วินโดวส์ไลฟ์ปรับโฉม กำจัดจุดอ่อน “อีเมล”


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(29 พฤศจิกายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เหมือนจะรู้ว่าการมาของเฟซบุ๊กในสมรภูมิการให้บริการอีเมลจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ผู้ใช้อีเมลทั้งโลก ไมโครซอฟท์จึงได้ขยับปรับโฉม “วินโดวส์ไลฟ์” ทั้งฮอตเมลและเมสเซนเจอร์ ด้วยการกำจัดจุดอ่อนที่เกิดขึ้นของผู้บริโภคอีเมลที่กำลังรู้สึกเป็นภาระอย่างมากจากปริมาณที่มากเกินไปของการรับอีเมลและเครือข่ายสังคมออนไลน์

ไมโครซอฟท์ได้มีการสำรวจพฤติกรรมการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ของคนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่าเกินกว่า 50% รู้สึกเป็นภาระจากการได้รับอีเมลและข้อมูลเครือข่ายสังคมออนไลน์มากเกินไป ไมโครซอฟท์จึงพยายามผสานระบบการทำงานของอีเมลหลายบัญชีเข้าด้วยกัน รวมทั้งคิดค้นวิธีการจัดการอีเมลรูปแบบใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถรวมกลุ่มอีเมล เช่นที่มีรายชื่อผู้ส่งเดียวกัน หรือแบ่งแยกสแปมเมลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคจัดการกล่องอีเมลได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

“เทคโนโลยีควรจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ใช่สร้างภาระให้เพิ่มมากขึ้น” ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

จากการสำรวจของไมโครซอฟท์พบว่า ผู้ใช้งานฮอตเมลกว่า 60% เป็นกลุ่มผู้ใช้ที่มีอีเมลที่ไม่ได้เปิดอ่านจำนวนมาก และแต่ละบุคคลมีบัญชีอีเมลมากกว่า 3 บัญชี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุอีกว่า กว่า 93% จะได้รับอีเมลไม่พึงประสงค์ (Spam) ทุกวัน และมากกว่า 1 ใน 5 ได้รับเกิน 10 ฉบับต่อวัน

“เรารู้ว่าผู้คนทั่วไปไม่ได้จัดระเบียบอีเมลส่วนตัว เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม และเรารู้ว่าการจัดการกับเมลบ็อกซ์ที่เต็มจนแทบล้นนั้นเป็นเรื่องน่าเบื่อแค่ไหน ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้พัฒนาคุณสมบัติใหม่ในฮอตเมลเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบอีเมลที่ไม่ต้องการทิ้งไปได้ง่ายขึ้น เพื่อพวกเขาจะได้เอาเวลาไปสนใจอีเมลที่เกี่ยวข้องหรือมีความสำคัญจริงๆ”

บริการวินโดวส์ไลฟ์ใหม่ที่เกิดขึ้นจะช่วยให้ผู้ใช้จัดการบล็อก ลบอีเมลไม่พึงประสงค์ได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันยังสามารถผสานเครือข่ายสังคมเข้ามารวมไว้ใช้งานในหน้าต่างเดียว ไม่ต้องคอยเปิดเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์หลายหน้าพร้อมกัน

ไมโครซอฟท์มองว่าการจัดการเครือข่ายสังคมออนไลน์จากผู้ให้บริการหลายรายหมายถึงการใช้พลังงานทางสังคมออนไลน์ที่ไม่จำเป็น นับจากนี้ไป การรวบข้อมูลให้อยู่ในแหล่งเดียวน่าจะเป็นทิศทางที่ควรจะเป็น ซึ่งคุณสมบัติหลักที่ Windows Live Messenger นำเสนอคือการรวมเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง facebook, LinkedIn และ My Space ให้เชื่อมโยงกันได้

ผู้ใช้งานอีเมลและเมสเซนเจอร์ในประเทศไทยยังมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจพบว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้เวลาการใช้งานเมสเซนเจอร์มากกว่า 800 นาทีใน 1 เดือน ขณะเดียวกัน เวลาที่ผู้บริโภคใช้กับเครือข่ายสังคมออนไลน์ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการเติบโตด้านโฆษณาออนไลน์มากขึ้น

นอกจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ออนไลน์มากยิ่งขึ้นแล้ว กระแสการเติบโตของสมาร์ทโฟนในประเทศไทยยังช่วยให้มีการใช้งานอีเมลและเมสเซนเจอร์เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งทางไมโครซอฟท์มองว่าการที่มีผู้ใช้บริการวินโดวส์ไลฟ์บนแพลตฟอร์มอื่นไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงความนิยมการใช้งานวินโดวส์ไลฟ์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.