'เบอร์เกอร์คิง' ลงทุนหนักรอบ16ปีปรับโฉมใหม่รุกเจาะคนไทยลดเสี่ยง


ASTV ผู้จัดการรายวัน(21 กันยายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เบอร์เกอร์คิง ก้าวสู่คอนเซปต์ใหม่ทั่วโลก เน้นความเป็น “ฮิป แอนด์ คูล” ไทยเตรียมลงทุนสูงสุดปี54 ขยายอีก 3 สาขา รีโนเวตสาขาเดิมทั้งหมด ชู 2 อีเว้นต์ใหญ่ หวังปรับฐานสัดส่วนลูกค้าไทยเป็น 60% จากปัจจุบันอยู่ที่ 40% มองทำธุรกิจในไทย ต้องเน้นคนไทย

นายจอห์น ไฮเน็ค รองประธาน บริษัท เบอร์เกอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปลายปีก่อนที่ผ่านมา เบอร์เกอร์คิง มีนโยบายในการปรับภาพลักษณ์ใหม่ทั่วโลก สู่ความเป็น ฮิป แอนด์ คูล ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ทั้งด้านแบรนด์อิมเมจ รูปแบบร้าน และโปรดักส์ใหม่ๆที่จะมีความสอดคล้องกันมากขึ้น หลังจากที่อยู่มานานกว่า 50 ปี ส่วนในไทยดำเนินธุรกิจมาประมาณ 15-16 ปี

สำหรับในไทยได้ทุ่มงบกว่า 50-60 ล้านบาท ขยาย 3 สาขา ในช่วง 6 เดือนที่จะถึงนี้ คือ พาราไดซ์ พาร์ค, เซ็นทรัลเวิล์ด และอีก 1 สาขาในกรุงเทพฯ รวมถึงการรีโนเวตอีก 4 สาขา เช่น สีลม พัทยา และถนนข้าวสาร เป็นต้น สู่คอนเซปต์ใหม่ดังกล่าว ภายใต้การตกแต่งรูปแบบร้านใหม่ ในแบบ ทเวนตี้-ทเวนตี้ ดีไซน์ จากปัจจุบันเบอร์เกอร์คิงมีจำนวนสาขาทั้งหมด 17 สาขา และในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีก 7 สาขา ภายในปีหน้ารีโนตเวททุกสาขา คาดว่าแล้วเสร็จภายใน 1 ปี และปี 2554 ขยายสาขาเพิ่มอย่างน้อย 3 สาขา เน้นต่างจังหวัดเป็นหลัก

“แผนการดำเนินงานของเบอร์เกอร์คิง หลังจากนี้ จะเน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยมากยิ่งขึ้น โดยมองว่าเข้ามาทำตลาดในไทย ก็ต้องเน้นลูกค้าคนไทยเป็นหลัก คาดว่าจากกลยุทธ์การตลาด จะทำให้ฐานลูกค้าคนไทยเพิ่มจาก 40% เป็น 60% ต่างชาติจาก 60% เหลือเป็น 40% “

นายจอห์น กล่าวต่อว่า ในปีหน้าถือเป็นปีที่ทางบริษัท มีการใช้งบลงทุนโดยรวมมากที่สุดตั้งแต่ดำเนินกิจการในประเทศไทยมา ทั้งในเรื่องของการรีโนเวทสาขาเดิมสู่คอนเซ็ปต์ใหม่ ซึ่งแต่ละสาขาต้องใช้งบประมาณสาขาละประมาณ 7-8 ล้านบาท และการจัดสองกิจกรรมใหญ่ รวมถึงการตลาดที่จะรุกหนักมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ไม่ได้เข้ามาเน้นทำตลาดอย่างจริงจังราว 3 ปีที่ผ่านมา

ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญใหญ่ และเปิดตัวสินค้าใหม่ เบอร์เกอร์ คิง แองกรี้ วอปเปอร์ กับเบอร์เกอร์หน้าพริกสด วางจำหน่าย 2 ขนาด คือ ราคา 69 บาท เฉพาะสาขาในเมือง และ 109 บาท ในสาขาต่างจังหวัด วางจำหน่ายเป็นระยะเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.นี้เป็นต้นไป คาดว่าจะส่งผลให้มียอดขายสูงขึ้นจากปกติอีก 15% ซึ่งแคมเปญนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นของการกลับมามาสร้างแบรนด์ของเบอร์เกอร์คิงอีกครั้ง


อย่างไรก็ตามภาพรวมรายได้ปีนี้ เชื่อว่าจะยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาพบว่าตัวเลขการเติบโตอยู่ที่ 2 หลัก ขึ้นไป แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะได้รับกระทบบ้างเล็กน้อย จากปัญหาการเมือง สำหรับในปีหน้าเชื่อว่าจากการรุกตลาดมากขึ้น ยอดขายก็น่าจะสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.