"เป็นแชมป์ยาก แต่รักษาแชมป์ยิ่งยาก (กว่า)" ใครบางคนเคยพูดไว้นานมาแล้ว
และนั่นดูเหมือนจะเป็น "สัจธรรม" ที่ทุกคนยอมรับ
เช่นเดียวกับที่อีริคสัน เทเลโฟน คอร์ปอเรชั่น ฟาร์อิสท์ที่เราคุ้นเคยและเรียกกันสั้นๆ
ว่า อีริคสันฯ ผู้บุกเบิกและเป็น "ผู้นำ" บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นคนแรกในเมืองไทย
และหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
"เราเป็นผู้นำด้านสื่อสารโทรคมนาคมของโลกที่มีอายุกว่าหนึ่งร้อยปี
ถึงแม้ในเมืองไทยเราจะตั้งขึ้นมาได้เพียงยี่สิบกว่าปีก็ตาม แต่เราคิดว่าเราก็จะยังคงเป็นหนึ่งในตลาดนี้"
รอล์ฟ แบ๊คสตรอม (POLF BACKSTROM) ผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ของอีริคสันฯ ที่เพิ่งเข้ามารับงานต่อจากสุปรีดิ์
ศรีผดุง ที่เลื่อนขึ้นไปเป็นประธานกรรมการเมื่อเร็วๆ นี้บอกกับ "ผู้จัดการ"
ในงานแนะนำ "ฮอตไลน์ คอมบิ" โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่ล่าสุดที่ห้องแกรนด์บอลรูมโรงแรมแชงกรี-ลา
ก่อนเข้ามารับหน้าที่ที่เมืองไทย รอล์ฟเป็นผู้จัดการทั่วไปอยู่ที่สำนักงานใหญ่อีริคสันในสวีเดน
และสี่ปีก่อนหน้านั้น เขาเป็น MARKETING COOPDINATION ดูแล U.S.MARKET ที่โคลัมเบีย
กว่าสิบห้าปีที่สุปรีดิ์คลุกคลีกับพนักงานบริษัท ร่วมทุกข์ร่วมสุขขยับขยายสร้างผลงาน
และความสำเร็จให้แก่อีริคสันฯ ในฐานะ "คนไทย" คนแรกที่เป็นผู้บริหารระดับสูงนั้น
ได้สร้างความผูกพันกับพนักงานทุกระดับอย่างลึกซึ้ง
ซึ่งใครๆ อาจมองว่า รอล์ฟ แบ๊คสตรอมจะมีปัญหาหรือไม่ที่จะทำงานร่วมกับทีมงานคนไทย
"ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ผมเคยเข้ามาทำงานเมืองแล้วครั้งหนึ่งช่วงปี
2515-2516 และทำงานกับอีริคสันฯ ทั่วโลก มาแล้วกว่ายี่สิบปี" รอล์ฟชี้แจง
"และอีกอย่างภรรยาของผมก็เป็นคนไทยด้วย" รอล์ฟเผยความลับของเขากับ
"ผู้จัดการ" พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
เท่าที่ผ่านมา หลังจากอีริคสันฯ เข้ามาลุยตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตั้งแต่การจัดวางระบบแม่ข่ายในโครงการระยะแรกเป็นระบบ
NMT 450 (NORDIC MOBILE TELEPHONE ย่านความถี่ 450 MHz) ตั้งแต่ 8 กรกฎาคม
2529 ใช้งบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท และได้สิทธิ์ในการจำหน่ายเครื่องลูกข่ายได้เป็นบริษัทแรก
อีริคสันฯ ในฐานะที่เข้าตลาดก่อนเป็นเวลานาน อาศัยช่วงจังหวะ "ทอง"
นี้ก้าวพรวดๆ ล้ำหน้าคู่แข่งไปก่อนหลายช่วงตัว
แต่เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขสันต์นั้นมักจะสั้นนัก
หลังจากอีริคสันฯ กอบโกยขายเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ผู้เดียวเป็นเวลาไม่กี่เดือน
ทศท.ก็อนุญาตให้บริษัทอื่นเข้ามาแบ่งตลาดนี้ เข้าตลาดมาเป็น "เพื่อน"
อีริคสันฯ อีกหลายราย ทั้ง "เดนคอล" "โมบีร่า" และ "ฟิลิปส์"
ในย่านความถี่เดียวกัน
สองสามเดือนที่ผ่านมานับเป็นช่วง "มรสุม" กับอีริคสันฯ ไม่ใช่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวความเสียหาย (เล็กๆ) ที่เกิดขึ้นกับฮอตไลน์ คอมบิที่อีริคสันฯ
คุยนักคุยหนาว่ายอดเยี่ยมในต่างประเทศ อีริคสันฯ ก็แก้เกมได้อย่างสวยงาม
แทนที่จะเป็นผลเสียกลับสร้างภาพพจน์ที่ดีทำให้ลูกค้ายิ่งเชื่อมั่นกับความรับผิดชอบที่อีริคสันฯ
มีต่อลูกค้าของตน
เพราะรายงานจากต่างประเทศที่ว่าเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ ฮอตไลน์ คอมบิมี
"ปัญหา" แบตเตอรี่ภายในเกิด "ลัดวงจร" นั้น อีริคสันฯ
ถึงกับให้ผู้ใช้บริการส่งเครื่องจำนวนถึง 30,000 เครื่องกลับไปตรวจสอบและส่งคืนให้กับลูกค้าได้ภายในเวลาเพียง
30 นาที
โครงการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระยะที่สองประมาณ 21 สถานี หรือ 10,000
เลขหมายในต้นปีหน้านั้น คงทำให้ตลาดและการแข่งขันที่ระอุกรุ่นอยู่แล้วเร่าร้อนขึ้นอีกเป็นทับทวี
อีริคสันฯ เองก็วางแผนรองรับการขยายเครือข่ายครั้งใหม่นี้ออกไปโดยคาดว่าจะลงทุนเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า
100 ล้านบาท
รวมทั้งงบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ตระกูล "ฮอตไลน์"
ในปีหน้าที่วางไว้ถึง 12 ล้านบาทด้วย
"ผมคิดว่าตลาดเมืองไทยจะต้องโตขึ้นไปอีกมาก ดูอย่างเกาหลีใต้ ไต้หวันต่างก็รุกเข้ามาเมืองไทยอย่างมาก
ซึ่งเราก็เตรียมงานและวางแผนรับมือไว้แล้ว รอล์ฟทิ้งท้ายกับ "ผู้จัดการ"
แสดงความมั่นใจของเขา