|
บ้านโรบินสัน ครูโซบนเกาะสวรรค์
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( ตุลาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
เมื่อผู้มาเยือนเดินไปถึงตัวบ้านซึ่งชั้นล่างยกสูงจากพื้นทรายร่วม 20 ฟุตก็พบว่า บ้านน้อยทั้งหลังมีเฉลียงโดยรอบ ตรงเฉลียงมีชายคาสำหรับให้ร่มเงาและป้องกันไม่ให้แดดส่องเข้าไปในตัวบ้าน ระหว่างตัวบ้านและเฉลียงมีประตูแบบฝรั่งเศสกั้น จึงมีลักษณะเปิดโล่งรับลมทะเลจากอ่าวเม็กซิโกได้เต็มที่ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่ากำลังอยู่ในศาลาริมทะเลมากกว่า
คู่สามีภรรยา Helen กับ Phil Didriksen เจ้าของบ้านหลัง น่ารักช่วยกันเล่าว่า พวกเขาค้นพบ Little Gasparilla Island โดย บังเอิญเมื่อปี 2000 ตอนนั้นพวกเขากำลังหาซื้อบ้านในรัฐฟลอริดา เพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ลองเปิดเน็ตค้นหา Gasparilla Island ดู เพราะเกาะนี้ห้ามสร้างอาคารสูง ซึ่งตรงกับความต้องการของทั้งสอง พอดี พวกเขาไม่ต้องการอยู่ในที่ที่มีอาคารสูง เมื่อทำอย่างที่เพื่อน แนะนำและค้นหาละเอียดขึ้น ทั้งสองก็พบ Little Gasparilla Island ตั้งอยู่ทางเหนือของ Gasparilla Island และพบประกาศให้เช่าบ้าน ด้วย พวกเขาจึงเช่าบ้านหลังนั้นไว้สำหรับพักผ่อนเป็นเวลาหลายปี
Helen เล่าถึงความรู้สึกของตนกับสามีว่า
“มันเหมือนเราเป็นโรบินสัน ครูโซ ที่ได้มาอยู่ร่วมกับโรบินสัน ครูโซคนอื่นๆ บ้านทุกหลังปลูกอยู่บนเสา ที่สำคัญตัวเกาะ ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน”
Little Gasparilla Island เป็นเกาะเล็กๆ ยาวเพียง 7 ไมล์และกว้างครึ่งไมล์เท่านั้น ตั้งอยู่บริเวณอ่าวเม็กซิโกทางตะวันตก เฉียงใต้ของรัฐฟลอริดา เกาะที่มีบรรยากาศ สุขสงบแห่งนี้มีประชากรไม่ถึง 400 หลังคาเรือนเท่านั้น ส่วนใหญ่จะพำนักเพียงช่วงเวลา หนึ่ง เพราะที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองของพวกเขาที่เดินทางมาเพื่อพักผ่อนหรือตากอากาศ
จุดเด่นของที่นี่คือ เป็นเกาะสวรรค์ของผู้ต้องการความสันโดษและสุขสงบอย่างแท้จริง เพราะบนเกาะไม่มีกิจการพาณิชย์ ร้านอาหารหรือโรงแรมแม้แต่แห่งเดียว จะมี เฉพาะร้านซ่อมรถกอล์ฟอยู่แห่งหนึ่งเท่านั้น เพราะคนที่นี่ใช้รถกอล์ฟเป็นยานพาหนะหรือไม่ก็เดินเท้า นอกจากนี้ก็มีจักรยานไม่กี่คันสำหรับขี่ออกกำลังกายบนชายหาด
Helen เล่าเสริมในจุดนี้ว่า “แม้ว่าตัวเกาะอยู่ห่างจากแผ่นดิน ใหญ่เพียง 15 นาที แต่ค่อนข้างโดดเดี่ยวอยู่มาก ทำให้ผู้คนที่นี่ซึ่งเป็นกลุ่มคนผสมผสานรู้จักและเป็นมิตรกันเป็นอย่างดี เวลาเพื่อนบ้านจะขึ้นฝั่งก็จะถามว่าเราอยากได้อะไรไหม”
วิธีนี้ช่วยให้ชาวเกาะ Little Gasparilla ประหยัดเวลาและเชื้อเพลิง ถือเป็นคุณภาพชีวิตที่ดีในอีกมิติหนึ่งที่ทุกคนประทับใจ
ส่วน Phil พูดถึงที่ตั้งของตัวบ้านว่า
“ผมกับ Helen ซื้อที่ดินผืนนี้ในปี 2001 คือหลังจากพบเกาะนี้เพียงปีเดียว ที่ดินผืนนี้อยู่ในทำเล ดีมาก ตั้งอยู่ตรงกลางเกาะพอดี ซึ่งหมายความว่าตัวบ้านจะใกล้กับอ่าวมากเป็นพิเศษ โชคดีชั้นที่สองของเราคือได้ที่ดินแปลงคู่ ทำให้ได้ชายหาดด้านหน้า ติดอ่าวเม็กซิโกเพิ่มมา 100 ฟุต”
สามีภรรยาคู่นี้ไม่เพียงแต่จะหลงใหลในตัวเกาะ พวกเขายังหลงรักบ้านไม้ซีดาร์บนเกาะแห่งนี้อย่างที่สุดด้วย Buddy กับ Laurie Gaines สองสามีภรรยาซึ่งกลายเป็นเพื่อนบ้านผู้แสนดีจึงเล่าว่า บ้านของพวกเขาสร้างโดยบริษัท International Homes of Cedar (IHC) ในรัฐวอชิงตัน
เมื่อปี 1982 Buddy ไปฮาวายเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ ความเสียหายจากพายุเฮอร์ริเคนไอวาครั้งนั้นเขาพบว่า มีบ้านหลายหลังยังอยู่ในสภาพดี ทนทานต่อแรงพายุได้อย่างน่าประหลาด เมื่อรู้ว่า บ้านดังกล่าวสร้างโดย IHC เขาไม่รีรอรีบเดินทางไปเมืองวูดอินวิลล์ รัฐวอชิงตัน เพื่อติดต่อให้ IHC รับสร้างบ้านบนเกาะ Little Gasparilla ให้ อีกหลายปีต่อมาพวกเขาดีใจมากที่ตัดสินใจไม่ผิด เพราะเมื่อถูกพายุเฮอร์ริเคนชาร์ลีถล่มโดยศูนย์กลางของพายุอยู่ห่างจากบ้านของพวกเขาไม่ถึง 10 ไมล์ ปรากฏว่าบ้านไม่เสียหาย แม้แต่น้อย
เมื่อได้ข้อมูลนี้แล้ว Phil กับ Helen จึงติดต่อ IHC ให้ออกแบบบ้านไม้ซีดาร์ของพวกเขาบ้าง ที่เจาะจงซีดาร์เพราะเป็นไม้ชนิดหนึ่งในจำนวนสองชนิดของอเมริกาเหนือที่ทนทานต่อโรคและแมลงได้ตามธรรมชาติ ทั้งยังมีคุณสมบัติยึดสารเคลือบเงาได้ดีกว่าไม้ชนิดอื่นๆ ทำให้ไม่ต้องเคลือบเงาบ่อยๆ ไม้ซีดาร์ยังน้ำหนัก เบาช่วยประหยัดพลังงานได้มาก ไม้กระดานขนาดความยาว 16 ฟุต หนักไม่ถึง 80 ปอนด์ ทำให้ค่าขนส่งลดลง ทั้งยังไม่ต้องใช้รถบรรทุก หรือเครนขนถ่ายไปยังทำเลก่อสร้างด้วย
สำหรับบริษัทรับเหมาก่อสร้างนั้น Phil เลือกบริษัทท้องถิ่น ซึ่งเชี่ยวชาญการขนส่งวัสดุก่อสร้างจากแผ่นดินใหญ่ไปยังสถานที่ก่อสร้าง ที่สำคัญยังมีชั่วโมงบินสูงมากในงานสร้างบ้านพักอาศัยบนเกาะ
Phil เล่าว่า ต้องใช้เวลาถึง 8 ปีเต็มจึงทำให้งานทั้งโครงการแล้วเสร็จ ทั้งสองเสียเวลากับงานออกแบบนานมาก รวมทั้งการขออนุญาตก่อสร้างให้เป็นไปตามระเบียบก่อสร้างและข้อบังคับเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมบนเกาะ ต้องใช้เวลามากในการรอคำอนุมัติ
เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งสองได้บ้านกะทัดรัดขนาด 1,868 ตาราง ฟุต ชั้นล่างออกแบบให้เปิดโล่ง ห้องนอนใหญ่และห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง เมื่อขึ้น บันไดถึงชั้นสองจะพบห้องนอนและห้องน้ำซึ่งเป็นสไตล์ลอฟท์รอต้อนรับอยู่
บ้านกะทัดรัดหลังนี้เหมาะกับคู่สมรสที่ไม่มีบุตรอย่าง Phil กับ Helen เป็นที่สุด เมื่อครอบครัวและเพื่อนๆ มาเยือน พวกเขาต่างสนุกสนานกับบรรยากาศ “แฟนซีแคมปิ้ง” มาก ที่สำคัญพวกเขายังมีส่วนของเฉลียงขนาด 1,298 ตารางฟุตเพิ่มขึ้นมา เพื่อใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร
นอกจากนี้ บริเวณริมสุดของตัวเฉลียงทั้งสองด้านยังออกแบบให้พื้นอยู่ต่ำกว่าพื้นเฉลียงใหญ่ 3 ฟุต เพราะไม่ต้องการให้ราวลูกกรงบังทัศนียภาพ อันสวยงามของตัวอ่าวนั่นเอง เจ้าของยังเอาใจคนต้องการรับลมทะเลแบบเต็มๆ ด้วยการผูกเปลญวณไว้ทั้งสองด้าน
สองสามีภรรยามีความสุขกับบ้านที่สร้างขึ้นเพื่อบรรยากาศสุขสงบอย่างแท้จริงนี้มาก จึงเน้นออกแบบให้มีลักษณะเปิดโล่งรับลมเต็มที่ คนที่อยู่ ในบ้านจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
“วิถีชีวิตอย่างนี้อาจไม่ดึงดูดใจสำหรับทุกคน แต่สำหรับผมกับภรรยา แล้วมันสมบูรณ์แบบมาก เราโปรดปรานการแล่นเรือไปยังสถานที่ห่างไกลในรัฐเมนและโนวาสโกเทียเสมอ นี่อาจเป็นเหตุผลอธิบายว่า ทำไมเราถึงสุขใจจริงๆ เมื่อได้อยู่ที่นี่ เกาะนี้เล็กมาก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน เราจะเห็นชายหาด และอ่าวตลอดเวลา เราชอบที่จะมีน้ำทะเลล้อมรอบอย่างนี้ ทุกคนเป็นมิตร ส่วนเพื่อนบ้านก็สุดวิเศษ บรรยากาศยามอาทิตย์อัสดงนั้นเสมือนอยู่ในความฝันมากกว่า นี่ไม่รวมถึงการที่เรามีชายหาดยาวเหยียดให้เดินเล่นตามใจชอบนะ”
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|