอบๆ ทะเล สาบต่างๆ ในทิเบต มองโกเลีย ในฤดูร้อน ซึ่งตรงกับฤดูฝนของประเทศไทย พอลูกโต แข็งแรง จะพากันบินลงมาหากินตามชาย ทะเลในมหาสมุทรอินเดียจนถึงอ่าวไทย

นกนางนวลจะพากันอพยพมายังอ่าวไทยด้วยหัวสีขาว จุดสีน้ำตาลคล้ำที่ขนคลุมหู เดือนกุมภาพันธ์จะเปลี่ยนสีสัน สำหรับการเลือกคู่ผสมพันธุ์ โดยมีขนสีน้ำตาลดำที่หัว แล้วพากันไปวางไข่บนที่ราบสูงใกล้ทะเลสาบในประเทศทิเบต มองโกเลีย จะกลับไปในเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นรุ่นสุดท้าย

นกนางนวลชอบโฉบคาบเศษอาหาร เศษปลาที่ทิ้งลอยอยู่ในน้ำ ทำให้ของเน่าเหม็นบนพื้นทะเลหมดไป เป็นนกที่ดูแล้วทำให้ทิวทัศน์ชายทะเลสวยงามน่าท่องเที่ยว และทำให้รู้ว่าฤดูฝนจากไปแล้วและคอยรอรับลมหนาวที่กำลังจะเริ่มพัดผ่านเข้ามา

สวางคนิวาส เน้นการบริการสาธารณสุข เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งทีเดียว

เมื่อประมาณ พ.ศ.2506 ท่านอื้อจือเหลียงได้ยกพื้นที่ติดชายทะเลประมาณ 180 ไร่บริเวณหมู่ 2 ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ให้สภากาชาดไทย ด้วยวัตถุประสงค์ต้องการให้ เป็นโรงพยาบาลโรคปอด โดยการก่อสร้างอาคารสถานที่ให้ด้วย

หอประชุมขนาดใหญ่ ซึ่งหน่วยงานราชการ เอกชนในสมัยก่อนนิยมใช้ในการจัดประชุม

ปัจจุบันสวางคนิวาสเป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นที่ตั้งของสถานีกาชาดที่ 3 ให้บริการผู้ป่วยนอกและการสาธารณสุข มีอาคารผู้ป่วยไว้เป็นสถานพักฟื้น อีกทั้งยังเป็นสถานที่ ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งเป็นโครงการของสมเด็จพระเทพฯ เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองที่ต้องไปทำงานนอกบ้าน

เล็ก วิริยะพันธ์ เป็นลูกคนโตของเจ้าของร้านขายยาย่านสำเพ็ง “เทียนแซตึ้ง” พออายุ 17 ปี บิดาส่งไปเรียนที่เมืองจีน ณ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ในยุคนั้นเปรียบได้ว่าเป็นปารีสแห่งตะวัน ออก ตึกอาคารบ้านใหญ่โต ศูนย์กลางการศึกษา การค้า การลงทุน จากชาติตะวันตก และเต็มไปด้วยแสงสี

ประสบการณ์ที่ได้รับที่เซี่ยงไฮ้ พร้อมความเข้มแข็งของวัฒนธรรมจีนอันเก่าแก่โดยมีความก้าวหน้าทางวิทยาการในศตวรรษที่ 20 ซึ่งทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกันภูมิปัญญาตะวันออก ความนอบน้อมโอบอ้อมอารีต่อธรรมชาติ ความเคารพ ต่อผู้ใหญ่ ยังคงอยู่อย่างเหนียวแน่น

เมื่อบิดาป่วยและเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา เขาจึงรับสืบทอด กิจการเทียนแซตึ้งต่อในวัย 20 ปีต้นๆ และก้าวสู่นักธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย ในวัยเฉียด 40 ปี โดยเฉพาะในนามบริษัท ธนบุรีพานิช ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หรูยี่ห้อดัง

ที่ดินบริเวณเมืองโบราณในปัจจุบัน เมื่อก่อนเป็นนาร้าง ทำนาไม่ได้ผล ชาวบ้านจึงขายให้ทีละแปลงสองแปลงจนกลายเป็นผืนใหญ่ในที่สุด

เมื่อปลายปี พ.ศ.2506 เขาคิดว่า น่าจะทำประโยชน์จากที่ผืนนี้กว่า 800 ไร่ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ ความคิดแต่แรกคือ สถานที่ท่องเที่ยว โดยการรวบรวมจำลองสถานที่ในจังหวัดต่างๆ ของไทยมาสร้างไว้เป็นสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม โดยคำนึงถึงหลักฐานจากบันทึกในประวัติศาสตร์

ผู้ที่ร่วมงาน คือผู้ที่มีความยอดเยี่ยมทางศิลปกรรม (เชื้อ ปัทมจินดา) อาจารย์มานิต วัลลิโภดม รศ.เสนอ นิลเดช เป็นต้น

การเปิดตัวเมืองโบราณอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2515 เนื่องในมหามงคลที่กษัตริย์ซีกโลกตะวันตกและตะวันออก สมเด็จพระบรมราชินีนาถอลิซาเบธ และเจ้าชายฟิลลิปแห่งสหราชอาณาจักร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเมืองโบราณนั่นเอง

ปูชนียสถานที่สำคัญ ประสาทหินพนมรุ้ง เขาพระวิหาร พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา โดยเฉพาะ พระที่นั่งสรรเพชรที่อยุธยาที่สวยสง่างามมาก ต้องผ่านการค้นคว้า วินิจฉัย ตรวจสอบ จากบุคคลที่มีความรู้ ประสบการณ์ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทุกๆ ด้านอย่างรอบคอบละเอียดถี่ถ้วน

โดยโบราณสถาน โบราณวัตถุต่างๆ ที่สร้างขึ้นมีทั้งเท่าของจริง ย่อส่วน ฝีมือที่ประณีต

นอกจากนี้เมืองโบราณยังเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรม พื้นบ้านต่างๆ อีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตำบลบางเมืองใหม่ พิพิธภัณฑ์แห่ง นี้สร้างจากแรงบันดาลใจ ความคิด จินตนาการของเล็ก วิริยะพันธ์ เช่นกัน เพื่อให้เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุ มรดกทางวัฒนธรรม ด้านต่างๆ เพื่อสืบสานอนุรักษ์งานศิลปะของไทยให้อยู่ต่อไป

ช้างเอราวัณ ช้างสามเศียร เป็นประติมากรรมลอยตัวด้วย วิธีเคาะมือ เป็นแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำจากโลหะทองแดง แผ่นเล็กสุดขนาดเท่าฝ่ามือ นำมาเรียงต่อกันด้วยความประณีตนับแสนชิ้น

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ แบ่งออกเป็น

ส่วนบนของตัวช้าง เฉพาะส่วนหัวมีน้ำหนักประมาณ 1,000 ตัน ลำตัวช้างหนัก 150 ตัน สูง 29 เมตร กว้าง 12 เมตร ยาว 39 เมตร ตัวช้างออกแบบให้เป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงวัตถุมีค่า เช่น พระพุทธรูปปางลีลา ภาพวาดสีฝุ่นรูปจักรวาล บริเวณท้องช้างปูด้วยไม้มะเกลือ

ส่วนล่างของตัวช้างเป็นฐาน โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก อาคารศาลา กระจายน้ำหนัก ตัวช้างด้วยคานวงแหวนรอบนอกและรอบใน

บนอาคารถ่ายน้ำหนักลงเสา 8 เสาภายนอก และ 4 เสา ภายใน อาคารศาลาตกแต่งภายในเป็นการผสมผสานศิลปะหลาก หลายรูปแบบ เช่น การใช้กระจกสีแบบศิลปะตะวันตก เครื่องเบญจรงค์สลับลวดลายสอดสี

การดุนโลหะบนแผ่นดีบุกของช่างเมืองนครศรีธรรมราช รูปปั้นโบราณชนิดต่างๆ เช่น คนธรรพ์บรรเลงดนตรี รูปพญานาค ของช่างเมืองเพชร

ชั้นใต้ดิน “ชั้นบาดาล” เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการและโบราณวัตถุจำนวนมาก พระพุทธรูป เทวรูปสมัยต่างๆ และเครื่องลายครามของจีน ระเบียงรอบนอกตัวอาคาร ประกอบด้วยซุ้ม 8 ซุ้ม รอบพิพิธภัณฑ์เป็นอุทยานพรรณไม้ในวรรณคดี และพันธุ์ไม้หายากจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ประติมากรรมลอยตัวเรื่องรามเกียรติ์วางเรียงรายล้อมรอบอาคาร

เมื่อรู้เรื่องราวของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ พอหอมปากหอมคอ คราวนี้มาคุยเรื่องช้างตัวเป็นๆ กันบ้าง

ปัจจุบัน ช้างที่ยังคงเหลืออยู่ให้พบเห็นนั้น คือช้างเอเชีย และช้างแอฟริกา เท่านั้น

ช้างเอเชีย เชื่อง หัวจะใหญ่กว่าแต่หูเล็กกว่า หลังโค้งนูนขึ้นมาคล้ายหลังกุ้ง ส่วนตัวหลังแอ่นลงและมีงวงยาวนั้นคือช้างแอฟริกา ทั้งเพศผู้เพศเมีย

ว่ากันว่าช้างเป็นภพภพหนึ่งของเทพเจ้า ช้างเป็นสัตว์คู่บ้าน คู่เมืองของไทยมาแต่ดึกดำบรรพ์ พระมหากษัตริย์จะต้องมีช้างคู่บารมี เป็นช้างเผือกที่มีลักษณะถูกต้องตามตำราคชลักษณ์ แสดงถึงการมีบุญญาธิการของพระมหากษัตริย์องค์นั้น ช้างเป็นสัตว์สำคัญที่ใช้ในการรบทัพจับศึก

ช้างคือสัตว์บกใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 20 ล้านปี

ช้างเป็นตราประจำธงชาติไทย เมื่อใช้ชื่อว่า “สยาม”

ปัจจุบันช้างเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเชียงใหม่

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มี “ช้างชูคบเพลิง” เป็นตราสัญลักษณ์

ช้างเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจทางภาคเหนือตอนบนของประเทศ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถบจังหวัดสุรินทร์ ใช้ในการลากจูงซุงในป่าที่รถไม่สามารถเข้าถึง

ช้างเอเชียชอบกินใบหญ้า เปลือกไม้ ลูกไม้ หน่อไม้ และดินโป่ง ซึ่งเป็นเกลือธรรมชาติอยู่ในดิน ช้างชอบปลักโคลนและชอบอาบฝุ่น โดยการพ่นฝุ่นขึ้นมาบนหัวและตัว เพื่อป้องกันและขับไล่แมลงที่มารบกวน ชอบอาบน้ำ และเล่นน้ำด้วยการพ่นน้ำด้วยงวง

ช้างพลาย ช้างเพศผู้ที่มีงายาว ยื่นออกมานอกปาก

ช้างพังมีงาแต่ขนาดซึ่งไม่โผล่ออกจากปาก เป็นช้างเพศเมีย

ช้างสีดอ คือช้างตัวผู้ที่มีงาเล็กๆ ไม่โผล่ ออกมานอกปาก ที่เรียกว่า “ขนาย” นั่นเอง

ที่เรียกกันว่าช้างตกมันนั้นหมายถึงการที่ต่อมน้ำมันซึ่งอยู่ตรงบริเวณขมับตรงกึ่ง กลางระหว่างตากับรูหูข้างละ 1 รู จะมีอาการ บวมโตและมีน้ำมันไหลเยิ้มออกมา ซึ่งจะพบได้ ทั้งเพศผู้เพศเมีย แสดงให้เห็นถึงการผสมพันธุ์ เมื่อช้างตกมันจะมีอาการดุร้ายผิดปกติ จะทำ ร้ายช้างที่อยู่ในฝูงเดียวกัน แม้กระทั่งควาญช้าง

อาการตกมันของช้างนี้จะพบได้ทุกโอกาสเวลา โดยเฉพาะในฤดูร้อน

ช้างผสมพันธุ์ได้ต่อเมื่อช้างตัวเมียเป็นสัด ช้างจะตั้งท้องประมาณเกือบ 2 ปี คือราวๆ 20-22 เดือน ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกช้างที่เกิด ใหม่น้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 200 ปอนด์ จะอยู่และกินนมแม่ช้าง ถึง 2 ปี ช่วง 5-10 ปี เริ่มฝึกหัดทำงาน 16-50 ปี เติบโตเต็มที่ ใน 1 ปี ช้างจะทำงานประมาณ 9 เดือน ช่วงมิถุนายน-กุมภาพันธ์ เวลา 6 โมงเช้าถึงเที่ยงวัน จะเริ่มทำงานช้าลงช่วงระหว่างอายุ 50-60 ปี เมื่ออายุ 60 ปี จะปลดระวางไม่ต้องทำงาน

ปัจจุบันจำนวนประชากรช้างในประเทศไทยเริ่มจะมีลดน้อย ถอยลงมาตามลำดับ แม้ว่าจะมีการประกาศให้ช้างเป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่าแล้วก็ตาม แต่ด้วยเหตุที่ว่าพื้นที่ป่าที่อยู่อาศัยของช้างถูกทำลายและมีน้อยลง นอกจากนี้ ยังมีการลักลอบล่าช้างเอาหนังและงา รวมทั้งการส่งลูกช้างเป็นสินค้าส่งออกนอกประเทศอีกด้วย

ปัจจุบันมีศูนย์ฝึกช้างที่จังหวัดลำปาง หน่วยอนุรักษ์พันธุ์ช้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิเพื่อนช้างเพื่อปกป้องดูแล ปกป้องช้าง รักษาช้างที่ป่วย ไม่ให้ถูกทำทารุณกรรม เพื่อให้ช้างเหลืออยู่ในประเทศไทยต่อไปอีก

และยังมีหน่วยงาน องค์กรที่เข้ามาทำโครงการคืนช้างสู่ป่า เพื่อเพิ่มประชากรช้าง และความสมดุลทางธรรมชาติอีกด้วย

ถ้าสังคมไทยยังเป็นสังคมที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เอื้ออาทร รู้จักการให้ มีจิตสำนึก โดยเฉพาะเพื่อสังคมส่วนรวม อย่างนี้ ประเทศไทยจะยืนยงยาวนานด้วยมรดกทางภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี แม้กระทั่งการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อมีคนที่เป็นแบบอย่างที่ดี และได้รับการยอมรับและเป็นที่ยกย่องจากสังคมแล้ว เราก็อุ่นใจได้ว่าเอกลักษณ์ความสง่างามของชาติเหล่านี้ ยังคงเหลือไว้ให้ลูกหลานของเราได้รักษาสืบไปอีกนานแสนนานแน่นอนครับ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.