|

กลยุทธ์เข้าถึงแบบ “The Style by TOYOTA”
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(14 พฤศจิกายน 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ยุคนี้สมัยนี้ใครๆ ต่างคิดหากลยุทธ์ กลวิธี ในการเข้าหาผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นคือ พยายามสร้างและมองหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อโอกาสทางธุรกิจในอนาคต โมเดลการสร้างจุดศูนย์กลางที่รวบรวมเอาผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ในการบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมา วิสัยทัศน์ ไปจนถึงอนาคตข้างหน้าที่จะก้าวไป เป็นสิ่งที่ถูกนำมาตอบโจทย์การตลาดข้างต้น
“The Style by TOYOTA” อาคารที่ออกแบบในสไตล์อินเทรนด์ สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งชอปปิ้ง และศูนย์รวมของวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ลงทุนก่อสร้างด้วยงบประมาณหลายล้านบาท เมื่อ 4 ปีก่อน เป็นแหล่งเพิ่มสีสันการเรียนรู้ผสานความบันเทิงในรูปแบบที่เรียกว่า “Edutainment” เป็นการนำเสนอสาระทางด้านเทคโนโลยี พร้อมสอดแทรกด้วยข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในด้านบันเทิง แฟชั่น ดนตรี กีฬาและศิลปะแขนงต่างๆ และยังเป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้แสดงความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ
ผ่านไป 4 ปี ไม่น่าเชื่อว่า อาคารที่ใช้เป็นแหล่งการให้ข้อมูลวัยรุ่นคนรุ่นใหม่แห่งนี้จะมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมรวมกว่า 1,000,000 คน กับยอดสมาชิกรวมกว่า 60,000 คน
อันที่จริงตัวเลขนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับยอดขายรถยนต์โตโยต้าเลยแม้แต่น้อย และทำไมโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จึงยังมีแนวคิดในการคงไว้ของ “The Style by TOYOTA” แห่งนี้ คงต้องบอกว่า อาคารการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีด้านยานยนต์ อาจรวมถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ต้นกำเนิดของแบรนด์โตโยต้า มีความสำคัญในเรื่องการต่อยอดการรับรู้ต่อแบรนด์ได้แนบเนียน คนที่เข้ามาใช้บริการบางคนอาจเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่น ซึ่งยังขับรถไม่ได้ด้วยซ้ำไป
แต่การที่พวกเขาเหล่านั้นได้เข้ามาสัมผัสกับเรื่องราวประวัติความเป็นมา เทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ แนวคิดในการพัฒนาต่างๆ โดยเฉพาะก้าวใหม่ของเทคโนโลยียานยนต์ ที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดการใช้เชื้อเพลิงที่สร้างมลพิษ และการก้าวสู่ระบบการขนส่งแบบใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงน้อยนิด และเหนืออื่นใดคือ การได้ใกล้ชิดกับผลิตภัณฑ์ และแบรนด์โตโยต้านั่นเอง
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากหลังจากนั้น 4 ปี โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ทุ่มงบประมาณอีกครั้งกับการปรับปรุง “The Style by TOYOTA” ให้ดูสดใส อินเทรนด์อีกครั้ง พร้อมกับเปิดให้บริการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะว่าไปแล้วการปรับโฉมครั้งนี้ก็คล้ายๆ กับแนวคิดในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ เพราะผลิตภัณฑ์รถยนต์ของโตโยต้าแต่ละรุ่นส่วนใหญ่จะมีอายุอยู่ในตลาดราวๆ 4-5 ปี หลังจากนั้นจะเป็นการปรับโฉมใหม่ในแบบโมเดลเชนจ์
“The Style by TOYOTA” ก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกับรถยนต์โตโยต้ารุ่นหนึ่ง ที่เมื่อถึงเวลา ก็ต้องพัฒนาโมเดลขึ้นมาใหม่ ไม่เฉพาะรูปร่างหน้าตาภายนอก แต่ภายในก็ต้องหมดจด ทั้งการออกแบบ และเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยเช่นกัน
วิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย บอกว่า พื้นที่ใช้สอยทั้ง 3 ชั้นของ “The Style by TOYOTA” แห่งนี้ อยู่ภายใต้ Concept ใหม่ที่เรียกว่า “Discovery Beyond” ทางโตโยต้าคาดหวังให้อาคาร The Style by TOYOTA โฉมใหม่ เป็นศูนย์กลางแห่งข้อมูลการเรียนรู้เกี่ยวกับรถยนต์และเทคโนโลยีของโตโยต้า สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์และแสวงหาข้อมูลเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทางโตโยต้าได้สร้างสรรค์ขึ้น นอกจากนี้ยังจะได้รู้จักเรื่องราวต่างๆ ของโตโยต้ามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประวัติความเป็นมา เทคโนโลยีในด้านต่างๆ หรือข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงรถยนต์แห่งอนาคตที่ทางโตโยต้าจะได้นำมาจัดแสดง
“การปรับปรุงอาคาร The Style by TOYOTA ในครั้งนี้ ได้มีการปรับปรุงทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยภายนอกได้มีการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ ให้อาคารมีความโดดเด่นขึ้น มีการออกแบบโดยเพิ่มลวดลายเส้นสายที่มีลักษณะคล้ายเซลล์ของใบไม้ เพื่อสื่อถึงโลกทัศน์แห่งโตโยต้า (Toyota Global Vision 2020) ที่มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อน วัฏจักรธรรมชาติ และวัฏจักรอุตสาหกรรมให้อยู่ด้วยกันได้อย่างกลมกลืน ซึ่งนโยบายนี้ โตโยต้าทั่วโลกนั้น ได้ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินงาน
ในส่วนของภายในนั้นได้มีการปรับปรุงเพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆ โดยในแต่ละส่วนนั้นมีการจัดแสดงข้อมูล เทคโนโลยีต่างๆ ของโตโยต้า รวมไปถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมพิเศษอื่นๆ ของโตโยต้าอีกด้วย”
สำหรับ “The Style by TOYOTA” แล้ว มันต้องเปิดรับผู้คนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย แต่ด้วยเหตุผลด้านกายภาพของสถานที่ของสยามแสควร์ ซึ่งเต็มไปด้วยวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ จึงเป็นการบ่งบอกถึงทิศทางการมุ่งหากลุ่มเป้าหมายในอนาคตของโตโยต้าด้วยเช่นกัน ว่าโตโยต้าพยายามหาโอกาสกับกลุ่มลูกค้าใหม่ ตั้งแต่วัยที่ยังไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของตนเอง เพียงต้องการให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ติดตามตัวผู้บริโภคกลุ่มนี้ จนเข้าสู่วัยที่เริ่มมองหารถยนต์ไว้ใช้สักคัน เพราะอย่างน้อยความรู้ด้านเทคโนโลยีที่สื่อผ่านความบันเทิงหลายรูปแบบใน “The Style by TOYOTA” เป็นการซึมซับในเรื่องของแบรนด์ และตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่จดจำ และยอมรับในที่สุด
แน่นอนว่า คงไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า ในที่สุดแล้ว “The Style by TOYOTA” แห่งนี้จะทำให้เกิดยอดขายกับโตโยต้าในอนาคตมากน้อยเพียงไร และคุ้มค่ากับเงินที่ได้ลงทุนไปหรือไม่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่โตโยต้าได้รับคือ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ในเรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะปัจจุบันโตโยต้าเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่นำรถเครื่องยนต์ไฮบริดมาผลิต เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ และอีกไม่ช้าไม่นาน การถ่ายผ่านเทคโนโลยีจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปยังรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า อาจต้องเกิดขึ้นเต็มรูปแบบ
การที่ให้ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่และวัยรุ่นได้ศึกษาเทคโนโลยีเหล่านี้ก่อนล่วงหน้า ก็เป็นการสร้างการจดจำในตัวเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ได้ไม่น้อยเช่นกัน ยังไม่รวมถึงเรื่องการสร้างกิจกรรมกับชุมชนโตโยต้า ในอาคารแห่งนี้ ในหลายๆ รูปแบบ ตั้งแต่การอบรม กิจกรรมเสริมทักษะต่างๆ การจัด Event ต่างๆ กับนักเรียน นักศึกษา และกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมต่างๆ
คงต้องบอกว่า “The Style by TOYOTA” โฉมใหม่ในอีก 4 ปีข้างหน้า คงสามารถเพิ่มการรับรู้ต่างๆ กับกลุ่มวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ ในทุกๆ ด้าน ทั้งภาพลักษณ์แบรนด์ และตัวผลิตภัณฑ์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต จนค่ายรถอื่นๆ อาจต้องหันมาลงทุนสิ่งเหล่านี้บ้างก็เป็นได้
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|