เมื่อพูดถึงบริษัทดาราเหนือมักจะรู้จักกันในนามของ "POLARIS"
และไม่ค่อยมีใครที่จะนึกถึงบุคคลคนหนึ่ง ที่มีความสำคัญและบริหารกิจการนี้ให้เติบใหญ่มั่นคงได้
เธอชื่อ MAXINE WOODFIELD NORTH หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "แหม่มน๊อดท์"
ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เป็นฝรั่งชาวอเมริกันผู้เข้ามาพำนักในเมืองไทยตั้งแต่ปี
2493 และได้ริเริ่มกิจการน้ำดื่มบริสุทธิ์บรรจุขวดขายในเมืองไทยเป็นรายแรกเมื่อ
33 ปีที่แล้ว
ถ้าย้อนนึกถึงวัฒนธรรมการกินดื่มของคนไทยสมัย 30 ปีก่อนจะพบว่ากว่าที่น้ำดื่ม
"POLARIS" จะประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขณะที่กรุบงเทพในสมัยนั้นเต็มไปด้วยน้ำตามห้วยหนองคลองบึง
ที่เขาสามารถจะตักขึ้นมาดื่มกินฟรี ๆ ได้ ดังนั้นในช่วงทศวรรษแรก น้ำดื่ม
"POLARIS" จึงขายได้เฉพาะชาวต่างประเทศในไทยเช่นตามสถานทูตหรือค่ายทหารอเมริกัน
ตลอดจนคหบดีชั้นสูงของไทยเท่านั้นจึงทำให้ภาพพจน์และค่านิยมของน้ำดื่ม "POLARIS"
เป็นสินค้าระดับสูงไป
"ในตอนแรกดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำน้ำดื่มมาขายเพราะบริษัทแรกที่ทำอยู่คือบริษัทแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์นั้นมีหอสูงขังน้ำเย็นไว้สำหรับส่งสู่ขบวนการผลิตน้ำนี้ได้มาจากบ่อน้ำบาดาลที่มีคุณภาพดีมาก
และเป็นโชคดีโดยบังเอิญที่วันหนึ่งเพื่อนที่อยู่ในอุตสาหกรรมน้ำดื่มได้ทักดิฉันว่าทำไมคุณไม่ทำน้าดื่มบริสุทธิ์นี้ขาย?"
แหม่มน๊อดท์ย้อนอดีตให้ฟัง ในขณะที่ปัจจุบันเธอได้ละวางงานบริหารที่นี่โดยสิ้นเชิงและหันไปสนใจศึกษาค้นคว้าทางด้านดาราศาสตร์อย่างมีความสุขในที่พำนักส่วนตัวที่ชั้น
18 ตึกเอ็มเมอรัล
โดยประวัติส่วนตัว แหม่มน๊อดท์เป็นชาวโอเรกอน สหรัฐอเมริกา เกิดเมื่อวันที่
10 กันยายน 2463 ปัจจุบันอายุแหม่มน๊อดท์ 70 ปีแล้วแต่ยังดูอ่อนกว่าวัยมากด้วยความกระฉับกระเฮงและมีชีวิตชีวาอย่างคนมีความสุขบั้นปลายกับการศึกษาค้นคว้าดาราศาสตร์
ซึ่งบางครั้งเธอเล่าว่าบางครั้งได้ไปศึกษาเพิ่มเติบในช่วงภาคฤดูร้อนที่มหาวิทยาลัยในกรุงลอนดอนและที่สหรัฐอเมริกาด้วย
และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวเป็นเครื่องช่วยเธอเก็บข้อมูลทางด้านดารา
ศาสตร์นี้อย่างดี
"ชื่อของ POLARIS นี้มีที่มาแปลก หลังจากสามีของฉัน "บ๊อบ"
ตายไป คืนหนึ่งในอากาศร้อนอบอ้าว เรากำลังหาชื่อสำหรับน้ำดื่มใหม่นี้อยู่
ฉันเผอิญมองไปที่ท้องฟ้าก็เห็นดาวจรัสแสงดวงหนึ่งอยู่ทางเหนือบ้าน ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่ดาวเหนือได้มาอยู่เหนือบ้าน
ขณะที่ฉันเหม่อดูและขว้างห่วงยาวให้สุนัขเล่นอยู่เหมือนที่บ๊อบเคยทำนั้น
ฉันก็พลันคิดได้ว่าชื่อของดาราเหนือก็คือ POLARIS นั่นเอง มันเป็นชื่อที่มีความหมายถึงความเย็น
สดชื่นและบริสุทธิ์ ในวันต่อมาเราก็ใช้ชื่อ POLARIS สำหรับน้ำดื่มนี้"
การเริ่มต้นทำธุรกิจผลิและขายน้ำดื่ม POLARIS ในขั้นแรกแหม่มน๊อดท์ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เพื่อประกาศรับสมาชิกน้ำดื่มเวลานั้นบางกอกโพสต์มีสมาชิกอ่าน
3,800คนแต่มีคนตอบมาแต่ 3 และคนที่เจ็บก็คือ 2 ใน 3 คนปฏิเสธ
แต่เธอหาได้ท้อถอยไม่ กลับเดินหน้าติดต่อบริษัท OWENS - ILLINOIS INDUSTRY
เพื่อสั่งขวด CLICQUOT CLUB ขนาด 32 ออนซ์จำนวน 1,200 โหลเข้ามา แต่ทางโน้นบอกว่าเธอต้องเปิดแอลซี
ดังนั้นแหม่มน๊อดท์จึงไปติดต่อแบงก์ซึ่งผู้จัดการก็ปฏิเสธที่จะให้เครดิตและแนะนำให้เธอหาเงินทุนก้อนใหม่มาทำโครงการนี้เอง
"ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีในตอนนั้น มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะหาเงินมาทำโครงการที่มันเล็กอยู่
เย็นั้นฉันไปสดอ้อนวอนที่โบสถ์เซนต์ฟรังซิสซาเวียร์ที่ถนนสามเสนช่วยชี้แนวทาง
แต่ก็ไม่ปรากฏผลอะไรจนกระทั่งเย็นของวันที่ห้านั่นเอง มันเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาเขย่าตัวฉันและตะโกนว่า
"ตั้งบริษัทสิ!!" ทำไมฉันจึงไม่นึกถึงมันมาก่อน? ดังนั้นบริษัทดาราเหนือจึงเกิดขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน
5 แสนบาทในปี 2500 นี่เอง" ความมหัศจรรย์ที่ยากจะลืมเลือนกับกาลเวลา
30 กว่าปี ของแหม่มน๊อดท์จึงเป็นคำตอบทุกครั้งที่มีใครถามถึงประวัติบริษัท
แหม่มน๊อดท์ได้บริหารบริษัทดาราเหนือในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทคนแรกนานถึง
30 ปี โดยมีบ้านอยู่ในบริษัท มันเป็นเวลานานมากเหมือนมารดาที่เฝ้าฟูมฟักบุตรในอุทรให้เติบโตและแข็งแรงในวงการธุรกิจนี้ได้อย่างดี
และวันนี้การบริหารกิจการบริษัทที่มีอายุในวัยฉกรรจ์นี้ อยู่กับคนหนุ่มผู้มีความทะเยอทะยานทางธุรกิจสูงที่ชื่อ
"ฤธี อารีสรณ์" ซึ่งรับผิดชอบเป็นกรรมการผู้จัดการคนที่สองสืบสานภารกิจต่อจากแหม่มน๊อดท์
และด้วยพลังความคิดและการวางแผนของหนุ่มอย่างฤธี ทำให้กิจการนี้ได้สูตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อต้นปี
2533 นี้เอง
ฤฑีเป็นชาวฟิลิปปินส์โดยกำเนิดชื่อเดิมของเขาคือ RODOLFOU.ALVIZO หรือที่คนรู้จักเรียกเขาสั้น
ๆ ว่า "รูดี้" เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2485 ที่เกาะ CEBU ซึ่งถือเป็นคนภาคกลางของประเทศ
บิดาของเขาชื่อเบด้าและมารดาชื่อเทเรซ่า รูดี้จบการศึกษาปริญญาตรีทางด้านการบัญชีและเริ่มต้นเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีที่บริษัทเอสจีวีที่ฟิลิปปินส์
ต่อมาในปี 2511 รูดี้ก็ได้ย้ายเข้ามาร่วมงานกับสำนักตรวจสอบบัญชีเอสจีวี
ณ กลางของยุกต์ ณ ถลาง ที่ประเทศไทย และเมื่อเอสจีวีเปิดฝ่าย MANAGEMENT
MENT (MS) ซึ่งให้บริการด้านที่ปรึกษาการบริหารการจัดการรูดี้ก็ได้เป็น MS
PARTNER ของเอสจีวี
8 ปีในไทยรูดี้ได้สั่งสมประสบการณ์ และสายสัมพันธ์เพื่อนได้มาก เขาได้รู้จักกับ
พร สิทธิอำนวย เจ้าของพีเอสเอกรุ๊ป พรชวนรูดี้เข้ามาร่วมงานด้วยเพราะในช่วงนั้นอาณาจักรพีเอเอกรุ๊ปขยายตัวเร็วมาก
และได้รับการทาบทามจากแบงก์ให้เข้าไปเทคโอเวอร์กิจการที่ประสบปัญหาลหลายแห่ง
และบริษัททัวร์รอแยลก็เป็นบริษัทหนึ่ง
ในปี 2519 รูดี้ลาออกจากเอสจีวีและเข้ารับตำแหน่ง PRESIDENT ของบริษัททัวร์รอแยลในเครือพีเอสเอกรุ๊ปและที่นี่เองที่เขาได้เพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อ
วีระพงษ์ โพธิภักติซึ่งเป็นลูกเขยของของเจ้าของกิจการเดิมคือ ประพักตร์ สกุลรัตนะ
และพล.ต.ท.อำรุง สกุลรัตนะ และสายสัมพันธ์กับวีระพงษ์ครั้งนี้เองที่ทำให้รูดี้เข้ามาเป็นผู้บริหารบริษัทดาราเหนือในปัจจุบัน
ในปี 2522 รูดี้ได้ลาออกจากทัวร์รอแยลเพื่อมาตั้งกิจการบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารการจัดการของตัวเองภายใต้ชื่อว่า
"AMCA" โดยมีบุญชู โรจนเสถียรร่วมลงทุนด้วย นอกจากนี้ยังได้ตั้งบริษัท
SIMON LIM ซึ่งรับงานด้านประเมินราคาทรัพย์สินเช่นที่ดินด้วย กิจการทั้งสองนี้รูดี้เพิ่งจะถอนตัวไม่ได้เข้าไปนั่งบริหารนับตั้งแต่มีภารกิจกับการผลักดันบริษัทดาราเหนือเข้าตลาดหลักทรัพย์
แต่ก็ยังถือหุ้นอยู่บ้าง
และเมื่อวีระพงษ์ได้เข้ามาดูแลกิจการบริษัทดาราเหนือเมื่อ 4 - 5 ปีที่แล้ว
เขาก็ได้รูดี้เข้ามาทำงานให้ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนที่สองสืบสานต่อจากแหม่มน๊อดท์
"โดยสไตล์การทำงานของรูดี้เขาจะเป็นนักวางแผนและมีความละเอียดถี่ถ้วนแบบนักบริหารบัญชีมืออาชีพ
และจุดนี้เองทำให้เขามีข้อมูลที่สามารถคุมได้ถึงการผลิตที่โรงงานทุกจุดได้ด้วย"
แหล่งข่าวเล่าให้ฟัง
รูดี้คนนี้เองที่พลิกโฉมหน้าใหม่ของบริษัทดาราเหนือซึ่งโตเงียบ ๆ ทะยานขึ้นไปสู่ฐานะบริษัทมหาชน
ด้วยการวางแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และปรับปรุงโครงสร้างทางด้านการเงินการบริหารใหม่
รวมทั้งขยายแผนการลงทุนอีกนับร้อยล้านและออกสินค้าใหม่ ๆ มากขึ้นนอกจากน้ำดื่มและโซดา
"POLARIS"
ทุกวันนี้ รูดี้ต้องทำงานหนัก หมกมุ่นอยู่กับการบริหารโรงงานเพื่อดูแลการลงทุนใหม่และต้องตระเวนออกไปสู่สาขาในต่างจังหวัดเพื่อติดตามแผนการขยายตัว
รวมทั้งการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเจรจาเรื่องแฟรนไชนส์ "SUNKIST"
กับบริษัทยักษ์ใหญ่ CADBURY SCHWEPPES แห่งสหรัฐอเมริกา
ในชีวิตส่วนตัวของรูดี้เมื่อเขาเหน็ดเหนื่อยจากงานมักจะชอบเล่นกอล์ฟ และมีชีวิตครอบครัวที่มีภรรยาและลูกชายวัย
6 และ 8 ขวบ ภรรยาของรูดี้ชื่อนภาลัย (จันทรศักดิ์) อัลวีโซ่ เป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงแรมสยามอินเตอร์คอนติเนนตัล
และทั้งหมดนี้ก็คือชีวิตของคนสองที่บริหารบริษัทดาราเหนือในต่างวาระต่างหน้าที่กัน
โดยอุดมคตและเป้าหมายของแหม่มน๊อดท์ที่ต้องการให้ "POLARIS" อยู่คู่ทุกบ้านเรือนตลอดจนทำให้ระดับมาตรฐานชีวิตคนไทย
มีสุขภาพดีขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้นก็ได้บรรลุแล้ว และเป้าหมายต่อมาของทีมคนหนุ่มไฟแรงอย่างวีระพงษ์และรูดี้ก็คือ
การขยายกิจการบริษัทดาราเหนือไปสู่ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ในก้าวต่อไป