The Leader

โดย สุภัทธา สุขชู นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มกราคม 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้อ่านยังเป็นแฟนเหนียวแน่นของบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ที่โหวตให้เขาได้อันดับหนึ่ง 1 ทำให้เขาครองแชมป์เป็นปีที่ 5

บัณฑูร ล่ำซำ วัย 58 ปีในปีกระต่าย ยังดูแข็งแรงและอารมณ์ดีอยู่เสมอ จึงทำให้เขาเป็นสัญลักษณ์ของธนาคารกสิกรไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ประสบการณ์ของเขาที่ประสบวิกฤติหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติต้มยำกุ้งที่ทำให้ธนาคารไทยในตอนนั้นแทบล้มทั้งยืน และส่งผลให้สถาบันการเงินไทยต้องปิดกิจการไปถึง 56 แห่ง หรือแม้แต่ล่าสุดในปี 2551 วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกาก็ทำให้เศรษฐกิจไทยเซไปไม่น้อย

หลายวิกฤติที่เขาพานพบได้สร้างให้บัณฑูรเป็นคนสุขุมรอบด้านในการบริหาร จัดการเพื่อให้ธนาคารกสิกรไทยอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน แต่ในบุคลิกสุขุมนั้นบัณฑูรก็กล้าจะวิพากษ์วิจารณ์การเมืองบ้างในบางครั้ง แต่เป็นไปในลักษณะ “หยิกแกมหยอก” เสียเป็นส่วนใหญ่

ภาพนายแบงก์ที่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ ทำให้บัณฑูรขับเคลื่อนธนาคารกสิกรไทยได้อย่างรวดเร็ว เขาจึงถูกจับตามองจาก ทั้งนักธุรกิจด้วยกันเอง รวมไปถึงคนทั่วไปที่ติดตามใช้บริการด้านการเงินของธนาคาร

ในสายตานักธุรกิจที่มองว่าบัณฑูรมีคุณสมบัติเหมาะสมเป็น Role Model โดยให้เหตุผลว่า เขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความกล้าเสี่ยงในการทำธุรกิจ โดยมุ่งไปสู่วิสัยทัศน์ที่เขาเห็นโดยไม่หวั่นไหวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบเข้างที่ยังไม่เข้าใจในวิสัยทัศน์ดังกล่าว

มีจุดยืนทางธุรกิจที่ชัดเจนโดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์กรเหนือชื่อเสียงส่วนตนในการดำเนินธุรกิจภายใต้ความเสี่ยงภายนอกจากสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ

ทุกองค์กรต้องการนักบริหารที่มีสายตากว้างไกล มีความกล้าหาญและความรับผิดชอบ อีกทั้งรู้ว่าตนนั้นจะนำพาองค์กรมุ่งไปสู่ทิศใด โดยมีความมุ่งมาดให้ธุรกิจพัฒนาขึ้นในทุกจังหวะแม้ในขณะวิกฤติ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้มีอยู่ในตัวของบัณฑูร

นอกจากนี้ บัณฑูรยังมีบุคลิกภาพที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและเป็นที่ไว้วางใจของนักลงทุนอีกด้วย เป็นบุคคลที่รู้จักบุคลากรของตนและจัดสรรบุคลากรให้อยู่ในตำแหน่งที่จะสามารถนำพาองค์กรสู่อนาคตได้ เห็นคุณค่าของคน มีความยุติธรรม และเป็นมืออาชีพในการดำเนินธุรกิจ โดยอาศัยข้อมูลเชิงกว้างและเชิงลึกจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั้งในและนอกองค์กร เขาจึงเหมาะสมเป็นแบบอย่างของนักบริหารธุรกิจรุ่นใหม่ในสังคมไทย

จะเห็นได้ว่าผู้บริหารท่านนี้ได้สะท้อนบุคลิกของบัณฑูรเป็นส่วนหนึ่งของการเฝ้าติดตามการทำงานของเขาอย่างใกล้ชิด

สำหรับความท้าทายของบัณฑูรที่เผชิญอยู่ตรงหน้าในปีนี้ก็คือ การเฝ้าติดตามการทำงานของผู้บริหารทั้ง 4 คน ภายใต้โครงสร้างใหม่ หลังจากประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปนั่งเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

จึงทำให้บัณฑูรต้องบริหารงาน 2 ตำแหน่ง คือประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตามมติบอร์ดของธนาคาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในความเห็นของคณะกรรมการธนาคารกสิกรไทยก็ยังมองว่าบัณฑูรเป็นสัญลักษณ์และมีฝีมือในยามนี้

ส่วนผู้บริหารทั้ง 4 คน ที่เป็นลูกหม้อล้วนมากประสบการณ์ทำงานในธนาคารมากว่า 20 ปี คือ กฤษฏา ล่ำซำ อายุ 46 ปี, ปรีดี ดาวฉาย อายุ 52 ปี, ธีรนันท์ ศรีหงส์ อายุ 45 ปี และสมเกียรติ ศิริชาติไชย อายุ 46 ปี ผู้บริหารทั้งหมดมีตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการ

การจัดสรรโครงสร้างผู้บริหาร โดยดึงผู้บริหารของธนาคารขึ้นมาร่วมงานในระดับการบริหารระดับสูง มากกว่าคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมงานนั้น จึงเป็นเรื่องท้าทายของบัณฑูรไม่น้อย โดยเฉพาะความคิดเห็นของเขาที่ร่วมกิจกรรมสรรหา Role Model กับนิตยสารผู้จัดการ 360 ํ ได้บอกไว้ว่าโอกาสและความท้าทายในปีนี้ ก็คือการสร้างความพร้อมเพรียงในหมู่คณะที่จะบรรลุถึงการสนองความต้องการของตลาดและการควบคุมต้นทุน

การสร้างความเข้าใจในสิ่งที่บัณฑูรคิดและกำหนดเป็นนโยบาย เป็นเรื่องที่เขาได้พูดทุกครั้งต่อหน้าผู้บริหารระดับสูงและสื่อมวลชนเมื่อมีวาระสำคัญที่จะต้องอธิบายให้เห็นถึงทิศทางของธนาคารกสิกรไทย

ในทศวรรษนี้คงไม่มีข้อกังขาว่า บัณฑูร ล่ำซำ คือสัญลักษณ์ของธนาคารกสิกรไทยจริงๆ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.