60 ปีแห่งการรวมตัวของผู้รับเหมายังไปไม่ถึงไหนเลย!?!


นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2531)



กลับสู่หน้าหลัก

วิกฤติการณ์เหล็กเส้นที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้วสืบเนื่องมากระทั่งประทุขึ้นอย่างครึกโครมเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ หัวขบวนของบรรดาผู้รับเหมาทั้งมวลก็คือ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

ในฐานะตัวแทนที่เป็นทางการ สมาคมนี้ก้าวเข้ามามีบทบาทเรียกร้องเป็นปากเสียงให้กับผู้รับเหมา เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเหล็กเส้นขาดแคลนและมีราคาแพง จนทำให้รัฐบาลต้องทลายกำแพงภาษี เปิดให้เหล็กเส้นถูกนำเข้าอย่างเสรี

ผลงานครั้งนี้ทำให้เกียรติภูมิของสมาคมกระเดื่องเลื่องลือจนผู้คนสนใจใคร่รู้จักกันมาก

สมาคมนี้ก่อตั้งมานานนับ 60 ปีแล้ว แรกเริ่มมิได้ใช้ชื่อดังปัจจุบัน หากแต่เป็นชื่อตามสำนวนโบราณที่เรียกว่า "สมาคมนายช่างแห่งกรุงสยาม" จดทะเบียนเป็นสมาคมตามพระราชบัญญัติเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2471

ดูจากปีก่อตั้งจัดได้ว่าอยู่ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับสมาคมจึงเจ้านายเชื้อพระวงศ์ กระทั่งพระเจ้าแผ่นดิน

นายกสมาคมในขณะนั้นก็คือ นายพลเอกพระเจ้าพี่ยาเธอกรมหลวงกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และได้หม่อมเจ้าเสริฐศิริกับพระยาสารศาสตร์ศิริลักษณ์เป็นอุปนายก

ปีต่อมาคณะกรรมการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่วังสุโขทัย เพื่อกราบบังคมทูลอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระบรมราชูปถัมภกของสมาคม

จนเมื่อ 2475 เป็นต้นมา บ้านเมืองเปลี่ยนการปกครองตัวสมาคมเองก็เปลี่ยนไปด้วย ทั้งชื่อเรียกและคณะกรรมการ

ชื่อเรียกใหม่กลายเป็นสมาคมนายช่างแห่งประเทศไทย" โดยที่คำต่อท้าย "ในพระบรมราชูปถัมภ์" ก็หายไปด้วย

ส่วนคณะกรรมการ มีหลวงยุกตเสวีวิวัฒน์เป็นนายกสมาคมเมื่อปี 2489 ต่อมาก็เป็นสามัญชนไม่มีบรรดาศักดิ์อย่างนายสง่า วรรณดิษฐ์ (2490) และนายบุญทอง ผ่องสวัสดิ์ (2491-2499) เข้ามาบริหารงาน

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้กิจกรรมของสมาคมหยุดชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง พอสงครามสงบ สง่า วรรณดิษฐ์ก็กลับมาบริหารงานต่อ จนสมาคมได้จดทะเบียนกับกรมการค้าภายในใหม่ในนาม "สมาคมนายช่างเหมาไทย" เมื่อปี 2510 และย้ายมาตั้งที่ทำการเป็นการถาวรแถวถนนวิทยุจนปัจจุบัน

ชีวิตของสมาคมยังคงเติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ น.พ.ชัยยุทธ กรรณสูต ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอิตัลไทยก็เคยเป็นนายกสมาคมช่วงปี 2518-2521

ในปี 2526 สมาคมเปลี่ยนชื่ออีกครั้งหนึ่งให้ดูทันสมัยขึ้นเป็น "สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย" และเป็นชื่อที่ยังใช้อยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีสมบัติ เพชรตระกูลเป็นนายกสมาคม

ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกประมาณ 600-700 ราย นับว่าน้อยมาก ไม่ถึง 5% ของผู้รับเหมาทั่วประเทศ ว่ากันว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า วงการผู้รับเหมายังไม่ตื่นตัวในการร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มอาชีพของตน

และที่สำคัญในวงการยังมีบุคคลที่ยังยึดถือแต่การทำธุรกิจแบบตัวใครตัวมัน ใช้สไตล์การรับเหมาแบบเก่า ที่เน้นการเติบโตของบริษัทควบคู่ไปกับการสร้างสายสัมพันธ์ทังนอกและในวงจรธุรกิจ

ภูมิสัน โรจน์เลิศจรรยา ประชาสัมพันธ์ของสมาคมในปัจจุบันกล่าววิเคราะห์ถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของการรวมตัวผู้รับเหมาว่า

"ผู้รับเหมาในปัจจุบันในแง่หนึ่งมันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ ในด้านการจับงาน ปัจจุบันต้องใช้หลักวิชาช่างและวิชาบริหารเข้ามาจับอย่างจริงจัง มันน่าจะหมดสมัยที่จะมาทำตัวเป็นนายหน้าเอางานมาได้แล้วชักเปอร์เซ็นต์ไปขายให้คนอื่นทำต่อ นอกจากนี้ผู้รับเหมารุ่นใหม่ก็เกิดขึ้นมากมาย ส่วนหนึ่งเติบโตจากการศึกษาด้านวิศวกรรม หรือสาขาอื่นๆ จากรั้วมหาวิทยาลัย อีกส่วนหนึ่งเป็นลูกหลานของผู้รับเหมาเดิม คนหนุ่มเหลานี้จะเป็นอนาคตของวงการ"

ยิ่งในทุกวันนี้สถานการณ์ที่นำพาวงการผู้รับเหมาไปสู่ "ที่สุดของการเจ๊ง" มีมากมาย อาทิวัสดุก่อสร้างแพงอย่างผิดปกติ การที่ผู้รับเหมาแข่งขันกันตัดราคา ไม่สามารถเข้าใจสภาพตลาดการซื้อขายวัสดุก่อสร้าง การปัดแข้งปัดขา และไม่รักษาสัจจะในการทำงาน เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ได้เรียกร้องผู้รับเหมาต้องรวมตัวกันปรับปรุงในหลายๆ ดาน

อันหนึ่งก็คือ การเสนอข้อเท็จจริงทางวิชาการต่อสังคม เช่น ข้อมูลด้านราคาวัสดุก่อสร้าง อัตราการเจริญเติบโตของมูลค่าการก่อสร้าง เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจสถานะของธุรกิจก่อสร้าง

นอกจากนี้น่าจะเสนอรูปแบบใหม่ของประเพณีสัญญาการว่าจ้างที่ทั้งรัฐบาลและเอกชนพึงปฏิบัติ เรื่องนี้ควรดูของเก่า สมัยก่อนนี้การรับเหมา ถ้าทำช้ามีการปรับ แต่ถ้าทำเสร็จเร็วจะมีรางวัล โดยคิดตามจำนวนวันก่อนครบตามสัญญา ในปัจจุบันนี้มีสัญญาในลักษณะที่จะปรับเมื่องานไม่เสร็จ แต่การให้รางวัลไม่มี

ยิ่งกว่านั้น วิชาชีพรับเหมาก่อสร้างก็ควรได้รับการพัฒนายกระดับให้ทันสมัย ตัวสมาคมเองก็ต้องสร้างวัฒนธรรมการรวมตัวกลุ่มอาชีพที่เป็นประชาธิปไตย ทั้งจิตใจและการปฏิบัติต่อกันในการทำงานร่วมกัน

ความคิดดีๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ภูมิสันปรารถนาให้เกิดขึ้นเป็นจริงเป็นจังกับวงการ เขาอยากเห็นสมาคมมีบุคลากรมากขึ้น ทั้งด้านวิเทศสัมพันธ์ วิชาชีพช่าง ด้านกฎหมาย และด้านเศรษฐศาสตร์การเงินการธนาคารเพื่อปรับปรุงให้สมาคมสามารถรับใช้สมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ทั้งนี้ผู้รับเหมาก็ต้องตื่นตัวที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ด้วย

"อันที่จริงองค์กรแบบนี้มีอยู่ในทุกประเทศที่เป็นประชาธิปไตยแบบทุนนิยม เพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของกลุ่มตน ของไทยเรายังขาดความเข้าใจอีกมาก ทุกวันนี้วงการก่อสร้างจึงปั่นป่วนเมื่อเกิดเรื่อง เช่น เหล็กเส้นวิกฤต เราก็รวมตัวรับมือไม่ได้เต็มที่" ภูมิสันกล่าวกับ "ผู้จัดการ" ในท้ายสุด

ดังนั้น 60 ปีของสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้าง และการรวมตัวของผู้รับเหมาจริงๆ แล้วก็ยังไปไม่ถึงไหน และรอวันที่จะมีคนหนุ่มไฟแรงมาพัฒนากันต่อไป



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.