สมหญิง "แค้นนี้ต้องชำระ"


นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2533)



กลับสู่หน้าหลัก

ถ้าจะพูดว่าน้ำมันราคาถูกที่สยามนกไม้ขายนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญของสถานการณ์ก็ได้ เพราะหากว่าสมหญิงไม่ขัดแย้งกับหุ้นส่วนเดิมคือวิญญู พานิชการ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ได้ร่วมลงทุนปั๊มปตท.ช่วงกิโลเมตรที่ 27 บนถนนมิตรภาพ น้ำพอง-ขอนแก่น ในชื่อบริษัท นกไม้สยาม จำกัด แล้ว เราคงจะไม่เห็นปั๊มนกไม้ขึ้นผงาดเยื้องกับปั๊มปตท.

สมหญิงย้อนอดีตกับ "ผู้จัดการ" ว่า "เป็นความรู้สึกเจ็บปวด รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคมทั้งที่บริสุทธิ์ ลองคิดดู ไม่มีรายการซื้อน้ำมันแล้วจะหาว่าเอาน้ำมันไปขาย เป็นไปได้ยังไง"

นกไม้สยามจดทะเบียนเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2529 ด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท เพื่อทำธุรกิจปั๊มน้ำมัน โดยมี ห้างหุ้นส่วนจำกัดนกไม้ ของสมหญิงเป็นผู้ดูแลด้านขนส่ง แต่แล้วก็ต้องมาเจอชะตากรรมจากปัญหาภายในของนกไม้สยาม "เขา (วิญญู) หาว่ายักยอกเงินบริษัท รถน้ำมัน เขาเอาบริษัทไปโดยไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นลูกชายเขาเพิ่งจะจบด้วย เลยอยากได้ เขาไปแจ้งความ ถูกจับไปจะขอประกันก็ไม่ได้ ทั้งที่ควรจะให้ประกัน เตรียมเงินไปพร้อม แต่เขาไม่ยอม ถูกขังอยู่คืนนึง ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว" สมหญิงเล่าถึงความรู้สึกอันขมขื่นในช่วงที่ผ่านมา

สมหญิงถูกฟ้องในคดียักยอก ในประเด็นว่าได้เบิกเงินค่าน้ำมันดีเซลแต่ไม่มีการสั่งซื้อจากลูกค้า และเอาเงินจากการขายน้ำมันไปเข้าบัญชีไม่เต็มจำนวน แล้วเบียดบังยักยอกมาเป็นของตนรวมประมาณ 134,000 บาท

ศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้อง

ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ โดยมีพนักงานอัยการ กรมอัยการ กองคดีแขวงพระนครเหนือเป็นโจทก์และบริษัท นกไม้สยามเป็นโจท์ร่วม สมหญิงหรือสมลักษณ์ เสรีวงศ์ เป็นจำเลย

ที่ใช้สมหญิงหรือสมลักษณ์ เนื่องจากสมหญิงได้เปลี่ยนชื่อเป็นสมลักษณ์กลับไปกลับมาประมาณ 3-4 ครั้งในช่วงปี 2529-30

ส่วนคดียักยอกรถน้ำมัน ลงเอยด้วยการยอมความกัน

ขณะที่พิศลย์เล่าว่า "เป็นเพราะปัญหาการบริหาร จึงมีการรื้อบัญชีเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ก็ต้องหาข้อยุติ ในวันประชุมบริษัทก็พูดว่าจะเลิก จะขายเอาเงินใช้หนี้ ถามกันว่าใครอยากทำ ตอนนั้นเพิ่งจบเลย ผมบอกพ่อเอาไว้สิ มีการเสนอราคากัน และมาจบที่ราคา 4.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่พ่อเสนอสูงสุด"

สถานะของนกไม้สยามที่ผ่านมาขาดทุนไปประมาณ 6-7 ล้านบาท ขณะนี้เป็นหนี้ธนาคารเอเชียอยู่ 3 ล้านกว่าบาท เสียดอกเบี้ยประมาณเดือนละหมื่น อีก 7 ปีจึงจะหมดหนี้

อนึ่ง จากข้อมูลของกรมทะเบียนการค้าพบว่า นกไม้สยามไม่ได้ส่งงบ พูดกันว่าช่วงที่สมหญิงเป็นผู้จัดการนั้น มีบัญชีธนาคารกว่า 10 บัญชี ขณะที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด นกไม้ นั้น ณ สิ้นปี 2531 ขาดทุนสะสมประมาณ 131,000 บาท

เมื่อสมหญิงแยกตัวออกมาจากนกไม้สยาม ก็ออกมาตั้งบริษัทใหม่ ชื่อ บริษัท สยามนกไม้ จำกัด ตั้งปั๊มน้ำมัน "นกไม้"

"ตอนสร้างก็ถูกขู่สารพัด บอกว่าถ้าอยากมีชีวิตก็อย่าสร้าง มิหนำซ้ำปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจไม่ควรจะใช้วิธีการตลาดด้วยการขึ้นป้ายโจมตี หาว่าน้ำมันไม่ได้สเปกบ้าง ไม่เต็มลิตรบ้าง ทั้งที่น้ำมันก็มาจากโรงกลั่นเดียวกัน ที่จริงเราเป็นแค่ปั๊มเล็ก ๆ คิดว่าจะมุ่งเข้าชนบทหรืออาศัยลูกค้าจร ไม่น่าจะทำกันอย่างนี้" สมหญิงเล่าถึงความเคลื่อนไหวช่วงที่กำลังก่อสร้างปั๊มนกไม้

ที่จริงก่อนตั้งปั๊มนกไม้ สมหญิงได้ติดต่อปตท.ขอตั้งปั๊ม แต่ปตท.ไม่เห็นด้วย เนื่องจากอยู่ใกล้กับปั๊มเดิมจนเกินไป

ขณะที่สมหญิงบอกว่า "เราไม่ใช่คนผิด ศาลก็ตัดสินมาแล้ว ก็คิดว่าน่าจะพิสูจน์ฝีมือและความบริสุทธิ์ของเรา"

นั่นคือที่มาของปั๊มนกไม้ "เราเป็น BRAND ใหม่ จึงลดราคา และที่ใช้ LOGO ของบางจากฯ นั้น เพื่อเป็นหลักประกันให้ลูกค้าเพราะนกไม้คนไม่รู้จัก และจะได้ส่งเสริมน้ำมันส่งตรงมาจากโรงกลั่นของไทย ถ้าไม่ใช้ LOGO บางจากฯ คงเจ๊งแน่" สมหญิงเล่าที่มาของปั๊มนกไม้

ความขุ่นเคืองของสมหญิงกับวิญญูไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ สมหญิงได้ฟ้องปปป. ให้สอบสวนวิญญูเกี่ยวกับการสร้างปั๊มปตท.หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพว่าใช้แรงงานนักโทษโดยไม่ได้รับอนุญาต และรื้อถอนกำแพงบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งถือว่าเป็นโบราณสถาน มีกฎหมายห้ามสร้างหรือต่อเติมสิ่งใด เมื่อฝ่าฝืนก็ถือว่ามีความผิด

เล่ากันว่า เดิมสมหญิงเป็นคนประสานงานในการสร้างปั๊มปตท.นี้กับปตท.ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนที่รู้เรื่องน้ำมันในช่วงที่ยังไม่มีปัญหากัน

อย่างไรก็ตาม "ผู้จัดการ" ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า การสร้างปั๊มปตท.แห่งนี้ เป็นของกรมราชทัณฑ์ มีการติดต่อตามขั้นตอนและตอนหลังได้ชี้แจงกับกรมศิลปากรเจ้าของเรื่องไปแล้ว

ปัญหาขัดแย้งระหว่างสมหญิงกับวิญญูนี้คงไม่จบลงง่าย ๆ

วิญญูซึ่งกำลังจะเกษียณในปีนี้ ยืนยันที่จะอุทธรณ์การพิพากษาคดียักยอกเงินถึงที่สุด และเตรียมฟ้องกลับในประเด็นที่สมหญิงร้องให้ปปป.สอบตน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องขัดแย้ง เช่น ปัญหาการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จ.สุพรรณบุรี ฯลฯ ที่วิญญูบอกว่าจะต้องให้ศาลเป็นคนตัดสิน

รายการนี้จึงเข้มข้นทั้งระดับบุคคลและระดับชาติ...!



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.