ระเบิดเขย่าขวัญตลาดไมซ์สั่น อัด 50 ล.กรุยทางเวิลด์เอ็กซ์โป


ASTV ผู้จัดการรายวัน(14 กันยายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

สสปน. ยอมรับ เหตุระเบิดป่วนเมืองรายวัน กระทบ นักท่องเที่ยวตลาดไมซ์ สะท้อนการเมืองไทยยังไม่นิ่งจริง หวั่นเกิดการชุมนุมซ้ำรอยที่ผ่านมา ยัน ณ วันนี้ ยอดนักท่องเที่ยวไมซ์ ยังตามเป้าหมาย 6.3 แสนคน รายได้ 4.55 หมื่นล้านบาท ด้าน ความคืบหน้าเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 เตรียมโหมประชาสัมพันธ์ความความเข้าใจกับประชาชน และ ศึกษาเชิงลึก ใน 3 พื้นที่ ผ่านงบ 50 ล้านบาท ต.ค.นี้ คุยเนื้อหอม เอกชนตอบขอเป็นผู้สนับสนุน

นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(สสปน.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวการลอบวางระเบิดในสถานที่สำคัญหลายแห่งทั่วกรุงเทพฯ ยอมรับว่า มีผลกระทบต่อธุรกิจการจัดประชุม สัมมนา นิทรรศกาล และ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ ไมซ์ อย่างแน่นอน เพราะ สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยยังไม่นิ่งและปลอดภัยเพียงพอที่นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ จะตัดสินใจเดินทางเข้ามา นอกจากนั้นกระแสข่าว ที่จะมีการนัดชุมนุม ของกลุ่มต่างๆทางการเมือง ยังถือเป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะ ไม่มีใครยืนยันได้ว่า จะเกิดเป็นความรุนแรงเหมือนอย่างที่ผ่านมาอีกหรือไม่ แต่หากรัฐบาลสามารถสร้างความั่นใจและพิสูจน์ ได้ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยให้มีกาชุมนุมอย่างสงบ ไม่มีการปิดถนน ดุแลความปลอดภันในการเข้าออกสถานที่สำคัญต่างๆ ความกังวลใจของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจในกลุ่มไมซ์ก็จะลดลง

"ยอมรับว่า จากข่าวการลอบวางระเบิดในสถานที่สำคัญของประเทสไทย การยิง เอ็ม 79 ไปลงยังสถานที่ราชการต่างๆ สื่อต่างชาติเริ่มรายงานข่าวเหตุการณ์เหล่านั้นออกไปยังต่างประเทศแล้ว และก็มีนักธุรกิจชาวต่างชาติ ได้โทรศัพท์ และ อีเมลล์ มาสอบถามสถานการณ์ที่ สสปน.ด้วย ซึ่งทางเราก็พยายามให้ข้อมูลที่เป็นจริงมากที่สุด พร้อมมอบหมายให้ตัวแทน สสปน.ในต่างประเทศ ช่วยให้ข้อมูลและอธิบายตามความเป็นจริง ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ในพื้นที่เฉพาะเท่านั้น"

อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้ สสปน. ยังขอยืนยันเป้าหมายนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ ปีนี้ 628,653 คน สร้างรายได้ 45,560 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา เพราะการยืนยันจัดงานไมซ์ในไทยช่วงที่เหลือของปี ยังมีจำนวนน่าพอใจ เพียงแต่งานส่วนใหญ่ ยังไม่ยืนยันตัวเลขผู้ร่วมงานที่แน่นอน

นายอรรคพล กล่าว อีกว่า ในส่วนของแผนการเสนอประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 สสปน. มีแผนประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนคนไทย เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมหากไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ล่าสุด คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท ให้ สสปน. ใช้ศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้การเป็นเจ้าภาพจัดงานโดยศึกษาในเชิงลึก ส่วนพื้นที่ที่คัดเลือกไว้ 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ อยุธยา และ ชลบุรี คาดว่าจะใช้เวลาศึกษารายละเอียดเชิงลึก รวม 120 วัน ประเด็นที่จะศึกษา ได้แก่ ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ การใช้เงินลงทุน การใช้พื้นที่ภายหลังเสร็จการจัดงาน ผลตอบแทนจากการจัดงาน โดยข้อมูลทั้งหมดจะนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอีกครั้งในเดือน ก.พ. 54 จากนั้นจะเปิดให้เอกชน เข้ามาร่วมสนับสนุน ในการประชาสัมพันธ์ การจัดงาน ซึ่งขณะนี้ก็มีเอกชนหลายรายที่สนใจติดต่อขอสนับสนุนเข้ามาบ้างแล้ว

เบื้องต้น การลงทุน ของ 3 พื้นที่ ที่สำคัฐ ได้แก่ อยุธยา จะต้องลงทุนระบบชลประทาน แก้ปัญหาน้ำท่วม , ชลบุรี ต้อง มีแนวคิดการจัดงานให้ชัดเจน เพราะนักท่องเที่จยวจะติดภาพของเมืองพัทยา รวมถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำ ส่วนเชียงใหม่ ต้องพิจารณาในเรื่องของระบบคมนาคมความเร็วสูง เป็นต้น ทั้งนี้เบื้องต้น ยังมั่นใจว่าประเทศไทย เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของประเทศที่ต้องการเข้ามาประมู,สิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 เพราะมีทำเลที่ตั้งที่ดี เป็นศูนย์กลางของอาเซียน แต่ในระยะสั้นยอมรับว่าการเมือง เป็นอุปสรรคสำคัญ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.