|
Mr.BANPU
โดย
สุภัทธา สุขชู นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มกราคม 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
ปีเดียวกับที่ชนินท์ ว่องกุศลกิจ ได้รับเลือกให้เป็น TOP 10 Role Model ของนิตยสารผู้จัดการ 360 ํ ปีที่ผ่านมา Forbes Asia ก็ได้จัดอันดับให้ บมจ.บ้านปู เป็น 1 ใน 50 บริษัทที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2553 หรือ Asia’s Fab 50 โดยบ้านปูเป็นบริษัทไทยเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับการจัดอันดับครั้งนี้
26 ปีก่อน พี่น้องตระกูล “ว่องกุศล กิจ” คงไม่มีใครคิดว่า “บ้านปู” จะเติบโตกลายเป็นบริษัทมหาชนและเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลก และอยู่แถวหน้าของเอเชีย
จากความคิดที่ต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากธุรกิจน้ำตาล น้องเล็กแห่งว่องกุศลกิจจึงออกไปเรียนรู้และบุกเบิก ธุรกิจเหมืองแร่
ความเจริญเติบโตของอาณาจักรบ้านปู บวกกับราคาหุ้น BANPU ที่สูงจนกลายเป็นดาวเด่นประจำกระดาน SET ช่วย ยกระดับความน่าสนใจในตัวชนินท์ให้ปรากฏแก่สายตาของสื่อมวลชน นับจากนั้นเขาก็ถูกสื่อมวชนสัมภาษณ์บ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่แทบทุกครั้งล้วนเกี่ยวกับบ้านปูและประเด็นสถานการณ์พลังงาน สกู๊ปที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์แบบส่วนตัวของชนินท์นั้นน้อยมากจนหาไม่เจอ
ภาพชายร่างเล็ก หน้าตาใจดี ดูสุขุม สงบ แต่ในมือมี iPad ที่ถูกใช้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงาน ภาพนี้ทำให้ยากจะเชื่อว่า อีกไม่ถึง 2 ปี ชนินท์ก็จะมี อายุครบ 60 ปี เพราะเขายังคงตามทันเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ และดูแข็งแรง เนื่องจากการเลือกทานอาหารดีๆ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชนินท์กลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบ้านปู ไปโดยปริยาย ขณะเดียวกันพัฒนาการและอุดมการณ์ของบ้านปู ก็เป็นเสมือนภาพสะท้อนแนวคิดและบุคลิกอีกด้านหนึ่งของชนินท์
ผู้บริหารระดับสูงบางคนที่ลงคะแนนให้ชนินท์ให้เหตุผลว่า “เพราะมองว่าบ้านปูเป็นองค์กรที่มีการวางแผนดี มองการณ์ไกล มีความกล้าออกไปบริหารงานในต่างประเทศ เพราะไม่ใช่เรื่องที่องค์กรอื่นๆ จะทำได้ง่ายๆ”
ในปี 2548 ชนินท์ ว่องกุศลกิจ ได้รับปริญญาเศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังได้เลือกให้เขาเป็น “บุคคลแห่งปี” ในปีนั้น โดยให้เหตุผลชี้แจงเอาไว้ดังนี้...
“...คุณชนินท์ ว่องกุศลกิจ ได้ดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในหลายด้านๆ แล้ว ยังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนของจังหวัดในภาคเหนือ คือ ลำพูน ลำปาง และพะเยา ให้มีสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นด้วยการเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ของประเทศ ทำให้ประชาชนในสามจังหวัดดังกล่าวมีงานทำ และมีรายได้ที่ดี มีการหมุนเวียนรายได้ในสามจังหวัดนี้ปีละหลายร้อยล้านบาท
จากความสำเร็จในการดำเนินงานและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จึงได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น St.Louis University, Missouri จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับยกย่องให้เป็น Best CEO ของบริษัทในเอเชียน ในกลุ่มอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ซึ่งสำรวจโดยนิตยสาร Insitutional Investor และได้รับรางวัลบริษัทธรรมาภิบาลดีเด่น...
ทั้งนี้ เนื้อหาในนิตยสารผู้จัดการ 360 ํ ฉบับเดือนกันยายน 2553 “A villager on an international milestone” โดยเฉพาะเรื่อง “ภารกิจที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น” และ ““บ้านปู” ณ ปัจจุบัน” จะยิ่งช่วยสะท้อนภาพของบริษัท บ้านปู และตัวตนของชนินท์ได้มากขึ้น
ไม่เพียงประเทศไทย บ้านปูมีนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนที่บริษัทเข้าไป ดำเนินการเหมือนๆ กันในทุกประเทศที่เข้าไปลงทุน
“บ้านปูมีนโยบายที่เป็นสากล ปฏิบัติเท่าเทียมกันในทุกประเทศ นั่นคือปฏิบัติตาม กฎหมายและกฎระเบียบทุกประเภทอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา ประพฤติปฏิบัติเยี่ยงพลเมืองที่ดีมีคุณธรรม สนับสนุนเกื้อกูลรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน และบริหารจัดการพันธมิตรธุรกิจอย่างเที่ยงธรรมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและโดยอ้อม”
ภาพลักษณ์ความเป็นบริษัทที่ดีของบ้านปูสะท้อนภาพความเป็นคนดีของชนินท์ได้บางส่วน ขณะที่อีกส่วนอาจยืนยันได้จากรัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ บมจ. อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท ที่ชื่นชมและยกย่องให้ชนินท์เป็นต้นแบบในเรื่องความเป็นคนดี ความจริงใจ และความเสียสละ
อย่างไรก็ดี คงไม่มีใครที่จะยืนยัน “ความดี” ของชนินท์ ได้ดีไปกว่าตัวตนและความคิดของเขาเอง...
“นักธุรกิจและนักบริหารยุคใหม่ควรจะก้าวออกมาบอกกล่าว และร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ในฐานะของการร่วมรับผิดชอบต่อการพัฒนาของสังคมด้วย”
...และนี่ก็เป็นตัวตนของชนินท์ที่สะท้อนผ่านความเห็นของตัวเขาเอง!
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|