|
Branding TAIWAN เจาะตลาดโลก
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( ธันวาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
กลยุทธ์การพัฒนาด้านการสร้างแบรนด์ระดับสากลภายใต้แนวคิด Branding Taiwan กำลังจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้ไต้หวันก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ผลิตเครื่องมือและเครื่องจักรกลที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ขณะเดียวกันยังกำหนดเป้าหมายที่จะก้าวเป็นอันดับสามของโลกในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วย
จัสติน ไท ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าไต้หวันในไทย ระบุว่าไต้หวันถือเป็นประเทศผู้ผลิตนวัตกรรมเครื่องมือและเครื่องจักรกลที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยยอดการส่งออกสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือและเครื่องจักรกลของไต้หวันมีส่วนแบ่งในตลาดโลกมากถึงเกือบร้อยละ 75 ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลไต้หวันได้ทำข้อตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ระหว่างไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนสำหรับชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักรกลของไต้หวัน ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-สิงหาคม 2553) ประเทศไทยนำเข้าสินค้าเครื่องมือเครื่องจักรจากไต้หวันสูงขึ้น 69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดการนำเข้าคิดเป็น 74.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเครื่องกลึงและเครื่องตัดเหล็กถือเป็นสินค้าที่มียอดการเติบโตสูงที่สุดอยู่ที่ 224%
"กระทรวงเศษรฐกิจไต้หวันมุ่งมั่นผลักดันอุตสาหกรรมของไต้หวันให้มีการพัฒนาด้านการสร้างแบรนด์ระดับสากลและสร้างบรรยากาศในการเจริญเติบโตแก่ภาคอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ปี 2549 ภายใต้แนวคิด Branding Taiwan ได้การตอบรับอย่างดี"
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องมือและเครื่องจักรกลของผู้ประกอบการไต้หวันในงาน METALEX 2010 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องมือเครื่องจักรจากสมาคมผู้ผลิตเครื่องจักรแห่งไต้หวัน ปัจจุบันมีสมาชิก 2,376 ราย ในทุก กลุ่มธุรกิจหลัก รวมถึงผู้แทนจำหน่ายและผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี
สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องมือและเครื่องจักรกลของไต้หวันที่เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกคือเครื่องตัดเหล็ก เครื่องกลึง และเครื่องตั้งศูนย์ ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกรวมกันถึง 70% ของยอดส่งออกทั้งหมด ซึ่งเครื่องกลึงเติบโต 23% เครื่องตั้งศูนย์เติบโต 16.5% ต่อปีตามลำดับ
"ในระหว่างปี 2553-2558 ไต้หวันคาดว่าจะสามารถส่งออกเครื่องตั้งศูนย์ได้ 9.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เครื่องกลึง 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เครื่องหล่อโลหะ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเครื่องเจาะแบบหลายแฉก 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ" จัสติน ไท ระบุ ทั้งนี้ในปี 2553 นี้ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเครื่องมือและเครื่องจักรกลของไต้หวันจะมีมูลค่ารวมการผลิตสูงถึง 4 พันล้าน เหรียญสหรัฐ หรือเติบโตประมาณร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ปี 2554 คาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัวได้เกินร้อยละ 20 ซึ่งจะส่งผลให้ไต้หวันเป็นประเทศ ผู้ผลิตเครื่องมือและเครื่องจักรกลที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก
นอกจากนี้ ไต้หวันยังตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2558 จะสามารถผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักรกลให้ได้มูลค่า 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบได้เป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากญี่ปุ่นและเยอรมนี ทั้งนี้ในระหว่างปี 2553-2558 คาดว่าจะสามารถส่งออกผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักรกลไปยังประเทศจีนได้ 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากจีนถือเป็น ตลาดใหญ่ที่สุดของไต้หวัน
ส่วนการส่งออกไปยังยุโรปตะวันตกถือเป็นตลาดใหญ่เป็นอันดับสองโดยมีมูลค่าการส่งออกที่ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ใน ขณะที่ทางกลุ่มประเทศในแถบยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือและประเทศทางแถบภูมิภาคอาเซียนรวมถึงประเทศไทย ก็ถือเป็นตลาดสำคัญที่จะสามารถส่งออกสินค้าไปได้โดยมีมูลค่ากว่า 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|