ถ้าจะพูดว่าน้ำมันราคาถูกที่สยามนกไม้ขายนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญของสถานการณ์ก็ได้
เพราะหากว่าสมหญิงไม่ขัดแย้งกับหุ้นส่วนเดิมคือวิญญู พานิชการ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ที่ได้ร่วมลงทุนปั๊มปตท.ช่วงกิโลเมตรที่ 27 บนถนนมิตรภาพ น้ำพอง-ขอนแก่น
ในชื่อบริษัท นกไม้สยาม จำกัด แล้ว เราคงจะไม่เห็นปั๊มนกไม้ขึ้นผงาดเยื้องกับปั๊มปตท.
สมหญิงย้อนอดีตกับ "ผู้จัดการ" ว่า "เป็นความรู้สึกเจ็บปวด
รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคมทั้งที่บริสุทธิ์ ลองคิดดู ไม่มีรายการซื้อน้ำมันแล้วจะหาว่าเอาน้ำมันไปขาย
เป็นไปได้ยังไง"
นกไม้สยามจดทะเบียนเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2529 ด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท
เพื่อทำธุรกิจปั๊มน้ำมัน โดยมี ห้างหุ้นส่วนจำกัดนกไม้ ของสมหญิงเป็นผู้ดูแลด้านขนส่ง
แต่แล้วก็ต้องมาเจอชะตากรรมจากปัญหาภายในของนกไม้สยาม "เขา (วิญญู)
หาว่ายักยอกเงินบริษัท รถน้ำมัน เขาเอาบริษัทไปโดยไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นลูกชายเขาเพิ่งจะจบด้วย
เลยอยากได้ เขาไปแจ้งความ ถูกจับไปจะขอประกันก็ไม่ได้ ทั้งที่ควรจะให้ประกัน
เตรียมเงินไปพร้อม แต่เขาไม่ยอม ถูกขังอยู่คืนนึง ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว"
สมหญิงเล่าถึงความรู้สึกอันขมขื่นในช่วงที่ผ่านมา
สมหญิงถูกฟ้องในคดียักยอก ในประเด็นว่าได้เบิกเงินค่าน้ำมันดีเซลแต่ไม่มีการสั่งซื้อจากลูกค้า
และเอาเงินจากการขายน้ำมันไปเข้าบัญชีไม่เต็มจำนวน แล้วเบียดบังยักยอกมาเป็นของตนรวมประมาณ
134,000 บาท
ศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้อง
ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ โดยมีพนักงานอัยการ กรมอัยการ กองคดีแขวงพระนครเหนือเป็นโจทก์และบริษัท
นกไม้สยามเป็นโจท์ร่วม สมหญิงหรือสมลักษณ์ เสรีวงศ์ เป็นจำเลย
ที่ใช้สมหญิงหรือสมลักษณ์ เนื่องจากสมหญิงได้เปลี่ยนชื่อเป็นสมลักษณ์กลับไปกลับมาประมาณ
3-4 ครั้งในช่วงปี 2529-30
ส่วนคดียักยอกรถน้ำมัน ลงเอยด้วยการยอมความกัน
ขณะที่พิศลย์เล่าว่า "เป็นเพราะปัญหาการบริหาร จึงมีการรื้อบัญชีเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง
ก็ต้องหาข้อยุติ ในวันประชุมบริษัทก็พูดว่าจะเลิก จะขายเอาเงินใช้หนี้ ถามกันว่าใครอยากทำ
ตอนนั้นเพิ่งจบเลย ผมบอกพ่อเอาไว้สิ มีการเสนอราคากัน และมาจบที่ราคา 4.5
ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่พ่อเสนอสูงสุด"
สถานะของนกไม้สยามที่ผ่านมาขาดทุนไปประมาณ 6-7 ล้านบาท ขณะนี้เป็นหนี้ธนาคารเอเชียอยู่
3 ล้านกว่าบาท เสียดอกเบี้ยประมาณเดือนละหมื่น อีก 7 ปีจึงจะหมดหนี้
อนึ่ง จากข้อมูลของกรมทะเบียนการค้าพบว่า นกไม้สยามไม่ได้ส่งงบ พูดกันว่าช่วงที่สมหญิงเป็นผู้จัดการนั้น
มีบัญชีธนาคารกว่า 10 บัญชี ขณะที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด นกไม้ นั้น ณ สิ้นปี
2531 ขาดทุนสะสมประมาณ 131,000 บาท
เมื่อสมหญิงแยกตัวออกมาจากนกไม้สยาม ก็ออกมาตั้งบริษัทใหม่ ชื่อ บริษัท
สยามนกไม้ จำกัด ตั้งปั๊มน้ำมัน "นกไม้"
"ตอนสร้างก็ถูกขู่สารพัด บอกว่าถ้าอยากมีชีวิตก็อย่าสร้าง มิหนำซ้ำปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจไม่ควรจะใช้วิธีการตลาดด้วยการขึ้นป้ายโจมตี
หาว่าน้ำมันไม่ได้สเปกบ้าง ไม่เต็มลิตรบ้าง ทั้งที่น้ำมันก็มาจากโรงกลั่นเดียวกัน
ที่จริงเราเป็นแค่ปั๊มเล็ก ๆ คิดว่าจะมุ่งเข้าชนบทหรืออาศัยลูกค้าจร ไม่น่าจะทำกันอย่างนี้"
สมหญิงเล่าถึงความเคลื่อนไหวช่วงที่กำลังก่อสร้างปั๊มนกไม้
ที่จริงก่อนตั้งปั๊มนกไม้ สมหญิงได้ติดต่อปตท.ขอตั้งปั๊ม แต่ปตท.ไม่เห็นด้วย
เนื่องจากอยู่ใกล้กับปั๊มเดิมจนเกินไป
ขณะที่สมหญิงบอกว่า "เราไม่ใช่คนผิด ศาลก็ตัดสินมาแล้ว ก็คิดว่าน่าจะพิสูจน์ฝีมือและความบริสุทธิ์ของเรา"
นั่นคือที่มาของปั๊มนกไม้ "เราเป็น BRAND ใหม่ จึงลดราคา และที่ใช้
LOGO ของบางจากฯ นั้น เพื่อเป็นหลักประกันให้ลูกค้าเพราะนกไม้คนไม่รู้จัก
และจะได้ส่งเสริมน้ำมันส่งตรงมาจากโรงกลั่นของไทย ถ้าไม่ใช้ LOGO บางจากฯ
คงเจ๊งแน่" สมหญิงเล่าที่มาของปั๊มนกไม้
ความขุ่นเคืองของสมหญิงกับวิญญูไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ สมหญิงได้ฟ้องปปป.
ให้สอบสวนวิญญูเกี่ยวกับการสร้างปั๊มปตท.หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพว่าใช้แรงงานนักโทษโดยไม่ได้รับอนุญาต
และรื้อถอนกำแพงบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งถือว่าเป็นโบราณสถาน มีกฎหมายห้ามสร้างหรือต่อเติมสิ่งใด
เมื่อฝ่าฝืนก็ถือว่ามีความผิด
เล่ากันว่า เดิมสมหญิงเป็นคนประสานงานในการสร้างปั๊มปตท.นี้กับปตท.ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนที่รู้เรื่องน้ำมันในช่วงที่ยังไม่มีปัญหากัน
อย่างไรก็ตาม "ผู้จัดการ" ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า การสร้างปั๊มปตท.แห่งนี้
เป็นของกรมราชทัณฑ์ มีการติดต่อตามขั้นตอนและตอนหลังได้ชี้แจงกับกรมศิลปากรเจ้าของเรื่องไปแล้ว
ปัญหาขัดแย้งระหว่างสมหญิงกับวิญญูนี้คงไม่จบลงง่าย ๆ
วิญญูซึ่งกำลังจะเกษียณในปีนี้ ยืนยันที่จะอุทธรณ์การพิพากษาคดียักยอกเงินถึงที่สุด
และเตรียมฟ้องกลับในประเด็นที่สมหญิงร้องให้ปปป.สอบตน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องขัดแย้ง
เช่น ปัญหาการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จ.สุพรรณบุรี ฯลฯ ที่วิญญูบอกว่าจะต้องให้ศาลเป็นคนตัดสิน
รายการนี้จึงเข้มข้นทั้งระดับบุคคลและระดับชาติ...!