|
โฆษณา-หนังจี้รัฐดับปัญหาขึ้นฮับเอเซีย ชมแนวคิด ศก.เชิงสร้างสรรค์
ASTV ผู้จัดการรายวัน(29 กันยายน 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
วงการหนังไทย-โฆษณา เรียกร้องภาครัฐ เร่งสนับสนุน ผลักดันไทยก้าวขึ้นเป็นฮับด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโฆษณาใน 3 ปี ชมแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ไปได้ดี หลังดำเนินการมากว่า 1ปี กันตนามอง หาก กสทช.เกิด มีหน่วยงานดูแลธุรกิจสื่อเต็มที่ คาดปีหน้าทิศทางธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์โตพรวด 100%
วานนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดโครงการส่งเสริมและต่อยอดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ขึ้น ในงาน "Creative Magic for Creative Economy" ขึ้น โดยมีการเสวนาของธุรกิจจากวงการภาพยนตร์, เพลง, การแพร่ภาพและกระจายเสียงและโฆษณาพูดถึงแนวทางการต่อยอดในการดำเนินธุรกิจ
นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็น 1 ใน 15 อุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ทางภาครัฐให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์และเพลงรวมกันคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท ขณะที่ในส่วนของอุตสาหกรรมโฆษณาไทยก็เป็นอีกส่วนที่ภาครัฐได้จับมือกับทางภาคเอกชนในการผลักดันให้ก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลก ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้ตลาดรวมโฆษณาจะมีมูลค่าประมาณ 96,000 ล้านบาท
ช่างเวลาปีกว่าที่ผ่านมา ทางภาครัฐได้เดินหน้าต่อเนื่องตามนโยบายที่วางไว้โดยคาดว่าภายใน 5 ปีจากนี้ ไทยจะสามารถสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้กับประเทศมากเป็นอันดับ 4 รองจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
นายจาฤก กัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันตนากรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานเสวนาว่า กันตนาเป็นบริษัทที่มีการต่อยอดการคิดสร้างสรรค์มาตลอด 60 ปี โดยมีวัตถุดิบมาจาก คำว่า กันตนา และ บทประพันธ์ราว 100-200 เรื่องในมือ จนปัจจุบันบริษัทได้ต่อยอดธุรกิจไปสู่ด้านอื่นๆแบบครบวงจร และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสถานีโทรทัศน์ที่เข้าไปทำในประเทศเวียดนามและกัมพูชา หรือทีวีดาวเทียมที่เปิดบริการไปแล้ว 3 ช่อง รวมถึงการขยายสาขาด้านการผลิตภาพยนตร์ไปในเวียดนาม และกำลังจะไปอินโดนีเซียในระยะอันใกล้นี้ รวมถึงแนวคิดการทำโลคอลโรงภาพยนตร์ ที่จะได้เห็นในอนาคต และสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ด้านนายวิทวัส ชัยปราณี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายครีเอทีฟจูซ เวิลด์กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมโฆษณา หากรัฐให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง มั่นใจเราเป็นฮับในอาเซียนได้อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันไทยติดอันดับ 5 ของโลก ด้านการคิดงานสร้างสรรค์โฆษณา ส่วนนักครีเอทีฟเราติดท็อปเท็นในเอเชีย
ทั้งนี้เบื้องต้นอยากให้ภาครัฐร่วมสนับสนุนการจัดงาน แอด เฟส ที่จัดติดต่อกันมา15 ปี ทั้งนี้เพื่องานดังกล่าวมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ทางด้านงานอีเวนต์โฆษณาในภูมิภาคนี้ต่อไป เพราะขณะนี้คู่แข่งที่กลัวและมีการจัดงานแข่งขันกับเราแล้วคือ สิงคโปร์ กับงาน โฆษณา ในชื่อ สไปร์ท
***เตรียมผุดโปรเจกโลคอลโรงภาพยนตร์
นายจาฤก กล่าวด้วยว่า แนวคิดโลคอลโรงภาพยนตร์นั้น ถือเป็นแนวคิดหนึ่งที่ต้องการลดการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ภายใต้แนวคิด 1 เฟรม 1 คัลเจอร์ โดยจะเป็นโรงหนังขนาด 50 ที่นั่ง บัตรราคาไม่เกิน 10-20 บาท ฉายภาพยนตร์ใหม่ชนโรงเช่นเดียวกับโรงหนังระดับพรีเมี่ยม จับกลุ่มคนดูระดับรากหญ้าและในต่างจังหวัดเป็นหลัก คาดว่าลงทุนระดับพันล้านบาท เพราะต้องการให้มีทั่วประเทศราว 2,000 โรง งบลงทุนโรงละประมาณ 1 ล้านบาท ถ่ายทอดการฉายผ่านระบบแซทเทิลไลท์ทีวี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการวางแผนและศึกษาโมเดลอยู่ โดยในอนาคตมีแผนทำไปทั่วภูมิภาคนี้ด้วย ซึ่งได้คุยกับทางประเทศเวียดนาม กัมพูชาและลาวไว้แล้ว อาจจะเป็นลักษณะของการร่วมทุนกัน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|