BIS ภูเก็ต เสริมความแกร่ง รุกตลาดสกัดผู้ท้าชิง


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(2 ตุลาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

ธุรกิจการศึกษาเป็นธุรกิจที่มีความแตกต่างจากธุรกิจทั่วไป ที่ผู้เข้ามาลงทุนจะมองเพียงผลกำไรที่จะได้รับกลับมาเร็วหรือสามารถสร้างกำไรได้อย่างหวือหวา เพราะกว่าสิ่งเหล่านี้จะตามมา ต้องกินระยะเวลาการลงทุนไปกว่า 10 ปี และสิ่งที่งอกเงยมาพร้อมกับรายได้ต้องควบคู่ไปกับคุณภาพการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญ

14 ปี ของโรงเรียนนานาชาติ บริติช อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล ( British International School :BIS) จังหวัดภูเก็ต โรงเรียนนานาชาติในเครือมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ตั้งบนพื้นที่ 100 กว่าไร่ และนับเป็นเจ้าตลาดที่ครองตลาดพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด ด้วยระดับการศึกษาที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับก่อนเนิร์สเซอรี่จนถึงระดับมัธยมปลาย และความได้เปรียบในด้านสถานที่ขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างสาธารณูปโภค สำหรับกิจกรรมไม่ว่าเป็นกีฬาประเภท ฟุตบอล สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส และอาคารหอพัก 5 หลัง

และนับเป็นปีที่เรียกได้ว่าธุรกิจการศึกษาแห่งนี้ได้เห็นผลงอกเงยตามที่กล่าวมาข้างต้น ในการผลิตนักเรียนออกสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง หรือมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในไทยไม่ว่าจะเป็นมหิดล เอแบค รังสิต เป็นต้น

หากมองถึงการเติบโตของโรงเรียนนานาชาติที่ต้องเกี่ยวพันธ์กับปัจจัยหลายๆ สิ่ง ที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ ที่ผ่านมาปัจจัยเศรษฐกิจการเมืองในประเทศดูจะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงในประเด็นของสถานการณ์ความปลอดภัย

ก่อนหน้านี้สมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทยยอมรับถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น กับยอดจำนวนผู้เรียนที่ลดลงจากปีที่ผ่านมาๆ แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่มากนักแต่หากในระยะยาวหากสถานการณ์การเมืองในไทยยังไม่สงบจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจได้

ขณะเดียวกันภาพการแข่งขันขันของธุรกิจการศึกษาโรงเรียนนานาชาติยังมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง แม้จะมีความต้องการของผู้เรียนเพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้ปกครองจำนวนมากต้องเลือกเฟ้นโรงเรียนที่ดีที่สุดให้กับบุตรหลาน

สำหรับการเติบโตของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย มีการเปิดใหม่ทุกปีเฉลี่ยปีละ 3-4 แห่ง เป็นการขยายตัวเพิ่มของโรงเรียนนานาชาติระดับมัธยมศึกษา ขณะที่โรงเรียนนานาชาติที่เปิดสอนถึงระดับมัธยมจะมีเจ้าตลอดอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น แฮร์โรล์ โชเบอรี่ บางกอกพัฒนา เดอะรีเจ้นท์ ฯลฯ

หากโฟกัสที่การแข่งขันของโรงเรียนนานาชาติระดับมัธยม มีการแข่งขันที่สูงเช่นกัน ด้วยความต้องการของผู้เรียนสูงขึ้น ที่ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษ และการเกิดขึ้นของการสอน 2 ภาษาในโรงเรียนต่าางๆ ทำให้ภาพรวมโรงเรียนนานาชาติมีความคึกคักขึ้น

ที่ผ่านมาได้เห็นกลยุทธ์ของโรงเรียนนานาชาติ จากการออกโรดโชว์ต่างๆ เพื่อขยายตลาดในต่างจังหวัดและในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการจ้างเอเย่นต์ทำการตลาดอย่างจริงจัง ชูจุดแข็งที่มีหอพักนักเรียน ความปลอดภัยสูง

ภาพการแข่งขันที่เกิดขึ้นของโรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพฯ ได้ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนนานาชาติที่ตั้งในพื้นที่ต่างจังหวัด

การแข่งขันที่เกิดขึ้น “ผศ.ดร.นเรศ พันธราธร” ผู้จัดการ BISมองว่า ตอนนี้กลายเป็นว่าโรงเรียนนานาชาติในต่างจังหวัดต้องแข่งขันกับโรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพ ที่ต่างรุกตลาดต่างจังหวัดด้วยความพร้อมของการเป็นศูนย์กลางการศึกษาและมีให้เลือกจำนวนหลายแหล่ง

แต่ในทางกลับกับ BIS ก็มองตลาดในประเทศไทยทุกภาคและโดยเฉพาะตลาดผู้เรียนในกรุงเทพฯ ที่เป็นตลาดที่ใหญ่และ BIS มีความพร้อมที่ไม่แตกต่าง ทั้งคุณภาพ หลักสูตรการเรียน สิ่งแวดล้อม หอพักนักศึกษาที่ยังรองรับนักเรียนได้อีกจำนวนมาก

“ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งโฟกัสตลาดนักเรียนในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มครอบครัวชาวต่างชาติที่ทำงานในไทยและครอบครัวคนไทยที่มีกำลังจ่ายสำหรับการศึกษานานาชาติให้กับลูก จึงจะเห็นโรงเรียนที่มีความพร้อมโดยเฉพาะหอพัก ได้มีการทำตลาดในประเทศไทยกับผู้เรียนทุกภาค”

ล่าสุด BIS ได้มีการตั้งทีมการตลาด และเพิ่มจำนวนบุคลากรในแผนกนี้ เพื่อทำการตลาดในเชิงรุกสำหรับตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ เพื่อเปิดตัวโรงเรียนแห่งนี้อย่างเต็มรูปแบบทั้งสื่อการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ต่างๆ

สำหรับ BIS ปัจจุบันมีนักเรียน 1,300 คน เป็นนักเรียนไทย 50% และอีก 50% เป็นช่าวต่างชาติ และมากกว่า 90% เป็นกลุ่มครอบครัวที่ทำงานอยู่ในภูเก็ต นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติจากออสเตรเลีย ฮ่องกง เกาหลี เป็นต้น จึงทำให้สถานการณ์เหตุการณ์ความไม่สงบด้านการเมืองในไทยที่ผ่านมา BIS จึงได้รับผลกระทบที่น้อยมากเพราะผู้เรียนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในประเทศไทย

และกับความพร้อมด้านหอพัก ที่ ทำให้โรงเรียนนานาชาติที่มีหอพักนั้นรุกตลาดทั้งตลาดในไทยและต่างประทศ ซึ่ง ปัจจุบัน BIS มีนักเรียนประจำ (Boarding) 140-150 คน แต่ที่ผ่านมาได้มีการลดลงอย่างมากหรือมีไม่ถึง 100 คนและใช้หอพักเพียง 3 อาคารเท่านั้นจากทั้งหมด 5 อาคาร

ปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้นักเรียนประจำลดลง เกิดจากผู้ปกครองชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตแทนการส่งลูกเข้าโรงเรียนและจ้างพี่เลี้ยงในการรับส่ง เพราะมองว่าราคาสำหรับจ่ายค่าหอพักกับโรงเรียนและการจ่ายผ่อนส่งอสังหาริมทรัพย์ไม่แตกต่างกันสุดท้ายแล้วก็สามารถมีอสังหาริมทรัพย์เมื่อลูกจบการศึกษา

ผลกระทบดังกล่าวนี้ ทำให้ BIS ขยายฐานผู้เรียนในภูมิคต่างๆ ในไทยเพิ่มขึ้น และล่าสุดได้ปรับโปรแกรมวิชาสำหรับนักเรียนประจำเพื่อเพิ่มการเรียนการสอนในช่วงหลังเลิกเรียนลักษณะของการติวเตอร์เพื่อให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการใช้ชีวิตประจำในโรงเรียนที่จะได้อะไรที่มากกว่าต้องเดินทางกลับที่พักหลังเลิกเรียน ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว

ผศ.ดร. นเรศ กล่าวต่อไปว่า นอกจากตลาดนักเรียนในประเทศไทยยังทำตลาดกับผู้เรียนต่างประเทศ และเป็นตลาดที่ใหญ่ เช่น เกาหลี รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น ที่นิยมส่งบุตรหลานเรียนโรงเรียนนานาชาติในต่างประเทศ ด้วยมองศักยภาพ BIS มีความพร้อมในทุกด้านสำหรับตลาดดังกล่าว หรือแม้แต่ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยปีละ 3-4 แสนบาทซึ่งยังเป็นค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าในประเทศเหล่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะสามารถการันตีคุณภาพของโรงเรียนนานาชาติได้เป็นอย่างดีคือผลสอบที่เป็นข้อสอบมาตรฐานกลางของแคมบริช IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) เพื่อใช้ในการศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และสำหรับ out put ของ BIS หากดูที่ผลสอบของนักเรียนอยู่ในเปอร์เซ็นที่สูงทำให้สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกได้หลายแห่งอีกด้วย


ณัชชยุดา เทพบุตร
สาวน้อย 'King Collage'

ณัชชยุดา เทพบุตร หรือ มุก อดีตประธานนักเรียนหมาดๆ ที่เพิ่งจบ year 13 (เทียบเท่า ม.6) ภายใน 2 สัปดาห์นี้เตรียมที่จะเหิรฟ้าบินไปศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง King Collage London

มุก เป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว “เทพบุตร” ที่ทำธุรกิจ “สุโข สปา” เธอเรียนที่ BIS ตั้งแต่ year 3 (เทียบเท่าประถมศึกษาปีที่ 1) โดยครอบครัวให้ความสำคัญกับการศึกษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ

ขณะเดียวกัน มุก ยังมองว่ากรได้ภาษาอังกฤษเท่ากับการเปิดโลกกว้าง เพราะความรู้ต่างๆ ในโลก ความรู้ใหม่มักจะนำเสนอด้วยภาษาอังกฤษทั้งนั้น และอีกภาษาหนึ่งที่เธอให้ความสนใจนั้นคือภาษาจีน ด้วยเศรษฐกิจจีนที่เติบโตและคนจีนมีอยู่ทั่วโลกการที่จะต้องได้ภาษาจีนอีกภาษาหนึ่งนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน

กับโลกการเรียนใน BIS ของมุก เธอบอกว่าเต็มไปด้วยความสนุก เพราะเป็นการเรียนควบคู่ไปกับการทำกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมสอดแทรกไปด้วยความรู้ที่มากมายผ่านกิจกรรมสื่อการเรียนการสอน โดยเฉพาะสอนด้านสังคม การเรียนรู้ความแตกต่างของวัฒนธรรม จากเพื่อนนานาชาติที่มีอยู่ในโรงเรียน

สำหรับที่ BIS การเรียนการสอนต่อคลาสไม่เกิน 20 คน ทำให้การเรียนในห้องสามารถสอบถามอาจารย์ผู้สอยได้เต็มที่ และเป็นการเรียนการสอนที่ไม่ใช่ความรู้จะจบเพียงเท่านั้น แต่หลักสูตรได้ถูกดีไซน์ให้ผู้เรียนต้องค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ซึ่งตรงจุดนี้ มุก บอกว่า เป็นการเรียนที่ทำให้เธอจำข้อมูลที่ค้นคว้ามาได้อย่างแม่นยำ

เธอ ยังมองอีกว่า ช่วงวัยเรียนเป็นวัยที่มีพลังงานเหลือเฟือ การมีกิจกรรมเสริมจากการเรียน ทำประโยชน์ให้เกิดได้อีกมากมาย กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่นอกจากประโยชน์ที่จะเกิดกับนักเรียนในการฝึกฝนร่างกาย การออกกำลังกายเล่นกีฬาต่างๆ

และ BISยังมุ่งเน้นกิจกรรมเพื่อสังคม ที่เธอและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสในการออกค่ายสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆ ในชุมชน ซึ่งการทำกิจกรรมถือเป็นภาคบังคับที่ทุกคนต้องทำ เมื่อได้ลงมือร่วมแรงกันแล้วทุกคนจะชอบพอมีกิจกรรมใด ๆก็จะสนใจเข้าร่วมทุกครั้ง

และในฐานะที่เธอเป็นประธานนักเรียน และเป็นคนไทย มุก ได้ใช้ความเป็นไทยในการถ่ายทอดวัฒนธรรมไทยให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก ล่าสุด

จัดงานไหว้ครู ที่ผ่านมา การนำบทท่องปาเจรา มาแปลเป็นภาษาอังกฤษ การสื่อความหมายของพานดอกไม้ ธูปเทียน เพื่อให้อาจารย์และเพื่อนชาวต่างชาติเข้าใจถึงประเพณีไทยถึงแก่นแท้แนวคิดของวัฒนธรรมไทยและเรียนวรรณกรรมไทย ของนักเรียนดังอย่างศรีบูรพา หรือเรื่องสี่แผ่นดินของคึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นต้น

แม้เธอจะใช้ชีวิตวัยเรียนในรั้วโรงเรียนนานาชาติมีเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติและสื่อสารด้วยภาาษอังกฤษ แต่มุกพูดไทยได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง เธอ บอกว่า แม้บรรยากาศ สิ่งแวดล้อม ที่ต้องสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ แต่ที่ BIS จะมีสอนวิชาภาษาไทย และไทยมีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมประเพณี ทำให้เพื่อนต่างชาติในสนใจภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยด้วย

และสำหรับอนาคตทางการศึกษาของสาวน้อยอนาคตไกลคนนี้ วางทางการศึกษาของเธอในเบื้องต้นไว้ที่ระดับปริญญาตรีในอีก 4 ปีข้างหน้าเท่านั้น เพื่อความรู้ด้านการบริหารธุรกิจมาสานต่อธุรกิจครอบครัว เพราะอยากทำงานเร็วๆ เมื่อเห็นพ่อ แม่พูดคุยเรื่องธุรกิจแล้วต้องการเข้ามาช่วย และเป็นการเรียนเพื่อนำความรู้มาใช้ มากกว่ามองถึงใบปริญญาบัตรเพียงอย่างเดียว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.