"ในอดีตแมคอินทอชมีจุดด้อยในเรื่องของโปรแกรมสำหรับธุรกิจ แต่ในปีนี้เราได้มีการพัฒนา
DATA BASE โปรแกรม FILE MAKER PRO ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีชื่อเสียงมาก โดยร่วมมือกับ
CLARIS พัฒนาเป็นโปรแกรมภาษาไทยฉบับสมบูรณ์ และจะออกมาแสดงในงาน APPLE WORLD'97
นี้เป็นครั้งแรก" นภดล เลิศอัศววิวัฒน์ DEPUTY EXECUTIVE DIRECTOR IT
TERMINAL PRODUCTS แห่งสหวิริยาซิสเท็ม กล่าวถึงหนึ่งใน HIGH LIGHT ของงาน
APPLE WORLD'97 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 37 ก.พ.-1 มี.ค. นี้ ณ โรงแรมสยามอินเตอร์คอนติเนนดัล
กรุงเทพฯ
ซึ่งโปรแกรม FILE MAKER PRO นี้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง
และสามารถใช้ได้สะดวกและง่าย ทั้งนี้เขาคิดว่าโปรแกรมนี้น่าจะเป็นจุดเด่นหนึ่งของงานด้วย
นอกจากนี้ทางด้านของการศึกษา สหวิริยาฯ ก็ได้นำโปรแกรม LET'S GO ซึ่งเป็น
CD-ROM สำหรับสอนภาษาอังกฤษระดับชั้นประถมศึกษาที่โด่งดังของ OXFORD มาแสดงด้วย
ซึ่งรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษผ่านคอมพิวเตอร์และได้มีหลายโรงเรียนำไปใช้แล้ว
การที่ตลาดของเครื่องแมคอินทอชส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจการพิมพ์เป็นหลัก
ทางบริษัทฯจึงต้องมีการพัฒนาโปรแกรมต่างๆ ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทฯก็ได้พัฒนาโปรแกรมเช็กคำผิด
และการตัดคำที่ดีขึ้นเป็นของขวัญปีใหม่แก่ลูกค้า
นอกจากการนำเสนอ SOLUTION ใหม่ๆ บนเทคโนโลยีของ APPLE MACINTOSH เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจและการศึกษาแล้ว
ในงานยังมีเวทีสำหรับแสดงผลิตภัณฑ์ และประสิทธิภาพความก้าวหน้าของ APPLE
TECHNOLOGY รวมถึงการจัดสัมมนาให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจทั้งในด้าน
INTERNET, MULTIMEDIA EDUCATION, BUSINESS และ ENTERTAINMENT
"สำหรับงาน APPLE WORLD ในปีนี้จะเน้นบทบาทของคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษามากกว่าปีที่ผ่านๆ
มาดังนั้นกลุ่มเป้าหมายของเราก็คือ กลุ่มลูกค่าใหม่ที่ยังไม่เคยใช้เครื่องแมคอินทอช
ซึ่งรวมไปถึงนักศึกษาและคนทำงานในทุกระดับด้วย" ผู้บริหารหนุ่มกล่าว
พร้อมกันนั้นเขาเผยถึงผลิตภัณฑ์แมคอินทอชรุ่นใหม่ๆ ที่นำมาแสดงในงานนี้ด้วย
ได้แก่เครื่อง PERFORMA 6400, POWER BOOK 1400, POWER MAC 8500/180, POWER
MAC 9500/200 และ POWER MAC 9500/180 MP เป็นต้น รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ด้วย
นภดล เปิดเผยว่า APPLE SERIES 9500 ที่ปรากฏอยู่ในงานนี้ไม่ว่าจะเป็น POWER
MAC 9500/200 ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่มีความเร็วที่สุดในปัจจุบันคือ 200
MHz หรือ POWER MAC 9500/180 MP เป็นเครื่องที่เป็น MULTI PROCESSOR คือมี
2 CPU อยู่ในเครื่องเดียวกัน จะทำหน้าที่ช่วยกันทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและเร็วมากขึ้น
ถือได้ว่าเป็นสุดยอดของเทคโนโลยีที่นำมาแสดงในปีนี้
ในส่วนของยอดขายเครื่องแมคอินทอชในปี 2539 ที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 600
ล้านบาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณ 70% อยู่ในธุรกิจการพิมพ์ 15% เป็นวงการการศึกษา
และที่เหลือเป็นอื่นๆ สำหรับ GROWTH RATE ที่ทางบริษัทฯตั้งไว้นั้นจะใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมธุรกิจโทรคมนาคม
ซึ่งปีนี้สหวิริยาฯ ได้ตั้งไว้ที่ประมาณ 20%
"เราคิดว่าตลาดแมคอินทอชในปี'40 คงจะไม่หวือหวามากนักหากเทียบกับปีที่ผ่านมา
แต่เราก็ยังมองในแง่ดีว่า ตลาดในปีนี้ วงการการศึกษาก็จะเป็นตลาดที่น่าสนใจอยู่
ในขณะที่ธุรกิจของเอกชนอาจจะลดลงบ้าง เนื่องจากมีการรัดเข็มขัดแต่อย่างไรก็ดีก็ยังมีองค์กรเปิดใหม่ที่ต้องใช้ผลิตหภัณฑ์ทางด้าน
IT อีกมาก ดังนั้นการเติบโตของเราก็คงไม่ห่างจาก INDUSTRIAL GROWTH มากนัก"
นพดลแสดงความคิดเห็น
นอกจากนี้เขายังเผยถึงแผนการขยายตลาดแมคอินทอชอีกด้วยว่า ในปีนี้บริษัทฯ
จะรุกทุกๆ ด้านไม่ใช่เฉพาะการพัฒนา SOLUTION ใหม่ๆ เพียงด้านเดียว แต่ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการหาช่องทางในการจำหน่ายมากขึ้น
โดยในปีนี้สหวิริยาฯ จะเน้นดีลเลอร์ที่มีความชำนาญในการจำหน่ายคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรการศึกษาและองค์กรธุรกิจให้มากขึ้น
"การแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในปีนี้ เราต้องการสื่อให้ผู้ที่ใช้เครื่องแมคอินทอช
รวมทั้งผู้ที่ใช้เครื่อง PC ในปัจจุบันทราบว่า APPLE ยังเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน
HARDWARE และ SOFTWARE อยู่ นอกจากนั้นเราก็ยังพัฒนาหา SOLUTION ใหม่ๆ ให้ครบทุกด้าน
ไม่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจุดแข็งของสหวิริยาก็คือ การที่เรามีทีมงานที่สามารถพัฒนาภาษาไทยได้เอง"
ผู้บริหารหนุ่มกล่าวอย่างภูมิใจ