|
เม็ดเงินโฆษณาโตผลดีหุ้นบันเทิง สื่อโทรทัศน์-โรงหนังรับผลบวก
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(17 ตุลาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
เม็ดเงินโฆษณาโตอานิสงส์หุ้นกลุ่มบันเทิง เชื่อผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาดี โดยเฉพาะสื่อทีวีและโรงหนัง แต่คาดความร้อนแรงน่าจะมีแนวโน้มลดลง
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กล่าวว่า เม็ดเงินโฆษณางวดไตรมาส 3/2553 มีการเติบโตที่ดีขึ้นถึง 13.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างชัดเจน แต่คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาในครึ่งปีหลังจะไม่ร้อนแรงเท่าครึ่งแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเม็ดเงินโฆษณาช่วงครึ่งปีหลังยังสามารถเติบโตเกิน 7% จากระยะเดียวกันของปีก่อนได้ โดยเม็ดเงินโฆษณาสื่อทางโทรทัศน์ และสื่อโรงภาพยนตร์ยังคงเติบโตต่อเนื่องในระดับสูงในช่วงที่เหลือของปีนี้ สะท้อนได้จากสื่อทางโทรทัศน์ที่มีผู้จองเวลาโฆษณาจนล้นแล้ว
โดยเฉพาะ บมจ.บีอีซีเวิล์ด(BEC) ส่งผลให้มีการปรับขึ้นอัตราโฆษณา 3 รายการราว 9-13% ตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/2553 และตั้งแต่ต้นไตรมาส 4/2553 จะปรับขึ้นอัตราโฆษณาละครไพรม์ไทม์ 6% พร้อมปรับลดส่วนลดค่าโฆษณาแก่รายการละครซีรีส์เกาหลี จาก 40% เหลือ 20% ขณะที่สื่อโรงภาพยนตร์อย่าง บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ที่มีผู้จองเวลาโฆษณาจนถึงสิ้นปีเช่นกัน
ธุรกิจทีวีและธุรกิจโรงภาพยนตร์ จึงถือเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง และคาดว่าจะมีกำไรเติบโตต่อเนื่องถึงปีหน้ารวมถึงจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เม็ดเงินโฆษณาทั้งปี2553 เติบโตราว 10% และเติบโตต่อเนื่องอีก 5% ในปี2554
ทั้งนี้มองว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ MAJOR โดยให้ราคาเป้าหมาย 16.50 แม้งบโฆษณาผ่านสื่อทีวีจะเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเป็นรายหุ้น พบว่าหุ้นที่โดดเด่นสุดในกลุ่มทีวีคือ BEC ราคาเป้าหมาย 37 บาท แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมารับข่าวแล้ว จึงคงคำแนะนำ "ถือ" เช่นเดียวกับ บมจ.อสมท.(MCOT) ให้ราคาเป้าหมาย 29 บาท ที่คาดว่าจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มในการจ่ายค่าใบอนุญาตรายปีให้กับกสทช.หลังจัดตั้งแล้วคาดว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555 ดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุน "น้อยกว่าตลาด"
นอกจากนี้ยังคงคำแนะนำ"ถือ" บมจ.อาร์เอส(RS) ราคาเป้าหมาย2.80 บาท เพราะหมดข่าวดีหลังประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดบอลโลกแล้ว ขณะที่สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อMAJOR โดยตรง เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณามีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดราว 80-90% บวกกับ MAJOR จะบันทึกกำไรพิเศษราว 100 ล้านบาทในปลายงวดไตรมาส 3/2553 หรือต้นงวดไตรมาส 4/2553 จากบริษัทที่ร่วมทุนกับ บมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ (SF)ที่จะนำสินทรัพย์ที่รัชโยธิน ขายเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|