เริ่มแล้วพันธุ์ทิพย์พลาซ่า สาขาเชียงใหม่ ของเจ้าสัวน้ำเมา "เจริญ สิริวัฒนภักดี" หลังซื้อตึกร้างกลางเมืองเชียงใหม่ หลักทรัพย์หลุดจำนองของแบงก์กรุงเทพ มูลค่า 220 ล้านบาท เมื่อ 2 เดือนก่อน เตรียมฮุบไนต์บาซาร์ทั้งย่าน เจรจาซื้อ "พรพิงค์"โรงแรมหรูเพิ่มอีก พร้อมเล็งรวบโรงแรมดวงตะวันของ "วัฒนา อัศวเหม" เข้าอยู่ในเครือข่ายอีกแห่ง

การขยายเครือข่ายการลงทุนในเชียงใหม่ของกลุ่มสุรามหาราษฎร ของเจ้าสัว "เจริญ สิริวัฒนภักดี" เริ่มคึกคักขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เจรจาซื้อหลักทรัพย์หลุดจำนองของธนาคารกรุงเทพ เป็นที่ดินเนื้อที่กว่า 4 ไร่ พร้อมอาคารร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จ บริเวณถนนช้างคลาน อ.เมืองฯ ซึ่งถือเป็นย่านธุรกิจใจกลางเมืองเชียงใหม่ ย่านเดียวกับไนต์บาซาร์แหล่งท่องเที่ยว และจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของเมือง

ตั้งศูนย์ไอที

นายประพันธ์ สุจริตพานิช ผู้อำนวยการภาคเหนือ 1 ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่าการเจรจาซื้อขายเสร็จสิ้น และโอนทรัพย์สินกันแล้ว เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยราคาซื้อขายที่ 220 ล้านบาท กลุ่มนายเจริญจะใช้เป็นศูนย์ธุรกิจไอทีของเชียงใหม่

ล่าสุดกลุ่มนายเจริญเริ่มเข้าไปปรับปรุงอาคารร้างหลังดังกล่าวแล้ว เพื่อพัฒนาเป็น "พันธุ์ทิพย์พลาซ่า สาขาเชียงใหม่" มูลค่าการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท มีพื้นที่ขายทั้งหมด 22,000 ตารางเมตร ส่วนหนึ่งมีการเจรจาดึงลูกค้าจากกรุงเทพฯ ที่ต้องการจะขยายตลาดไปภาคเหนือ ซึ่งมีไอทีรายใหญ่ที่สนใจเข้าร่วม ได้แก่ ดาต้าไอที และไอทีซิตี้ รวมถึงร้านค้าตัวแทนรายใหญ่ของโซนี่

ทั้งนี้ ที่ดินพร้อมอาคารร้างที่ตั้งอยู่ย่านกลางเมืองเชียงใหม่แปลงดังกล่าว เดิมเป็นที่ตั้งของสโมสรพาณิชย์สามัคคี ที่ได้รับการบริจาคตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่2 เป็นแหล่งรวมตัวของพ่อค้าชาวจีน ที่เดินทางมาทำการค้าขายในเชียงใหม่ในอดีต ก่อนเปลี่ยนเป็นสโมสร

เดิมมีสิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ 7 คูหา และอาคารสโมสร 1 หลัง บ้านไม้อีก 1 หลัง ก่อนนำออกมาเปิดประมูลขายเมื่อ 17 พ.ย. 2540 โดยนายทวี สุขจีรเดช ซึ่งเคยเป็นเจ้าของโรงแรมเชียงใหม่พลาซ่ามาก่อน ชนะการประมูล ราคา 165 ล้านบาท จากราคาที่สโมสรพาณิชย์ตั้งไว้ที่ 160 ล้านบาท

เดิมกลุ่มนายทวีมีแผนจะใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารศูนย์การค้า ภายใต้งบประมาณก่อสร้าง ราว 300 ล้านบาท ต่อมานำที่ดินแปลงดังกล่าวจำนองกับธนาคารกรุงเทพ เริ่มพัฒนาใหม่ตั้งแต่ปี 2541-42 แต่ในที่สุดไม่สามารถต้านทานวิกฤตเศรษฐกิจของเอเชียที่เริ่มตั้งแต่ปี 2540 ได้ และถูกยึดในเวลาต่อมา ซึ่งธนาคารกรุงเทพประกาศขายหลักทรัพย์แปลงนี้ตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถขายได้

เจริญรุกซื้อโรงแรมแม่ปิงก่อน

การขยายการลงทุนเข้าเชียงใหม่ของกลุ่มนายเจริญเพิ่มขึ้นอีก นอกจากเครือข่ายโรงแรม อิมพีเรียล ซึ่งเป็นการเข้าซื้อโรงแรมแม่ปิงเดิมจากกลุ่มคาร์เปท อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของพรม ไทปิง ราคาประมาณ 500 ล้านบาท ตั้งแต่ปลายปี 2531 เพราะเห็นว่าเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่รอง จากกรุงเทพฯ สามารถจับตลาดได้ถึงภาคเหนือตอนบน จีนตอนใต้ ลาว และพม่าแล้ว

ต้น ม.ค.ปีนี้ บริษัท โรงแรมแม่ปิง (1988) จำกัด กิจการในเครือข่ายของนายเจริญซื้อกิจการ โรงแรมเชียงใหม่สปอร์ตคลับแอนด์คลับเฮ้าส์อินน์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อโรงแรม ใหม่สุดของเครือ เป็นโรงแรมอิมพีเรียลแม่ริม ว่ากันว่าราคาซื้อขายโรงแรมแห่งนี้ประมาณ 300 ล้านบาท

ปรับปรุงอิมพีเรียลแม่ปิง 3 ระยะ

สำหรับโรงแรมอิมพีเรียลแม่ริม ปัจจุบันตั้งอยู่พื้นที่ 76 ไร่ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม ตั้งอยู่ติดแม่น้ำปิงทางฝั่งขวาของถนนสายเชียงใหม่-แม่ริม มีห้องพักเดิม 48 ห้อง ห้องประชุมขนาด 60 คน 2 ห้อง ศูนย์กีฬาประกอบด้วยสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก 1 สระ สระว่ายน้ำเด็กขนาด 12 คูณ 8 เมตร อาคารแบดมินตัน 3 คอร์ต ห้องสควอชปรับอากาศ 2 คอร์ต ห้องซาวน่าแยกชายหญิง ห้องออกกำลังกาย โต๊ะเทเบิลเทนนิส และโต๊ะสนุกเกอร์ เปิดบริการมาแล้ว 12 ปี

แผนการของเครืออิมพีเรียล กำหนดจะปรับปรุงโรงแรมดังกล่าว 3 ระยะ คือระยะแรกใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงแรมและสถานที่ให้อยู่ในสภาพใช้การได้ อาทิ ทาสีสถานที่บางจุด ปรับปรุงคอร์ตเทนนิส ที่ไม่ได้ปรับปรุงมานาน เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับ 4 ดาว ทั้งนี้ จะรวมถึงห้องพักทั้งหมดและปรับเปลี่ยนเส้นทางเข้าสู่โรงแรมจากถนนอ้อมเมืองตัดใหม่แทน

ระยะกลาง เม.ย.-ก.ย. ปีนี้ เปิดบริการสปาและนวดแผนโบราณ เปิดห้องอาหารอิตาเลียน เปิดรับสมาชิกสปอร์ตคลับ ส่วนระยะยาวจะก่อสร้างอาคารห้องพักเพิ่มอีก 120 ห้อง ห้องประชุมขนาด 250-300 ที่นั่งสนามกอล์ฟขนาด 9 หลุมพาร์ 3 เล่นได้ทั้งกลางวันกลางคืน และไดรฟ์วิ่งเรนจ์ขนาดมาตรฐาน

เป้าหมายการซื้อกิจการและปรับปรุงโรงแรมแห่งนี้ของกลุ่มนายเจริญ ส่วนหนึ่งรองรับตลาดทัวร์พักระยะยาวหรือลองสเตย์ ซึ่งเดิมอิมพีเรียลแม่ปิงได้รับทัวร์ซาก้าฮอลิเดย์ ส่งลูกค้าพักระยะยาวต่อเนื่อง 7 ปีแล้ว

นอกจากนั้น จะวางเป้าที่ตลาดพักระยะยาวผู้สูงอายุญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าหน้าที่ ญี่ปุ่นได้เข้ามาสำรวจสถานที่พักเหมาะสม ตรงตามเงื่อนไข เช่น ไม่ห่างจากโรงพยาบาล มีกิจกรรมรองรับ มีพนักงานพูดภาษาญี่ปุ่น ฯลฯ แต่ปรากฏว่า ภาคเหนือไม่มีที่เหมาะสมรองรับเลย ดังนั้นอิมพีเรียลแม่ริมจะเป็นแห่งแรกที่จะรองรับตลาดดังกล่าว โดยจะปรับกิจกรรมและสถานที่ตามแนวทางของชีวาศรม ชะอำ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านสปาและกิจกรรมสุขภาพ ผสมกับคลับเมดิเตอร์เรเนียนภูเก็ต ซึ่งเป็นศูนย์กีฬาศูนย์พักผ่อนและบันเทิง ทั้งนี้วางตำแหน่งที่รีสอร์ตระดับ 4 ดาว

เตรียมรวบไนต์บาซาร์ทั้งย่าน

แหล่งข่าววงการธุรกิจเชียงใหม่ ระบุว่านอกจากนี้กลุ่มนายเจริญยังมีแผนจะซื้อที่ดิน-กิจการ ที่ตั้งอยู่ย่านเดียวกับไนต์บาซาร์ทั้งย่านเพิ่มเติมอีก โดยล่าสุด กลุ่มนายเจริญ กำลังเจรจาซื้อโรงแรม พรพิงค์ทาวเวอร์ โรงแรมหรูสูง 21 ชั้น 325 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้เคียงไนต์บาซาร์ ติดถนนเจริญประเทศของกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่จากภาคตะวันออกอยู่ แต่การเจรจายังไม่บรรลุผล

ยังมีรายงานว่า เขายังมีเป้าหมายจะซื้อโรงแรมดวงตะวัน อาคารสูง 11 ชั้น 554 ห้องของกลุ่มนายวัฒนา อัศวเหม อดีต ส.ส. สมุทรปราการ ที่ซื้อกิจการต่อจากนายธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ ตั้งแต่ 5-6 ปีก่อน จากนั้นได้ปรับปรุงระยะหนึ่ง ก่อนหยุดปล่อยให้ร้างมานานหลายปี

กรณีโรงแรมดวงตะวันเป็นไปได้ค่อนข้างมาก ที่กลุ่มนายเจริญจะรอเจรจาซื้อจากธนาคาร เจ้าหนี้อีกทอด หากกลุ่มนายวัฒนาตั้งราคาขายสูงเกินไป จากเดิมที่เคยซื้อมาประมาณ 800 ล้านบาท

หากการเจรจาซื้อโรงแรมทั้ง 2 แห่งของกลุ่ม นายเจริญประสบผลสำเร็จจะทำให้พื้นที่ธุรกิจย่านไนต์บาซาร์แทบทั้งหมด อยู่ในมือของเขาทันที จากเดิมที่มีกาแลไนต์บาซาร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางไนต์บาซาร์ ย่านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกที่ขึ้นชื่อที่สุดของเชียงใหม่ และบริเวณท้ายถนนช้างคลาน ห่างจากไนต์บาซาร์ประมาณ 500 เมตร ก็เป็นที่ตั้งของพันธุ์ทิพย์พลาซ่า สาขาเชียงใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงก่อสร้างเพิ่มเติม

ขณะที่โรงแรมพรพิงค์ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของไนต์บาซาร์ ส่วนโรงแรมดวงตะวันอยู่ด้านตะวันตกของไนต์บาซาร์

สมัย 10 กว่าปีก่อน กลุ่มนายเจริญเคยมีแผนงานจะลงทุนสร้างคอมเพล็กซ์ขนาดยักษ์ย่านไนต์บาซาร์ แผนงานคราวนั้นจะสร้างโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวอย่างแท้จริงถึง 2 แห่ง เป็นการสร้างติด ถนนช้างคลานทั้ง 2 ฝั่ง มีสะพานเชื่อมต่อถึงกัน