|
บ้านหลังที่ 2 บูม กลุ่มทุนจากกรุง แห่ปักธงชิงโอกาสตลาดภูธร
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(9 ธันวาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ขาขึ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูธรขยายตัวฉลุย จากกระแสพฤติกรรมการสร้างบ้านหลังที่ 2 ไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ หรือเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มทุนจัดสรรในกรุง เบนเข็มลุยหัวเมืองทำเลทองต่างจังหวัดอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้มีโครงการระดับไฮเอนด์ผุดขึ้นมากที่ พัทยา หัวหิน เกาะสมุยและภูเก็ต
นับถอยหลังเดือนสุดท้ายของปี ก่อนย่างเข้าสู่ปี 2554 บรรดาผู้ประกอบการในวงการอสังหาฯหลายๆค่ายออกมาเคลื่อนไหว ประกาศเป้าหมายใหม่ขยายตลาดจากเมืองออกสู่ตลาดต่างจังหวัด ที่น่าสนใจการขยายโครงการที่เกาะไปกับกระแสบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันนี้เริ่มปรับจากโครงการหรูระดับไฮเอนด์ที่ผ่านมามาเป็นโครงการระดับกลางเจาะตลาดกลุ่มคนไทยมากขึ้น รวมทั้งยังขยายไปสู่หัวเมืองหลักอื่นๆอันเนื่องมาจากการย้ายถิ่นฐานที่อยู่
ปรากฏการณ์นี้ แม้ว่าจะเหมือนกับที่เกิดขึ้นมาแล้ว เพราะการสร้างบ้านหลังที่ 2 เคยได้รับความนิยมมาแล้วที่เมื่อหลายปีก่อนนั้น เศรษฐีคนไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัย ชาวสแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ได้สร้างพักตากอากาศในไทย ซึ่งทำให้กลุ่มอสังหาฯเมืองท่องเที่ยว พัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย เชียงใหม่ เติบโต และเป็นที่ดินทำเลทองมีราคาสูง
สำรวจแนวรุกของแวดวงอสังหาที่ผ่านมา สำหรับการขยายต่างจังหวัดจากกระแสบ้านหลังที่ 2 ของกลุ่มทุนจัดสรรบางรายจะอาศัยขยายฐานลูกค้าเดิมที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2กระทั่งโครงการหรูเน้นที่มีจุดขายมีความแตกต่างจากผู้ประกอบรายอื่น นับตั้งแต่ แอล.พี.เอ็น. ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ประกาศทิศทางขยายการลงทุนต่างในจังหวัดเป็นครั้งแรก โดยในปี 2554เตรียมลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมที่พัทยา จ.ชลบุรี และหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งการขยายการลงทุนครั้งนี้ ระยะแรก จะอาศัยเจาะตลาดบ้านหลังที่สอง จากฐานลูกค้าเดิมที่มีกว่า 1 แสนราย จากจำนวนลูกค้า 4 หมื่นยูนิต
ขณะเดียวกันการเจาะตลาดอสังหาฯเมืองท่องเที่ยว ในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออก เช่นจังหวัดชลบุรีที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมากในช่วงครึ่งหลังปี 2553 บริษัท เอชบีอินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด(HBIRM) เริ่มปรับแผนมาเปิดสาขาให้บริการลูกค้าในเมืองพัทยา ที่เป็นกลุ่มระดับไฮเอนด์และชาวต่างชาติซึ่งมีทั้งเช่าและซื้อบ้านหลังที่ 2 ทั้งนี้การเปิดสาขานี้มีเป้าหมายรุกตลาดบริหารอาคารและธุรกิจจัดสรรภาคตะวันออก นอกจากนั้นเป้าหมายใหม่ของภาคธุรกิจอสังหาฯที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในภูมิภาคนี้ จังหวัดระยอง รวมทั้งจังหวัดจันทบุรี ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ทำให้ที่มีการลงทุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผุดขึ้นมาหลายโครงการ
กระแสการสร้างบ้านหลังที่ 2 ตากอากาศจากเมืองพัทยาขยายทำเลทองถัดมาที่ อ.หัวหิน จังหวัดประจวบฯที่เปลี่ยนจากบ้านพักตากอากาศริมทะเล โดยมีการลงทุนสร้างคอนโดฯตากอากาศริมทะเลบูมติดต่อกันมา 4-5 ปีแล้วนั้น ปัจจุบันยังคงติดอันดับความนิยมสร้างเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเศรษฐี เห็นได้จากการขึ้นของที่พักคอนโดระดับไฮเอนด์นิยมสร้างเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเศรษฐีไฮเอนด์จากกลุ่มอิตัลไทยและเจ้าของเครืออมารี ที่เปิดตัวคอนโดมีเนียมแนวใหม่กับแนวคิด The First Hotel-serviced condominium ในโครงการชื่อ"อมารี เรสซิเดนซ์ หัวหิน"
ทั้งนี้ปัจจัยการขยายหัวเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดทั่วประเทศ ที่มีการเปิดตัวห้างสรรพสินค้าไปสู่ต่างจังหวัด สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ขณะที่การใช้ชีวิตในเมืองที่มีความวุ่นวาย จึงทำให้คนกรุงเทพฯ พากันมาสร้างบ้านหลังที่สองอยู่ที่ต่างจังหวัดกันมากขึ้น เพื่อไว้เป็นที่พักผ่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ เห็นทิวทัศน์และสัมผัสกับอากาศธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งทำเลที่ดินวิวภูเขา จากที่มี “เขาใหญ่” บูมเป็นที่สำหรับสร้างบ้านหลังที่ 2 ของเศรษฐีเมืองกรุง ปัจจุบันความเจริญขยายเข้าสู่เขตอำเภอวังน้ำเขียวจังหวัดนครราชสีมา และที่พักตากอากาศเมืองชายทะเล เมืองพัทยา และหัวหิน เนื่องจากระยะการเดินทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้คนเมืองอยากมีบ้านหลังที่ 2 ที่นี่
กระแสการสร้างบ้านหลังที่ 2 ไว้สำหรับเป็นที่พักตากอากาศ ไม่เพียงบูมในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีระยะทางใกล้กับกรุงเทพฯ ทว่าการเจาะตลาดอสังหาฯบ้านหลังที่ 2 เป็น อีกปัจจัยบวกในหัวเมืองใหญ่ทุกๆภาค
เห็นได้จากภาพรวมโครงการบ้านจัดสรรของเมืองหาดใหญ่ที่มีโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 10 ล้าน และการขยายตัวของธุรกิจบ้านโตเกิน 100% ธนวัฒน์ พูนศิลป์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดสงขลา กล่าวกับ “ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์” ว่า ปัจจัยหนึ่งมาจาก เจเนอเรชั่นที่3 ของจังหวัดชายแดน เข้ามาซื้อบ้านหลังที่ 2 ในอำเภอหาดใหญ่ เนื่องจากที่นี่มีความเจริญทางด้านโรงพยาบาล และสถานการศึกษา
สำหรับภาคเหนือในปีนี้ เมืออสังหาฯเริ่มฟื้นตัวนั้น กระแสการสร้างบ้านหลังที่ 2 ไว้สำหรับเป็นที่พักตากอากาศมีสัดส่วนขยายตัวด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จากข้อมูลฝ่ายวิจัยและพัฒนาบริษัทปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ระบุว่า หากวิเคราะห์ถึงความต้องการสร้างบ้านเองในจังหวัดเชียงใหม่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ 1 สร้างบ้านหลังแรกเพื่ออยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่นมีสัดส่วนประมาณ 70% และ 2) สร้างบ้านหลังที่สองเพื่อพักผ่อน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่นมีสัดส่วนประมาณ 30% โดยบ้านระดับราคาเฉลี่ย 2-5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงสุด
แม้แต่การขยายแฟรนไชส์ต่างจังหวัดของพีดีเฮ้าส์ผู้นำตลาดสร้างบ้านที่ภาคเหนือ เชียงใหม่ พิษณุโลก โดยมีการวิเคราะห์ถึงความต้องการสร้างบ้านเองของผู้บริโภคแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. สร้างบ้านหลังแรกเพื่ออยู่อาศัยทั่วๆไป คือกลุ่มผู้บริโภคในท้องถิ่น 2. กลุ่มผู้บริโภคหรือนักลงทุนมาจากต่างถิ่นสร้างบ้านหลังที่ 2 เพื่อการพักผ่อน มีสัดส่วนประมาณ 70:30 ปัจจัยนี้เองที่ทำให้ตลาดบ้านสร้างเองจังหวัดเชียงใหม่ มีโอกาสเติบโตมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นฯ กระทั่งการลงทุนขยายสาขาใหม่ของสยามโกลบอลเฮ้าส์ในปีนี้ ในหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่ และขอนแก่น เนื่องจากมีคนจากต่างถิ่นอพยพเข้าไปอยู่เป็นการซื้อบ้านหลังที่ 2 คนกรุงเทพฯไปซื้อบ้านในต่างจังหวัด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|