|
My first Aomori
โดย
ภก.ดร. ชุมพล ธีรลดานนท์
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มกราคม 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
ขบวนรถไฟ Hayate ซึ่งแล่นจากสถานีต้นทาง Tokyo ไปตามเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือฝ่าลมหนาวเป็นระยะทาง 675 กิโลเมตร เข้าเทียบชานชาลาของสถานี Shin Aomori เป็นครั้งแรกในช่วงเช้าวันที่ 4 ธันวาคม 2010 ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของ Tohoku Shinkansen ที่เพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์และสานฝัน 28 ปีแห่งการรอคอยของชาว Aomori
Tohoku Shinkansen เป็นตติยบทของระบบเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงในประเทศญี่ปุ่น อันต่อเนื่อง มาจากความสำเร็จของ Tokaido Shinkansen ซึ่งเริ่มให้บริการระหว่าง Tokyo และ Shin Osaka เมื่อครั้ง Tokyo Olympic 1964 และ Sanyo Shinkansen ซึ่งแล่นระหว่าง Shin Osaka และ Hakata ในจังหวัด Fukuoka บนเกาะ Kyushu ตั้งแต่ปี 1972 เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตโดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1960-1980
เฟสแรกของการก่อสร้าง Tohoku Shinkansen เริ่มขึ้นหลังจากการผ่านมติเห็นชอบของร่างกฎหมาย Nation-wide Shinkansen Development ฉบับปี 1970 ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1982 โดยเริ่มเปิดใช้เส้นทาง Omiya-Morioka เป็นระยะทาง 465 กิโลเมตร
ตามด้วยเฟสที่สองจาก Omiya ในจังหวัด Saitama เข้าสู่เมืองหลวงที่สถานี Ueno ปี 1985 และเชื่อมต่อกับ Tokaido Shinkansen ที่สถานี Tokyo ในปี 1991 รวมเป็นระยะทาง 31 กิโลเมตร แต่เนื่องเพราะงบประมาณการก่อสร้าง Shinkansen ในแต่ละ เส้นทางมีมูลค่ามหาศาล ซึ่งกรณีของโครงการอีกสอง เฟสหลังนี้ยังต้องสร้างรางรถไฟผ่านภูมิประเทศในเขตภูเขาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจฟองสบู่แตก ซึ่งล้วนส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการทั้งสิ้น
ในระหว่างนั้นมีการก่อสร้าง Shinkansen เพิ่มเติมอีก 3 สายสู่จุดหมายทางฝั่ง Japan Sea อันได้แก่ Joetsu, Yamagata และ Akita ที่แตกแขนงออกจาก Tohoku Shinkansen ก่อนที่เฟสสามของสายหลักในเส้นทาง Morioka-Hachinohe ระยะทาง 97 กิโลเมตรจะสำเร็จและเปิดใช้ในปี 2002
จนกระทั่งเฟสสุดท้ายของ Tohoku Shinkansen ในเส้นทาง Hachinohe-Shin Aomori ระยะทาง 81 กิโลเมตร เปิดใช้เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2010 เมื่อบูรณาการเข้ากับ Tokaido และ Sanyo Shinkansen แล้วมีระยะทางรวม 1,744 กิโลเมตร ตั้งแต่จังหวัด Aomori เหนือสุดของเกาะ Honshu ผ่าน Tokyo จนใต้สุดของเกาะและข้ามไปยังเกาะ Kyushu ถึงปลายทางที่สถานี Hakata
ปัจจุบัน Tohoku Shinkansen ที่ให้บริการอยู่ ในขณะนี้มีด้วยกัน 3 ขบวนประกอบด้วย 1) ขบวน Nasuno จอดแวะทุกสถานีตั้งแต่สถานี Tokyo จนถึง Koriyama 2) ขบวน Yamabiko เป็นขบวนรถด่วนในเส้นทางระหว่าง Tokyo-Sendai หลังจากนั้นจอดแวะ ทุกสถานีและ 3) ขบวน Hayate ซึ่งเป็นรถด่วนตลอด สาย (ศึกษารายละเอียดของเส้นทางในภาพที่ 1) แล่นด้วยความเร็วสูงสุด 275 กิโลเมตรต่อชั่วโมงรวมใช้เวลาการเดินทางจาก Tokyo ถึง Shin Aomori เป็น เวลา 3 ชั่วโมง 20 นาที ซึ่งเท่ากับช่วยร่นระยะเวลาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 39 นาที
กระนั้นก็ดีตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2011 เป็น ต้นไประยะเวลาการเดินทางดังกล่าวจะถูกย่นย่อให้สั้นลงอีก 10 นาทีด้วยขบวน Hayabusa (E5 Series) ซึ่งเป็นนวัตกรรม Shinkansen ล่าสุด แล่นด้วยความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงระหว่าง Utsunomiya-Morioka จะปรับเพิ่มความเร็วเป็น 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากปี 2013 ด้วยระดับความปลอดภัยที่สูงสุดในโลกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รูปลักษณ์ภายนอกสีเขียวอมฟ้าที่ดูปราดเปรียวสมชื่อ Hayabusa ตามความหมายของคำในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงนกเหยี่ยวนั้นดูโดดเด่นด้วย Long-nose Shape ความยาวช่วงหน้า 15 เมตร, bogie cover ด้านข้างตลอดขบวนและ Pantographs ติดตั้งบนหลังคา ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยลดมลภาวะ เสียงระหว่างเข้าออกอุโมงค์และในขณะแล่นด้วยความเร็วสูง
ข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่ทำให้นวัตกรรม Shinkansen ได้รับความไว้วางใจเสมอมาคือ ความปลอดภัยในการโดยสาร 100% อันปราศจากอุบัติเหตุมาตั้งแต่เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1964 ซึ่งความพยายามเพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารนี้ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระบบเบรกของขบวน Hayabusa แม้กำลังแล่นด้วยความเร็ว 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้เก้าอี้โดยสารใน Shinkansen ยังได้รับการออกแบบตามหลักสรีรวิทยาเพื่อให้นั่งและเอนพนักได้อย่างสบายเป็นเวลาหลายชั่วโมงซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยของบริการเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เสริมให้ Shinkansen กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมและสามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมการบินภายในประเทศญี่ปุ่นได้
ไม่เพียงเท่านั้นวิสัยทัศน์ในการให้บริการในขบวน Hayabusa ได้ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยที่นั่งชั้นพิเศษที่เรียกว่า Gran Class ซึ่งเทียบเท่ากับบริการชั้น First Class ของเครื่องบิน
ผลสืบเนื่องจากการขยายเส้นทางสู่ Aomori นี้คาดว่าสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ขยายตัวตามได้ โดยเฉพาะความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับบริษัท East Japan Railway ภายใต้โปรโมชั่น “My first Aomori” ที่มุ่งเน้นประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
ความพยายามในเบื้องต้นสะท้อนผ่านการประชาสัมพันธ์นำเสนอข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ* อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องตลอดเส้นทาง Tohoku Shinkansen ตั้งแต่จังหวัด Fukushima เรื่อยไปจนถึง Aomori ทั้งในแง่ธรรมชาติ อันงดงามครบ 4 ฤดู งานเทศกาลประจำฤดูกาลอันเป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากส่วนอื่นของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังช่วยผลักดันโครงการพัฒนาที่ดิน และชุมชน ที่พักอาศัย การค้าขาย อุตสาหกรรมให้เกิดขึ้นภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอ้างอิงผ่านการสัญจรระหว่างเมืองหลวงกับภูมิภาคอันสะดวก และรวดเร็วกว่าที่เคยมาอย่างมีนัยสำคัญ
ในทางตรงกันข้ามแม้จะมีการคาดเดาถึงแนวโน้มการลดลงของประชากรในจังหวัด Aomori เนื่อง จากกลุ่มคนในวัยทำงานสามารถเดินทางไปทำงานในเมืองที่ใหญ่กว่า เช่น Sendai หรือ Tokyo ได้โดยง่าย แต่นั่นอาจจะยังเร็วเกินไปที่จะประเมินออกมาในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม การขยายเส้นทางสู่ Shin Aomori ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของ Tohoku Shinkansen นี้ในอีกมิติหนึ่งได้บ่งบอกความพร้อมในการเชื่อมต่อเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงเข้ากับ Hokkaido Shinkansen ที่จะสร้างมาบรรจบกันในปี 2015
อ่านเพิ่มเติม:
1 เรื่อง “From Hirosaki to Hakodate” ฉบับมิถุนายน 2550 หรือ http://www.gotomanager. com/news/details.aspx?id=59675
2 เรื่อง “Nebuta” ฉบับกันยายน 2550 หรือ http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=62480
3 เรื่อง “แอปเปิ้ลพอเพียง” ฉบับมกราคม 2550 หรือ http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=55051
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|