“โอโตยะ”ขยายฐานพรีเมี่ยม ผุดอีก10แห่งรับอาหารญี่ปุ่นบูม


ASTV ผู้จัดการรายวัน(27 ธันวาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

“โอโตยะ” คาดปีนี้ทำรายได้ 480 ล้านบาท หลังสปีดสาขาใหม่ถึง 7 แห่ง พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “โอโตยะ ออฟ โตเกียว” ลั่นปีหน้าขยายต่อเนื่องอีก 10 สาขาลงทุนรวม 100 ล้านบาท

นายโทโมโนริ ทากาดะ ประธาน บริษัท เบทาโกร โอโตยะ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารญี่ปุ่น “โอโตยะ/OOTOYA” เปิดเผยว่า ผลประกอบการปีนี้ของบริษัทฯคาดว่าจะเติบโตประมาณ 5-10% หรือมีรายได้รวมกว่า 480-500 ล้านบาท แม้ว่าจะเจอปัญหารายได้ลดลงบ้างในช่วงที่เกิดวิกฤติทางการเมืองและการชุมนุมทางการเมืองช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่กระทบต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคที่ไม่กล้าออกจากบ้านมากนัก แต่หลังจากนั้นรายได้ก็เริ่มกระเตื้องขึ้นมาสู่ภาวะปรกติมากขึ้นแล้ว

อีกทั้งปีนี้บริษัทฯมีแผนเปิดสาขาใหม่มากถึง 7 แห่ง ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นกว่าเดิม มากกว่าปีที่แล้วที่เปิดสาขาใหม่เพียงแค่ 3 สาขาเท่านั้นเอง ซึ่งมั่นใจว่าจะส่งผลดีต่อยอดรายได้รวมในปีนี้ที่จะมีประมาณ 480 ล้านบาท

โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีมาถึงขณะนี้ได้เปิดสาขาใหม่ไปแล้วรวม 5 แห่ง คือที่ เซ็นทรัลพระรามสาม, ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลเวิลด์ และล่าสุดคือ ที่สุขุมวิท 23 เป็นร้านสแตนด์อโลนเป็นสาขาที่ 25 ขณะที่อีกสองสาขาที่เหลือจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ที่ เดอะมอลล์ท่าพระและแถวถนนสาทร ส่งผลให้ภายในสิ้นปีนี้จะมีสาขาของร้านโอโตยะครบ 27 สาขา ภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯยังได้ทำการขยายแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกคือ “ร้านโอโตยะ ออฟ โตเกียว” คือสาขาที่ 25 ที่ถนนสุขุมวิท 23 เป็นแบบสแตนด์อโลน มี 60 ที่นั่ง บนพื้นที่ 300 ตารางเมตร เป็นการเช่าพื้นที่ ซึ่งร้านนี้จะเป็นร้านสไตล์พรีเมียมกว่าโอโตยะแบบเดิม ทั้งการตกแต่ง เมนูและจำนวนอาหาร เช่น โซบะสดทำมือ เมนูไก่บ้าน จะมีทั้งรูปแบบที่เป็นเซ็ทและตามสั่ง

“ร้านนี้เราใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ ใช้เชฟจากญี่ปุ่น และมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับโอกาสต่างๆเช่น จัดงานปาร์ตี้ หรือ งานวันเกิด เป็นต้น โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายต่อคนเฉลี่ย 1,500 บาทต่อครั้ง ขณะที่ร้านแบบเดิมเฉลี่ยค่าใช้จ่าย 280 บาทต่อคนต่อครั้ง เปิดบริการ 2 รอบ คือ 11.00-14.00 น. และ 17.00 - 24.00 น.”

สำหรับแผนการลงทุนในปีหน้า (2554) บริษัทฯเตรียมงบลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ในการขยายสาขาใหม่อีก 10 สาขาเป็นอย่างต่ำ โดยจะยงัคงป็นร้านโอโตยะแบบดั้งเดิม ส่วนรูปแบบพรีเมียมนั้นยังไม่มีแผนเพิ่มอีกในระยะอันใกล้นี้ แต่หากได้ทำเลที่เหมาะสมและมีโอกาสก็จะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 1 สาขาก็เป็นได้

นายโทโมโนริ กล่าวด้วยว่า ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยยังเติบโตได้ดี ความนิยมยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งสามารถสร้างจุดแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้มากเท่าไรก็ยิ่งเป็นการดี ทำให้บริษัทฯมั่นใจที่จะลงทุนขยายสาขาเช่นกัน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.