เบรเกต์ปรับชอปทั่วโลกดูดลูกค้าโอดพิษการเมืองไทยฉุดยอดวูบ


ASTV ผู้จัดการรายวัน(2 ธันวาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เบรเกต์ ก้าวสู่สเต็ป2 จากนีชแบรนด์สู่เวิล์ดไวด์ หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม พุ่งเปิดชอปอินชอปสร้างการรับรู้ เผยเมหาศรษฐีไทยติดท็อปไฟว์ แฟนพันธุ์แท้ชอปสูงสุดในสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนในไทยปีนี้ยอดขายเข็นไต่ถึงเป้าลำบาก เหตุการเมืองส่งผลไม่มีมู้ดใช้เงิน

นายรูดอล์ฟ เอ็ม ชูทส์เธสส์ รองประธานฝ่ายขาย บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิการะดับเพรสทีจพรีเมี่ยม แบรนด์ เบรเกต์ (BREGUET) จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางสวอท์ช กรุ๊ป ได้เข้ามาดูแลนาฬิกาเบรเกต์ ตั้งแต่ปี 1999 หรือเมื่อ 10 ปีก่อนนั้น ได้มีแผนที่จะปรับโพซิชั่นนิ่งจากเดิม เป็น นีชแบรนด์ระดับสูง สู่ความเป็นเวิล์ดไวด์มากยิ่งขึ้น กล่าวคือ จากเดิมที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่หลงใหลในความเป็นเบรเกต์ และนิยมซื้ออย่างต่อเนื่อง ต้องการขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ที่ยังไม่รู้จักหรือไม่เคยสัมผัสกับนาฬิกาเบรเกต์ โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย เป็นตลาดที่สำคัญ หลังจากที่จีนเปิดประเทศ ซึ่งตลาดเอเชียและยุโรปมีความสำคัญใกล้เคียงกันในปัจจุบัน

ในส่วนของประเทศไทยเบรเกต์เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปี 1988 หรือราว 22 ปีมาแล้ว ล่าสุดถือเป็นสเต็ปที่2 ในการทำตลาด โดยจะมีการปรับปรุงปรับโมเดลชอปใหม่ ในรูปแบบนิวคอนเซ็ปต์ชอปอินชอป มินิ บูติค ตั้งอยู่ภายในชอป Cortina Watch Espace ชั้น1 ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก ซึ่งนิวคอนเซ็ปต์นี้จะถูกนำไปใช้ทั่วโลก คาดว่าภายใน 2-3 ปีหลังจากนี้ จะมีชอปอินชอปรูปแบบใหม่ราว 200 สาขา จากทั้งสิ้น 400 สาขาทั่วโลก ขณะที่ชอปในรูปแบบบูติคนั้น มีทั้งสิ้น 24 สาขาทั่วโลก

นายรูดอล์ฟ กล่าวต่อว่า ประเทศไทย ถือเป็นตลาดหลักอีกประเทศหนึ่งที่ทางบริษัทให้ความสำคัญ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า เบรเกต์ เป็นที่รู้จักอย่างดีมากของกลุ่มลูกค้าเศรษฐีระดับสูงที่เป็นคนไทย โดยพบว่าในประเทศสวิสเซอร์แลนด์เองนั้น ยอดขายของเบรเกต์ กลุ่มลูกค้าคนไทย ติด ท็อปไฟว์ ที่มีการสั่งซื้อนาฬิกาจากที่นั่น ซึ่งแต่ละเรือนยังมีราคาและความเป็นพรีเมียมค่อนข้างสูง

ขณะที่ในประเทศไทยนั้น ปี2553 ที่ผ่านมาพบว่า ยอดจำหน่ายในประเทศดีมาก เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แม้ว่าในปีนี้จะมีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์การซื้อของลูกค้า เพราะไม่มีใครต้องการซื้อสินค้าราคาแพงในจังหวะที่ประเทศไทยอยู่ในช่วงตึงเครียด ดังนั้นยอดขายในขณะนี้จึงยังไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ถึงแม้ว่าจะเหลือเวลาอีก 2 เดือนจะจบปี และแนวโน้มคาดว่าอาจจะทำยอดขายต่ำกว่าเป้าอยู่เล็กน้อย แม้ยอดขายจะกระเตื้องขึ้นก็ตาม


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.