‘เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์’ จับแนวรถไฟฟ้า-สร้างความต่าง


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(29 พฤศจิกายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ คือ ธุรกิจใหม่ที่นักลงทุนหันมาให้ความสำคัญ เห็นได้จากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการรุกเข้าสร้างเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์มากขึ้น โดยเฉพาะเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ตามแนวรถไฟฟ้า เนื่องจากเป็นทำเลที่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ การให้บริการที่หรูหราถือเป็นการสร้างความแตกต่างที่สำคัญอีกประการหนึ่ง

‘โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์’
ใช้ความชำนาญรุกตลาด

แพทริค เชาว์บ ผู้จัดการทั่วไป โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ กล่าวว่า โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการเรสซิเดนซ์เซอร์วิสแห่งใหม่ซึ่งมีบริษัททีซีเอ ในเครืออิตัลไทยเป็นเจ้าของ และดำเนินงานบริหารโดยออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ภายใต้แบรนด์หรู “ซัฟฟรอน”

โครงการ โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการที่พักระดับหรู ทั้งในด้านบริการ การออกแบบ นวัตกรรมและเทคโนโลยี และเป็นโครงการแห่งแรกที่เป็นแฟลกชิปของแบรนด์ซัฟฟรอนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะเป็นมาตรฐานของการขยายและพัฒนาโครงการอื่นๆ ต่อไป

โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ ประกอบด้วย เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 145 ห้อง (ชั้น 6-20) เป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 145 ยูนิต และคอนโด 46 ห้อง (ตั้งแต่ชั้น 21-31) ราคาเริ่มต้นประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม. ส่วนชั้น 32 เป็นดาดฟ้า พร้อมสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัวสำหรับเจ้าของคอนโดมิเนียม

โดยการให้บริการจะเป็นแบบมาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว นอกจากนี้ ด้านล่างยังประกอบด้วยร้านอาหารที่แบ่งเป็น 2 ชั้น เมื่อให้บริการทั้งคอนโดและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ทำให้ต้องแยกส่วนต่างๆ ออกจากกัน ทั้งลิฟต์ ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ

“ในแง่โลเกชั่นแล้วถือว่าเป็นคอนโดที่อยู่ในโลเกชั่นที่ดี คือ ติดถนนวิทยุ นับเป็นโลเกชั่นที่สุดยอด คาดว่าโครงการทั้งหมดจะเสร็จและเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2554”

นอกจากโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ จะอยู่ในทำเลถนนวิทยุแล้ว ยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าด้วย ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย สำหรับผลตอบรับในส่วนของคอนโดมิเนียมมีผู้สนใจติดต่อเข้ามาแล้ว แต่ในส่วนเรสซิเดนซ์ยังไม่สามารถเปิดให้จองได้ต้องรอให้เสร็จก่อน แต่คาดว่า 60-70% เป็นกลุ่มองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการพักอาศัยชั่วคราวหรือระยะยาว ส่วน 30-40% เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักประมาณ 7-8 วัน โดยเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สนใจคุณภาพของสถานที่และการให้บริการเหนือระดับในราคาเหมาะสม

ด้านจุดแข็งที่ทำให้โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ แตกต่างจากที่อื่นๆ คือ โลเกชั่นหรือสถานที่ตั้งที่โดดเด่น ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก และอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจ คืออยู่บนถนนวิทยุ ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่กลางเมืองของชาวกรุง และนักท่องเที่ยว รวมทั้งมาตรฐานการบริการระดับ 5 ดาว ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมงาน ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ลูกค้าของโครงการโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ จะได้รับการบริการที่เทียบเท่าโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ซึ่งเพียบพร้อมด้วยบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยครบครัน รวมทั้ง Shopping butler หรือบริการช่วยซื้อสินค้าและชอปปิ้ง

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ทั้งห้องจัดประชุมแบบบูติกสไตล์ใจกลางเมือง หรือสปาในห้องพัก รวมทั้งร้านอาหารในรูปแบบของ Destination restaurant ซึ่งสามารถจัดห้องรับรองพิเศษเพื่อความเป็นส่วนตัว การออกแบบและคุณภาพ โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการที่ได้รับการคัดสรรและเลือกใช้วัสดุโครงการที่มีคุณภาพชั้นเลิศ ผู้พักอาศัยจะรู้สึกและสัมผัสประสบการณ์อันหรูหราทันสมัยของการพักอาศัยในศตวรรษที่ 21 ในทุกๆ ส่วนของโครงการ

ที่สำคัญ โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ เป็นผู้นำในการคิดค้นนวัตกรรม และเป็นผู้นำกระแสรูปแบบใหม่ และการให้บริการ Product and Service โดยคัดสรรนวัตกรรมที่ยั่งยืน เน้นความเป็นธรรมชาติในการอยู่อาศัย และความมีมาตรฐานระดับสูงของระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ความชัดเจนและการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริการแต่ละด้านที่ประกอบกันเป็นสภาพแวดล้อมระดับ Hi-end ในการอยู่อาศัยใจกลางเมือง

แพทริค กล่าวทิ้งท้ายถึงการเข้ามาทำตลาดในไทยว่า สำหรับการทำตลาดในไทยซึ่งมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ ประชากรศาสตร์ และลักษณะทางกายภาพคล้ายๆ กัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ทำให้ต้นทุนที่ใช้ในการลงทุนก่อสร้างให้ประเทศไทยต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยม เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ นอกจากนี้ ไทยยังมีอุปสงค์และอุปทานสูง ถือเป็นโอกาสทางการตลาดที่ดีในการลงทุน

อย่างไรก็ดี ตลาดไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีความอ่อนไหวและมีการแข่งขันสูง การสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งในด้านสินค้าซึ่งโครงการ โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ ถือว่าเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่ดีมาก การตกแต่ง ความสะดวกในการเดินทาง ขนาดของห้องพักที่กว้างขวางหรูหรา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคาร และที่สำคัญคือการบริการ ทำให้เชื่อว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จไปได้

เกาะเส้นทางรถไฟฟ้า
สร้างความสะดวกสบาย

มาดูกันที่เจ้าพ่อรถไฟฟ้า อย่าง บีทีเอส แอทเซ็ทส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือบีทีเอส โฮลดิ้งส์ ได้เปิดแนวรุกการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ภายใต้คอนเซ็ปต์ City Solutions ซึ่งในปี 2554 นี้ บริษัทจะเปิดตัวศูนย์รวมธุรกิจครบวงจรแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในชื่อ “เจเจ พาร์ค” ซึ่งอยู่ใกล้กับธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ โดยประกอบด้วย คอนโดมิเนียม ราคา 100,000 บาทต่อ ตรม. จำนวน 800 ยูนิต โรงแรมขนาด 100 ห้อง เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงานและชอปปิ้งมอลล์

นอกจากนี้ “เซเรนิต้า เรสซิเดนซ์” ก็ขอแจมตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ด้วยคน โดยประเดิมโครงการในซอยสายน้ำทิพย์ 2 ย่านสุขุมวิท 22 ด้วยการชูจุดขายบรรยากาศส่วนตัวที่มีห้องพักแค่ 13 ยูนิต เน้นจับกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ทำงานบริเวณนั้น ถือเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่มีความเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะมีห้องพักไม่มาก

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่กำลังรุกทำตลาดในช่วงปีนี้ แต่เชื่อว่าสถานการณ์เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ปีหน้าคงไม่หยุดเพียงเท่านี้ และมีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.