'ทีทีอาร์'นำทัพทุนไทยบุกละตินอเมริกา เล็งตั้งคลังสินค้าใน 'ปานามา'กระจายอาหารไทย


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(25 กันยายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

ทีทีอาร์ นำทัพธุรกิจไทยรุกละตินอเมริกา โดย “โอสถสภา” นำร่องเล็งลงทุนเครื่องดื่มชูกำลัง ตั้งเป้าดึงทุนไทยไปปักฐานแก้ปัญหาระยะทางขนส่ง โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร เตรียมจับมือปานามา ตั้งคลังสินค้าอาหารไทย เพื่อกระจายสินค้าไปยังอเมริกาใต้ พร้อมเร่งเปิด เอฟทีเอ กับชิลี เพื่อใช้สิทธิพิเศษทางภาษีส่งสินค้าเจาะ 'สหรัฐฯ -ละติน' ขณะที่บราซิลขนเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท ลงทุนโรงงานรถบรรทุก และอะไหล่ยนต์ในไทย

ภูมิภาคละตินอเมริกานับได้ว่าเป็นตลาดใหม่ที่สำคัญของไทย เนื่องจากมีประชากรมากกว่า 600 ล้านคน รวมทั้งยังมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆของโลกรองจากจีน และอินเดีย โดยมีบราซิล เม็กซิโก และอาร์เจนตินา เป็นประเทศที่มีขนาด GDP ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค คิดเป็นกว่าร้อยละ 72 ของ GDP อีกทั้งภูมิภาคนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมันดิบ ในประเทศเวเนซุเอลา บราซิล ชิลี อาร์เจนตินา เปรู ทองแดง ในประเทศชิลี เปรู และปานามา เหล็ก ในประเทศบราซิล ชิลี และอาร์เจนตินา ถ่านหินในประเทศโคลอมเบียและอาร์เจนตินา จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการขยายการค้าของไทย

เล็งตั้งคลังสินค้าในปานามารุกตลาดละติน

วัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการเจาะตลาดการค้าใหม่ๆเป็นอย่างมากโดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคละตินอเมริกา เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในอันดับต้นๆของโลก โดยเฉพาะประเทศบราซิล ชิลี อาเจนตินา นอกจากนี้ภูมิภาคละตินอเมริกายังมีประชากรสูงกว่า 640 ล้านคน ใกล้เคียงกับอาเซียนที่มีประชากรมากกว่า 580 ล้านคน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเป็นภูมิภาคที่มีโอกาสอย่างสูงสำหรับสินค้าไทย แต่ก็มีอุปสรรคสำคัญคือระยะทางที่ห่างไกลจากประเทศไทยมาก ทำให้มีค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการขนส่งสูง การเดินทางไปเจรจาธุรกิจแต่ละครั้งใช้เงินทุนหลายแสนบาท จึงทำให้ที่ผ่านมาการค้าระหว่าง 2 ภูมิภาคไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ดังนั้นรัฐบาลจึงมีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในภูมิภาคนี้ เช่น เข้าไปลงทุนเลี้ยงไก่ครบวงจร เพราะว่าราคาอาหารสัตว์ต่ำกว่าประเทศไทยมาก

ส่วนประเทศที่น่าจะเข้าไปลงทุนได้แก่ ในประเทศปานามา ควรเข้าไปลงทุนในธุรกิจอาหารครบวงจร ตั้งแต่การตั้งฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงงานแปรรูป ไปจนถึงร้านอาหารไทย เพราะว่าประชาการในภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่นิยมทางข้าวแบบไทย รวมทั้งยังมีแผนที่จะลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าอาหารในปานามา ซึ่งแต่ละแห่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาท โดยคลังสินค้าจะเป็นแหล่งเก็บสินค้าไทย ก่อนกระจายไปยังประเทศละตินอเมริกา ในขณะที่ประเทศบราซิลที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปี 2014 จึงเหมาะที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องปรับอากาศ ที่ผ่านมาไทยถูกเครื่องปรับอากาศจากจีนเข้ามาตีตลาดดังนั้นหากเข้าไปผลิตภายในภูมิภาคนี้ก็จะมีความได้เปรียบมากกว่าคู่แข่ง รวมทั้งยังได้สิทธิเอฟทีเอส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯในอัตราภาษีที่ต่ำ

หนุนเอฟทีเอ 'ชิลี' ติดปีกสินค้าไทยรุกอเมริกา

ทั้งนี้ไทยยังอยู่ระหว่างการเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-ชิลี ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามได้ภายในปีหน้า โดยไทยจะสามารถส่งออกสินค้าจำพวกรถกระบะ อะไหล่รถยนต์ เม็ดพลาสติก และเครื่องปรับอากาศได้มากขึ้น ไม่เพียงแต่การลงทุนด้านอุตสาหกรรมที่จะเข้าไปในภูมิภาคละตินอเมริกาเท่านั้น แต่การเข้าไปเหมืองแร่ต่างๆก็เป็นที่น่าสนใจ เนื่องจากเปรุ เม็กซิโกเป็นผู้ผลิตแร่ทองแดง และทองคำอันดับต้นๆของโลก ดังนั้นการเข้าไปร่วมลงทุนก็จะทำให้ไทยได้วัตถุดิบราคาถูกเข้าประเทศ

ขณะที่ธุรกิจบริการก็ยังเปิดกว้างสำหรับนักธุรกิจไทย โดยเฉพาะธุรกิจโรงพยาบาล โรงแรม ธุรกิจสปา โดยจะเป็นการผลักดันให้คนไทยเข้าไปร่วมตั้งธุรกิจ รวมทั้งการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย ซึ่งสำนักผู้แทนการค้าไทยจะส่งเสริมให้โรงพยาบาลไทยที่ได้มาตรฐาน JCI ที่ขณะนี้มีประมาณ 13 แห่ง ให้ออกไปลงทุน และดึงดูดผู้ป่วยในต่างประเทศ

ทุนละตินบุกไทยตั้งรง.รถบรรทุก1หมื่นล.

ส่วนการลงทุนที่คาดว่ากลุ่มประเทศละตินอเมริกาจะเข้ามาลงทุนในไทย ก็จะเป็นอุตสาหกรรมรถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ล่าสุดบริษัท Navi Star ผู้ผลิตรถบรรทุกขนาดใหญ่ในบราซิลยี่ห้อ MWM พร้อมที่จะเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตรถบรรทุกขนาด 10 ตันขึ้นไปในไทย โดยบริษัทตั้งเป้าใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถบรรทุก 2.5 หมื่นคันต่อปี มูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัท Eaton ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของบราซิล ได้ตกลงตั้งบริษัทร่วมทุนในไทย เพื่อลงทุนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และส่งขายในเอเชีย ซึ่งมูลค่าการลงทุนจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ไทยต้องนำเข้าวัตถุดิบจากบราซิล เช่น อลูมิเนียมและเหล็ก

เล็งขยายการค้า1.5ล.ดอลลาร์ใน5ปี

นอกจากนี้ประเทศไทยได้เตรียมจัดงานประชุมสัมมนา “Latin Business Forum 2010” ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นความร่วมมือของสำนักผู้แทนการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจไทย-ละติน และสถานทูตของประเทศลาตินอเมริการทั้ง 7 ประเทศที่อยู่ในไทย ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี คิวบา เม็กซิโก ปานามา และเปรู โดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะมาร่วมงานนี้ด้วย เพื่อเป็นเวทีในการเจรจาขยายการค้า การลงทุนระหว่างไทยกับลาตินอเมริกา และในงานนี้จะมีนักธุรกิจจากละตินอเมริกาเข้าร่วมประมาณ100 ราย และจากไทยประมาณ 300 ราย ทั้งนี้คาดว่าจากการสนับสนุนของภาครัฐอย่างจริงจังจะทำให้เพิ่มปริมาณการค้าจาก 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไปเป็น 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายใน 5 ปีนี้

โอสถสภาเล็งลงทุนเครื่องดื่มชูกำลังในละติน

ด้าน สมเกียรติ อนุราษฎร์ ประธานสภาธุรกิจไทย-ละติน กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะทำการค้ากับละตินอเมริกามานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาขยายตัวไม่มากเท่าที่ควรเพราะมีระยะทางไกล ดังนั้นธุรกิจที่ออกไปค้าขายจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ เช่น ปูนซิเมนต์ไทยที่ได้ส่งออกปูนเม็ดไปยังชิลี การส่งออกรถยนต์ และนำเข้าปลาแซลมอนเป็นต้น นอกจากนี้ประเทศขนาดใหญ่อย่างบราซิล อาเจนตินา และชิลี ต่างก็มองไทยและอาเซียนเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ โดยสินค้าที่เขาต้องการจากไทยมาก จะเป็นอะไหล่ยานยนต์ เนื่องจากไทยส่งออกรถยนต์ไปยังภูมิภาคนี้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องถ้วยชามเมลามีน อัญมณีและเครื่องประดับ ปลาทูน่ากระป๋อง และเครื่องนอนเป็นต้น ขณะนี้บริษัทโอสถสภาได้เตรียมเข้าไปลงทุนในธุรกิจเครื่องอื่มชูกำลังในภูมิภาคนี้

ส่วนประเทศคู่แข่งในภูมิภาคนี้ที่สำคัญจะเป็นประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเข้าไปเจาะตลาดก่อนไทยนานกว่า 16 ปีแล้ว และมีสายการบินบินตรงไปยังลาะตินเมริกา มีนักลงทุนมาเลเซียเข้าไปลงทุนในหลายกิจการ เช่น สัมปทานป่าไม้ในบราซิล เป็นต้น มียอดการค้ากว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากรัฐบาลให้การส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่าไทยจะตามทันมาเลเซียในตลาดละตินอเมริกาภายใน 3-5 ปี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.