|
ปั๊มแก๊สปตท.เห็นแน่ต้นปีหน้า เล็งนำร่อง2-3แห่งก่อนเปิดครบ30แห่ง
ASTV ผู้จัดการรายวัน(27 กันยายน 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ปตท.แย้มต้นปีหน้าเห็นปั๊มแก๊สปตท.หน้าโรงแยกก๊าซฯ 2-3 แห่งก่อนทยอยเปิดครบ 30แห่ง รวมทั้งดูลู่ทางผุดขึ้นในปั๊มน้ำมันปตท.อ้างเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้รถ เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียมภายใต้ PTT Blue Innovation ราคาเท่าเดิมสนองความต้องการของลูกค้า คาดยอดขายพุ่ง 2% ดันมาร์เก็ตแชร์ทะลุ 38%
นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ปตท.มีแผนจะทำสถานีบริการก๊าซหุงต้ม(LPG)สำหรับยานยนต์ภายใต้แบรนด์ปตท.นั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการวางมาตรฐานปั๊มแก๊สให้ดีกว่ามาตรฐานที่รัฐกำหนดไว้ คาดว่าในต้นปีหน้าได้เห็นแน่ 2-3 แห่ง ทั้งนี้ ปตท.จะมีการเปิดปั๊มแก๊สในบริเวณหน้าโรงบรรจุก๊าซฯของปตท.ประมาณ 30 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งพิจารณาจะขยายไปเปิดภายในปั๊มน้ำมันปตท.ที่มีพื้นที่ที่เหมาะสมได้ตามมาตรฐานที่วางไว้ โดยไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าต้องการมีปั๊มแก๊สกี่แห่ง
โดยยอมรับว่าที่ผ่านมา ปตท.ไม่ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซLPGสำหรับภาคการขนส่ง แต่เนื่องจากรัฐไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ทำให้มีการเปิดปั๊มแก๊สเพิ่มขึ้นโดยบางแห่งไม่ได้มาตรฐานซึ่งอาจเป็นอันตราย การทำปั๊มแก๊สของปตท.ครั้งนี้เป็นการวางมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยยอมรับว่า ปตท.รุกตลาดแก๊สสำหรับรถยนต์ในช่วงที่ตลาดไม่โตเพราะรถแท็กซี่หันไปใช้NGVกันมากขึ้น
ทั้งนี้ ปตท.ได้จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสูตรใหม่ คุณภาพเกรดพรีเมียมในราคาเท่าเดิมภายใต้ PTT Blue Innovation ครบทั้ง 8 ผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ ดีเซลและไบโอดีเซล โดยน้ำมันดังกล่าวมีจุดเด่นในการเผาไหม้สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์สะอาด และทำงานอย่างเต็มสมรรถ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงถึง 2.4% เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
การออกผลิตภัณฑ์น้ำมันใหม่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกับทั้งเบนซินและดีเซล มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยไม่ได้มุ่งหวังส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันแต่เชื่อว่าด้วยคุณภาพน้ำมันเกรดพรีเมียม และราคาจำหน่ายเท่าเดิมจะทำให้ยอดขายน้ำมันของปตท.เพิ่มสูงขึ้น
นายจักรกฤษณ์ จารุจินดา ผู้จัดการส่วนค้าปลีก บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวน้ำมันเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียมทุกผลิตภัณฑ์ของปตท.คาดว่ายอดขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น2% เป็นวันละ 27 ล้านลิตร/วัน จากปัจจุบันที่มียอดขายอยู่ 25 ล้านลิตร/วัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันของปตท.เพิ่มขึ้นจาก 36.7% เป็น 38.7% โดยปตท.ทุ่ม 100 ล้านบาทในการวิจัยและส่งเสริมการตลาดในทุกช่องทางจนถึงสิ้นปีนี้
ที่ผ่านมา ปตท.ให้ความสำคัญในธุรกิจเสริมจะเห็นได้จากการเร่งขยายสาขาคาร์แคร์ร้านกาแฟ รวมถึงการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าจนครองใจผู้ใช้รถ ดังนั้นวันนี้จึงออกผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานขั้นสูงสุดที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทรถยนต์ทั้ง 6 ค่าย ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้า โตโยตา จีเอ็มBMW Volkswagen และออดี้ ร่วมกำหนดขึ้น
นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้การสร้างปั๊มน้ำมันในเขตกรุงเทพฯทำได้ยาก เนื่องจากต้นทุนค่าเช่าพื้นที่สูง ดังนั้นในอีก 10ปีข้างหน้า จำนวนปั๊มน้ำมันในเขตกรุงเทพฯมีไม่มาก และมีขนาดเล็กลงเหมือนกับปั๊มน้ำมันในเมืองใหญ่ๆของต่างประเทศ เนื่องจากเจ้าของที่ดินไม่ต่ออายุการเช่าทำปั๊มน้ำมันแต่นำที่ดินไปพัฒนาเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าและค่าใช้จ่ายในการทำปั๊มน้ำมันสูงมากจนไม่คุ้มการลงทุนจะเห็นว่าได้ในปีนี้ปั๊มคู่แข่งหลายรายในเขตกรุงเทพฯปิดตัวลง ขณะที่ปตท.เองก็มีการปิดปั๊มในปีนี้ไปแล้ว 2-3 แห่ง ซึ่งปตท.มีปั๊มน้ำมันในกรุงเทพฯและปริมณฑล 250 แห่งจากจำนวนทั้งหมด 1,300 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ในปี 2554 ปตท.จะลงทุนปั๊มน้ำมันใหม่เพิ่มเติม 20-30 แห่ง แต่ก็มีการปิดปั๊มไปบ้างทำให้จำนวนปั๊มน้ำมันไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งปตท.จะไม่มุ่งเน้นการสร้างปั๊มใหม่ แต่จะหันมาต่อยอดธุรกิจในการใช้พื้นที่ภายในปั๊มมากกว่า ซึ่งปั๊มใดมีพื้นที่มากก็จะมองโอกาสเพิ่มผลิตภัณฑ์เข้าไปเสริม อาทิ ตู้จ่ายแอลพีจี ร้านกาแฟ คาร์แคร์ ฯลฯ
ซึ่งมีผลตอบแทนดีกว่ามาร์จินน้ำมันสำเร็จรูป
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรมยื้อการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแยกก๊าซฯหน่วยที่ 6 ว่า ไม่เป็นไรหากจะล่าช้าออกไปเล็กน้อย เพราะที่ผ่านมา โรงแยกก๊าซฯหน่วยที่ 6 เปิดช้ามาเป็นปีแล้ว ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนออกใบอนุญาต แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหาเนื่องจากศาลฯมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่าไม่อยู่ใน 11 ประเภทกิจการที่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมรุนแรง มั่นใจว่าโรงแยกก๊าซฯจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปลายปีนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|