“แผนดี พรีเซนต์เด่น เห็นทางรวย” เถ้าแก่ติดดาวปี 2


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( พฤศจิกายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

โครงการเถ้าแก่ติดดาวปี 2 เพิ่มเติมความเข้มข้นในการเฟ้นหาผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เหมาะสมกับการเป็นเถ้าแก่ที่ได้รับการติดดาว มีความเก่งกาจรอบด้านในการประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นในด้านการสร้างตราสินค้า การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้และเกื้อกูลชุมชน ความเป็นยอดนักสู้กล้าพลิกแพลงกลยุทธ์การบริหาร ความโดดเด่นด้านนวัตกรรมหรือการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารกิจการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สุภาวดี เวศยพิรุฬย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องเถ้าแก่ กล่าวว่าโครงการเถ้าแก่ติดดาวในปีแรกได้รับการตอบรับเเป็นอย่างดีทั้งในส่วนของเครือข่ายร่วมโครงการในลักษณะ 4 ประสานก็คือ สถาบันภาครัฐคือ สสว. สถาบันการเงิน คือ KBANK สถาบันการศึกษาคือ CMMU และภาคเอกชน 2 หน่วยงานร่วมของเราก็คือ หอการค้าและสภาอุตสาหกรรม ซึ่งทุกหน่วยงานนี้ยังคงให้การสนับสนุนต่อ และในปีนี้มี AIS เป็นพันธมิตรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้กิจกรรมคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

“สำหรับรางวัลในปีนี้มีการปรับให้กระชับมากขึ้นเนื่องจากในปีที่ผ่านมาที่ได้มีการมอบรางวัลไปนั้น มีบางรางวัลที่บางหน่วยงานอื่นๆ ในระดับประเทศได้ทำไว้ก่อนหน้า เราก็ถือว่าได้มีโอกาสทำเสริมไปเมื่อปีที่แล้ว สำหรับปีนี้เงื่อนไขของรางวัลยังคง คล้ายคลึงกัน แต่ชื่อเรียกของรางวัล เราจะมอบรางวัลเถ้าแก่ติดดาวเพียงกิจการเดียวเท่านั้นที่มีความเป็นที่สุดแห่งปี”

นอกจากนั้นก็จะมีประเภทรางวัลชมเชยตามประเภทเนื้อหารายการของทางสถานีฯ ที่เราเห็นว่า น่าจะเป็นการพัฒนาศักยภาพ ผู้ประกอบการใน 4 สาขา ประกอบด้วย รางวัลบริหารธุรกิจแนวพุทธ ซึ่งเป็นการผนวกรางวัลในปีที่แล้วคือ CSR และเศรษฐกิจพอเพียง รางวัลต่อไปคือรางวัลด้านนวัตกรรม ซึ่งปีนี้เราใช้ชื่อว่า รางวัล I-innovation ซึ่งเป็นรายการของทางสถานีฯ ที่ส่งเสริมด้าน ICT และ INNOVATION รางวัลประเภทที่ 3 คือรางวัลพลิกตำราสู้ ซึ่งก็คือรางวัลเถ้าแก่ยอดนักสู้จากปีที่แล้ว รางวัลสุดท้ายเป็นรางวัลเถ้าแก่พารวย ซึ่งก็คือรางวัลการสร้างแบรนด์เมื่อปีที่ผ่านมา

พีรเวท กิจบูรณะ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานการตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กรส่วนภูมิภาค บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าโครงการเถ้าแก่ติดดาวเป็นโครงการที่จะยกระดับผู้ประกอบการ ให้เข้ามาตรฐานในระดับอาเซียน และตอบรับกับการเปิดเสรีอาเซียนด้วย

กิจกรรมแรกที่ทางโครงการจะจัดขึ้นเพื่อเป็นการเปิดตัวโครงการเถ้าแก่ติดดาวครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ได้แก่ งานสัมมนาในหัวข้อ “แผนดี พรีเซนต์เด่น เห็นทางรวย” ซึ่งพันธมิตรทุกหน่วยงานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเขียนแผนธุรกิจที่มีต่อผู้ประกอบการ SMEs จึงได้ร่วมมือกันจัดงานสัมมนาครั้งสำคัญนี้ขึ้น โดยการเขียนแผนธุรกิจนี้ยังเป็นหนึ่งในกติกาพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการเถ้าแก่ติดดาวอีกด้วย

ปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงความสำคัญของการเขียนแผนธุรกิจว่าการจะมีธุรกิจที่ดีและเติบโตได้อย่างมั่นคงนั้น แผนธุรกิจนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ประกอบการ SME จะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกในการทำธุรกิจ เพราะแผนธุรกิจจะใช้เป็นตัวกำหนดทิศทางในการดำเนินงานขององค์กรเพื่อให้ไปสู่ยังเป้าหมายที่ตั้งไว้ หากผู้ประกอบการยังไม่มั่นใจในการเขียนแผนธุรกิจ ก็สามารถมารับคำปรึกษาจากธนาคารกสิกรไทยได้ตลอดเวลา

บุริม โอทกานนท์ ประธานหลักสูตรการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในคณะกรรมการของโครงการ ระบุว่า การเขียนแผนธุรกิจได้นั้นก็เหมือนกับการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นในการบริหารธุรกิจที่เหมาะสมกับรางวัลเถ้าแก่ติดดาวในปีนี้ในขั้นต้น ซึ่งจะคัดเลือกมาจากการเขียนแผนก่อนว่า องค์กรนั้นๆ มีความครบถ้วนตามเกณฑ์ทุกด้านหรือไม่

นอกจากจะสามารถสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการได้แล้ว การเขียนแผนธุรกิจยังเหมือนเป็นการทำการบ้านที่ผู้ประกอบการสามารถขยายความตอบตัวเองได้ว่าองค์กรมีความโดดเด่นในด้านใด ทำให้สามารถทำความได้เปรียบคนอื่นได้อย่างชัดเจน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.