จากที่ได้เปิดบริการวันแรกเมื่อ 1 กุมภาพันธื 2537 ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
(ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ ตามนโยบายรัฐบาลที่จะผลักดันให้การส่งออกของประเทศมีความสามารถในการแข่งขันยิ่งขึ้น
ทว่า จากที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ ที่เดียวทำให้การบริการเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง
อีกทั้งศักยภาพการลงทุนการส่งออกของแต่ละภาคทวีสูงขึ้น ทำให้ ธสน.ต้องรุกคืบบริการให้ทั่วถึงด้วยการเปิดสาขาทั่วประเทศ
เพื่อสนองตอบนโยบายรัฐในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและการพัฒนาชนบท โดยเปิดบริการสาขาแรกที่หาดใหญ่แล้ว
ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ถือเป็นสถาบันการเงินพิเศษที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ
ธสน. พ.ศ.2536 เริ่มแรกด้วยบริการแพ็กกิ้งเครดิต (Packing Credit) หรือสินเชื่อเพื่อการส่งออกซึ่งเป็นการให้กู้เงินดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารพาณิชย์ไทยและต่างประเทศ
29 แห่งไปยังผู้ส่งออกตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเคยปฏิบัติมาตั้งแต่ปี 2498
จึงเสมือนว่า ธสน.คือธนาคารแห่งประเทศไทยในท้องถิ่นได้อย่างดี
ต่อมา ธสน. ได้เพิ่มบริการเพื่อส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างแดนของนักลงทุนไทยและเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักธุรกิจไทยยิ่งขึ้น
โดยร่วมลงทุนถือหุ้นในกิจการที่นักธุรกิจไทยไปลงทุนยังต่างประเทศตามสัดส่วนที่ลูกค้ากำหนด
ซึ่งในระยะเพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ธสน.ได้เข้าไปถือหุ้นแล้ว 3 โครงการคือ
โรงงานผลิตน้ำตาลในพม่า โรงงานผลิตไฟฟ้าในลาว และโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างในจีน
และยังอยู่ในระหว่างพิจารณาอีกหลายโครงการ
ธสน.ยังมีบริการสนับสนุนการส่งออกสินค้ากลุ่ม เช่น เครื่องจักร เครื่องมือกล
ทั้งเครื่องจักรใหม่ที่ผลิตในประเทศไทย และเครื่องจักรใช้แล้ว โดยให้บริการสินเชื่อระยะยาว
3-5 ปี ที่ดำเนินไปแล้วเช่นขายรถแทรกเตอร์ใช้แล้วให้ลาว และขายเครื่องจักรโรงงานผลิตน้ำตาลไปยังพม่าเป็นต้น
ซึ่งการให้สินเชื่อระยะยาวนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล กรรมการผู้จัดการ
ธสน. กล่าวว่า เพื่อประโยชน์ของการสนับสนุนผู้ส่งออกไทย ที่เข้าไปทำงานก่อสร้าง
งานปรับปรุงโรงงานในต่างประเทศ โดยโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาได้แก่
งานก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์ในเวียดนาม งานก่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าในลาว
และอีกหลายโครงการซึ่งกำลังพิจารณาอยู่
กรรมการผู้จัดการ ธสน.สรุปบริการของ ธสน. ว่าในการส่งออกสินค้าทั่วไปนั้น
ธสน.มีบริการสินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออกด้วย โดยเป็นการให้กู้แก่ผู้ส่งออกที่ได้รับ
Letter of Credit (L/C) หรือคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อในต่างประเทศ แต่ขาดเงินหมุนเวียนในการเตรียมสินค้า
ทั้งผู้ส่งออกรายย่อยที่ไม่มีวงเงินอยู่ในสถาบันการเงินใดเลย และผู้ส่งออกที่มีวงเงินอยู่ที่ธนาคารพาณิชย์แล้วแต่ยังไม่เพียงพอ
โดย ธสน.จะให้กู้แก่ผู้ส่งออกสินค้าทุกประเภทและทุกขนาดวงเงิน ซึ่งตัวอย่างธุรกิจที่ได้รับสินเชื่อนี้ไปแล้วคือ
ธุรกิจส่งออกไม้ปาเก้ไปกลุ่มประเทศอาหรับ ธุรกิจส่งออกสินค้าประเภทอาหารและของใช้ไปยังกรุงเวียงจันทน์
ธุรกิจส่งออกทุเรียนแช่แข็งไปยังแคนาดาและประเทศต่างๆ ในยุโรป และธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าเด็กไปประเทศต่างๆ
เป็นต้น
ธสน.ยังช่วยเหลือการส่งออกไปยังประเทศซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ของโลกอีกด้วย
อาทิ เวียดนาม, ลาว, พม่า, โปแลนด์, สาธารณรัฐเช็ค, สโลวัค, ฮังการีและรัสเซีย
ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ และเปิดช่องทางการชำระเงินผ่านธนาคารที่เชื่อถือได้ในกลุ่มประเทศที่รัฐบาลจัดตั้ง
แต่จากการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศรุนแรงขึ้น ทำให้เงื่อนไขชำระเงินของผู้ส่งออกมีการผ่อนปรนมากกว่าเดิม
และการส่งออกที่ไม่มี L/C คุ้มครองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
กรณีนี้ ม.ร.ว.ปริดิยาธร กล่าวว่า ธสน.จะสร้างความมั่นใจและความสบายใจให้แก่ผู้ส่งออกที่ต้องส่งสินค้าไปไปยังผู้ซื้อที่ไม่นิยมเปิด
L/C ด้วบริการใหม่ที่เรียกว่า บริการประกันการส่งออก เพื่อประกันความเสี่ยง
การไม่ได้รับค่าชำระจากผู้ซื้อ ทั้งความเสี่ยงทางการค้าปกติ และความเสี่ยงทางการเมือง
โดยให้ความคุ้มครองการส่งสินค้าไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าในตลาดเดิมหรือตลาดการค้าใหม่
"เราต้องการให้ผู้ส่งออกที่ทำการประกันแล้ว สบายใจได้ว่าเมื่อส่งสินค้าลงเรือไปแล้ว
หากผู้ซื้อไม่ชำระเงินค่าสินค้า ธสน.ในฐานะผู้รับประกันจะชำระเงินให้แทนในอัตราร้อยละ
85 ของราคาต้นทุนสินค้า" ม.ร.ว.ปริดิยาธร กล่าว
ในการเปิดสาขาแรกที่หาดใหญ่ก่อนที่จะขยายสาขาไปสู่หัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศของ
ธสน.นี้ ม.ร.ว.ปริดิยาธร ได้กล่าวเน้น 3 บริการหลักที่จะสนองผู้ส่งออกในเขตภาคใต้คือ
หนึ่ง-แพ็กกิ้งแครดิตที่เปิดบริการอยู่แล้ว แต่จะสามารถให้บริการลูกค้าให้สามารถรับเงินได้เร็วขึ้น
1 วัน สอง-คือยอดสินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออก ที่บ่อยครั้งผู้ส่งออกรายย่อยรายใหม่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารพาณิชย์ได้
ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ธสน.ก็จะปล่อยให้หลังจากที่ตรวจสอบแล้วว่ามีความต้องการค้าขายจริง
ส่วนปัญหาว่าจะเป็นการแย่งลูกค้ารายใหญ่ด้วยหรือเปล่านั้น กรรมการผู้จัดการ
ธสน.ย้ำว่า ธสน.จะอยู่ในฐานะที่เสริมเท่านั้น คือถ้าวงเงินที่ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่ได้จากธนาคารพาณิชย์ไม่พอ
ตรงนี้ ธสน.ก็จะเข้าไปเสริมให้
สำหรับบริการสุดท้ายคือ บริการประกันการส่งออก ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่รัฐบาลตั้งใจจะเปิดบริการนี้มากว่า
20 ปี ก็จะประเดิมในครั้งนี้ด้วย คือถ้าผู้ส่งออกไม่มี L/C และได้ส่งของไปแล้ว
แต่ผู้ซื้อในต่างประเทศไม่จ่ายเงิน หรือส่งของลงเรือไปแล้ว ถึงปลายทางแล้วผู้ซื้อปลายทางไม่จ่ายเงิน
บิดพลิ้วด้วยสาเหตุใดก็ตาม ธสน.ก็จะจ่ายแทน
จากนโยบายรุกคืบของ ธสน.ในการบริการสนองต่อผู้ส่งออกทั่วท้องถิ่นไทยครั้งนี้นับได้ว่า
ธสน.คือความหวังใหม่สำหรับผู้ส่งออกรายย่อยที่งบน้อยทั่วประเทศ และการประเดิมสาขาแรกที่หาดใหญ่นี้ถือเป็นการบุกเบิกของรัฐบาลที่ดูจริงใจที่สุด