|
'แดรี่ควีน'เร่งขยายช่องทางตลาดใหม่ส่งรถเคลื่อนที่ขายไอศกรีม
ASTV ผู้จัดการรายวัน(9 ธันวาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
แดรี่ควีน เดินหน้าเต็มสูบ มุ่งขยายช่องทางเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค สร้างแบรนด์อะเวเนจต่อเนื่อง ล่าสุดส่ง DQ โมบาย ยูนิต ชิมลาง ลุ้นDQ Grill&Chill จะอยู่หรือไปต้นปีหน้า จัดทัพลุยแฟรนไชส์ 20 สาขาทะลวงภาคใต้ มั่นใจปี54รายได้รวมขยับโตอีก 15-18% จาก 1,000 กว่าล้านที่ทำได้ในสิ้นปีนี้
นายชุมพจน์ ตันติสุนทร รองกรรมการผู้จัดการ และกลุ่มผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ จะโฟกัสในส่วนของช่องทางการจำหน่าย ให้มีความหลากหลาย เข้าถึงและอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ล่าสุดได้นำเอา DQ โมบาย ยูนิต รถบริการเคลื่อนที่ มาใช้ ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
เปิดตัวครั้งแรกในงาน บางแสน ไทยแลนด์ สปีด เฟสติวัล 2010 ปัจจุบันมีอยู่เพียง 1 คัน มีแผนที่จะผลักดันให้ DQ โมบาย ยูนิต เป็นตัวผลักดันรายได้และสร้างแบรนด์อะเวเนจในปีหน้า โดยจะลงทุนพัฒนาขึ้นมา 5-10 คัน ต่อคันใช้งบลงทุน2 ล้านบาท จำหน่ายสินค้าในกลุ่มไอศกรีม เครื่องดื่ม และอาหาร ราว 20 เมนู ขึ้นอยู่แต่ละงานอีเว้นท์ที่เข้าไปร่วม
นอกจากนี้ยังเตรียมพัฒนาช่องทางขายใหม่ๆอีกหลายตัว เช่น เดลิเวอรี่ ที่ใช้ผ่าน เบอร์คอลเซ็นเตอร์ ของ เดอะ พิซซ่า ให้บริการสินค้าเพียง 1 เมนู คือ Treazza Pizza เริ่มขายมาตั้งแต่ 25 พ.ยที่ผ่านมา ถ้าแนวโน้มตอบรับสูง จะนำมาเป็นเมนูประจำภายในร้านแดรี่ควีนต่อไป จากปัจจุบันขายผ่านช่องทางเดลิเวอรี่เท่านั้น ในราคา 129 บาท
นายชุมพจน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการขยายสาขา จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 230 สาขา แบ่งออกเป็น กทม 110-115 สาขา และอีก115 สาขาอยู่ต่างจังหวัด ปีหน้าขยายเพิ่ม 30 สาขา แบ่งออกเป็น 10 สาขาลงทุนเอง และอีก 20 สาขาเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งในส่วนของแฟรนไชส์จะเริ่มในปีหน้า เริ่มจากภาคใต้เป็นอันดับแรก คาดว่าภายในปี 2014 จะมีจำนวนสาขาที่เป็นแฟรนไชส์ทั้งสิ้น 400-450 สาขา ขณะที่ในกรุงเทพจะลงทุนเองทั้งหมด
สำหรับร้าน DQ Grill&Chill 3 สาขาในปัจจุบันนั้น ขณะนี้ได้ทีมงานจากต่างประเทศเข้ามาหาผลวิจัยให้ว่า ในปีหน้าจะถูกโฟกัสไปในทิศทาง จะดำเนินการต่อหรือยุติลงจะสรุปผลในไตรมาสแรกปีหน้า อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานในปีหน้ารวมแล้วจะมีการลงทุนทั้งสิ้นราว 70-100 ล้านบาท ไม่รวมงบการตลาด คาดว่าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตได้ถึง 15-18% จากรายได้รวม 1,000 กว่าล้านบาทที่คาดว่าจะทำได้ในสิ้นปีนี้ โดยยังครองส่วนแบ่งเป็นผู้นำในตลาดไอศกรีมซอฟท์เสริฟมูลค่า 2,500 บาทไว้ได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|