เดอะมอลล์รักษาฐานสมาชิก ลอนช์แคมเปญซูเปอร์เอ็มเพาเวอร์


ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(9 กันยายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เดอะมอลล์ ส่งแคมเปญ มอบสิทธิประโยชน์แก่สมาชิก M Card หลัง ค่ายเซ็นทรัล ผนึกบัตรสปอต รีวอร์ด การ์ด เข้ากับ เดอะวันการ์ด

หลังจากค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างค่ายเซ็นทรัล และเดอะมอลล์เปิดศึกบัตรสมาชิก ชิงลอยัลตี้กันมาหลายปี โดยค่ายเซ็นทรัล มีบัตรสมาชิกสปอต รีวอร์ด การ์ด ใช้ในท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งแยกออกจากบัตร เดอะวันการ์ด ที่ใช้ในบียูต่างๆ ในเครือเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น ส่วนเดอะมอลล์มีการออกบัตรเพรสทีจ การ์ด และแพลทินัม การ์ด โดยให้ส่วนลดแก่สมาชิก 5% สำหรับการซื้อในเดอะมอลล์ พารากอน และเอ็มโพเรียม แต่มีการยกเว้นสำหรับสินค้าบางแผนก การที่ลูกค้าได้รับส่วนลดทันทีโดยไม่มีข้อผูกมัดว่าจะต้องกลับมาซื้อซ้ำ ส่งผลให้สมาชิกส่วนหนึ่งกลับมาเมื่อมีโปรโมชั่นเท่านั้น ในขณะที่สมาชิกเดอะวัน การ์ด จะต้องชอปต่อเนื่องเพื่อสะสมแต้มให้ได้ตามเกณฑ์เพื่อนำมาแลกคูปองเงินสดอีกที

ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา เดอะมอลล์มีการปรับรูปแบบบัตรสมาชิกแบบใหม่ภายใต้ชื่อ M Card ซึ่งสมาชิกจากเพรสทีจ และแพลทินัมยังคงได้ส่วนลด ขณะที่สมาชิกใหม่จะได้สิทธิประโยชน์จากการสะสมแต้มเพื่อแลกคูปองเงินสด ซึ่งเงื่อนไขการสะสมแต้มไม่ต่างจากเดอะวันการ์ด ของค่ายเซ็นทรัล นอกจานี้เอ็มการ์ดยังผูกสิทธิประโยชน์ร่วมกับโฮม เฟรช มาร์ท โดยมีราคาพิเศษสำหรับสมาชิก ทำให้บัตรเอ็มการ์ดใช้ได้ครบทั้งดีพาร์ตเมนต์สโตร์และซูเปอร์มาร์เกต

แต่เนื่องจากเดอะมอลล์เริ่มสะสมแต้มหลังเดอะวันการ์ด ทำให้การที่ลูกค้าจะสะสมแต้มจนครบเงื่อนไขต้องใช้เวลานาน ดังนั้น เดอะมอลล์จึงมีการทำแคมเปญ เบิร์นพ้อยนต์ โดยสมาชิกเอ็มการ์ดที่มีแต้มสะสมตั้งแต่ 50 แต้มขึ้นไปก็สามารถใช้แต้มดังกล่าวแลกกับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ ประกอบกับบัตรสมาชิกเอ็มการ์ดสามารถใช้ได้ทั้งในดีพาร์ตเมนต์สโตร์และซูเปอร์มาร์เกต ทำให้มีความได้เปรียบเหนือบัตรสมาชิกของค่ายเซ็นทรัล แต่ก็มีจุดด้อยกว่าตรงจำนวนสาขาที่น้อยกว่า ทำให้เดอะมอลล์ผนึกพันธมิตรนอกห้างเพื่อมอบสิทธิพิเศษแก่สมาชิก เช่น โรงแรม ภัตตาคาร ซึ่งบัตรเดอะวันการ์ดก็มีการโคโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรนอกห้างเช่นกัน

ล่าสุด เซ็นทรัล ทวงคืนบัลลังก์ผู้นำ CRM แห่งวงการค้าปลีกด้วยการรวมบัตร สปอต รีวอร์ด การ์ด และบัตรเดอะวันการ์ด เข้าด้วยกันพร้อมเปลี่ยนชื่อบัตรเป็น สปอต เดอะวันการ์ด โดยยังคงสิทธิประโยชน์เดิมของทั้งสองบัตร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสิทธิพิเศษเพื่อ Cross Target ระหว่างสมาชิกเดิมของบัตรทั้งสองใบ เช่น 900 คะแนนของเดอะวันการ์ด สามารถนำไปแลกเป็นคูปองแทนเงินสด สปอต มันนี่ แบค มูลค่า 100 บาท ส่วน 1,300 สปอต มันนี่ แบค สามารถนำไปแลกคูปองเงินสด เดอะวันการ์ด มูลค่า 100 บาท ซึ่งจะทำให้ฐานสมาชิกของท็อปส์ หันไปใช้บริการในบียูอื่นๆ ของเซ็นทรัล มากขึ้น เช่นเดียวกับสมาชิกเดอะวันการ์ด ที่จะชอปปิ้งในท็อปส์มากกว่าจะไปชอปปิ้งในซูเปอร์มาร์เกตของคู่แข่ง

ปัจจุบัน บัตรสปอต รีวอร์ด การ์ด ที่มีฐานสมาชิกกว่า 4.5 ล้านราย ส่วนบัตรเดอะวันการ์ดที่มีฐานสมาชิกกว่า 2.7 ล้านราย รวมแล้วมีสมาชิกกว่า 7.2 ล้านราย ทว่ามีสมาชิกที่ถือบัตรทั้งสองใบทับซ้อนกัน 700,000 คน สะท้อนให้เห็นว่าสมาชิกของบัตรทั้งสองที่เหลืออีกกว่า 6.5 ล้านราย ไม่ได้ชอปปิ้งในเครือเซ็นทรัลทั้งหมด บางคนซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เกตของท็อปส์ แต่ชอปปิ้งในดีพาร์ตเมนต์สโตร์ของคู่แข่ง บางคนชอปปิ้งดีพาร์ตเมนต์สโตร์ในเครือเซ็นทรัล แต่ชอปปิ้งซูเปอร์มาร์เกตของคู่แข่ง การรวมบัตรเป็น สปอต เดอะวันการ์ด ก็เพื่อหวังดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้แต่บริการในเครือเซ็นทรัลเท่านั้น

ดังนั้นเพื่อรักษาฐานลูกค้าให้คงอยู่ เดอะมอลล์จึงมีการทำแคมเปญ ซูเปอร์ เอ็ม เพาเวอร์ โดยทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท พร้อมฉลองครบรอบ 1 ปี บัตรสมาชิกเอ็มการ์ดระหว่างวันที่ 25 สิงหาคมถึง 5 กันยายน ศกนี้ โดยลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรสมาชิก M Card คู่กับบัตรเครดิต Citi M Visa สามารถรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 23% ตลอดจนการรับคะแนนสะสม 40 เท่าสำหรับทั้งสองบัตร รวมถึงการร่วมลุ้นรับคะแนนสะสมเมื่อซื้อสินค้ารวมกว่า 4 ล้านคะแนน และยังเปิดโอกาสให้ลูกค้านำคะแนนสะสมที่มีอยู่มาแลกซื้อสินค้า เช่นแลกซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ รุ่น 2.0 GT ด้วยคะแนน 6.39 ล้านคะแนน หรือใช้คะแนน 390,000 คะแนน และเงินสดจำนวน 750,000 บาท มาแลกซื้อ ปัจจุบันสมาชิกเอ็มการ์ดที่มีแต้มสะสมมากกว่า 1 ล้านแต้ม มีประมาณ 30-40 ราย ทั้งนี้ คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะกระตุ้นยอดขายได้ 1,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการสร้างแวลูให้กับบัตรสมาชิกเอ็มการ์ด เช่น M Price ราคาสำหรับสมาชิก M Super Point เป็นการมอบแต้มพิเศษให้กับสมาชิก ซึ่งจะทำให้การจับจ่ายแต่ละครั้งได้แต้มสะสมมากกว่าปรกติ ปัจจุบัน M Card มีสมาชิกทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน โดยสมาชิกมียอดการใช้จ่ายต่อบิลที่เพิ่มขึ้น จากปรกติ 1,500 บาท ต่อการ์ดต่อเดือน เพิ่มเป็น 2,000 บาทต่อเดือน ส่วนความถี่ในการมาใช้บริการอยู่ที่ 3-4 ครั้งต่อเดือน ขณะที่สัดส่วนรายได้บริษัทมาจากสมาชิกมากถึง 80% สำหรับสัดส่วนสมาชิกที่แอกทีฟเพิ่มจาก 60% เป็น 70% ซึ่งบริษัทคาดว่าใน 2-3 ปีจะเพิ่มเป็น 90% และจำนวนสมาชิกจะเพิ่มเป็น 2 ล้านรายในช่วงกลางปีหน้า


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.