“อากู๋” ถ่ายเลือดรับเทคโนโลยี ลั่นปีหน้าทุ่มหนักสุดรอบ 10 ปี


ASTV ผู้จัดการรายวัน(7 กันยายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

“อากู๋” เผยปีหน้า จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ เดินสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ โหมเม็ดเงินลงทุนมากสุดรอบ 10 ปี สู่ธุรกิจใหม่รับเทคโนโลยีเปลี่ยน พร้อมถ่ายเลือดเก่าสู่คนรุ่นใหม่มากขึ้น ชูธง “นิวเจเนอเรชัน นิวบิสซิเนสโมเดล”

นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานที่ปรึกษา บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ มีแผนที่จะลงทุนธุรกิจด้วยงบประมาณที่สูงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว เนื่องจากมองว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาในทิศทางที่ดีแล้ว อีกทั้งการลงทุนดังกล่าวยังเป็นการรองรับกับการขยายตัวของเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ในการก้าวเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงแบบครบวงจรอีกด้วย

โดยแนวทางการลงทุนนั้นจะเป็นการลงทุนทั้งด้านเทคโนโลยีและเครือข่ายต่างๆ รวมทั้งการแสวงหาพันธมิตรเข้ามาร่วมมือกันมากขึ้นด้วย ทั้งพันธมิตรด้านเงินทุน ด้านเทคโนโลยี และด้านคอนเทนต์ รวมทั้งด้านการตลาดด้วย เพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงจากนี้ไป

อีกทั้งการลงทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นมารองรับกับเทคโนโลยีใหม่ที่ก้าวเข้ามาสู่ชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ 3จี ระบบดิจิตอล ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี นิวมีเดีย หรือระบบต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่กับการลงทุนเพื่อการขยายตัวของธุรกิจเดิม เช่น โชว์บิส มิวสิค เป็นต้น

นอกจากนั้นแล้ว บริษัทจะทำการปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ โดยจะมีการถ่ายเลือดจากคนรุ่นเก่าไปสู่คนรุ่นใหม่มากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสในการเติบโตก้าวขึ้นสู่ระดับบริหารมากขึ้น ทั้งคนรุ่นใหม่จากคนในองค์กรเอง และมีการรับสมัครเข้ามาใหม่ด้วยจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการแล้ว

“ปีหน้าจะเป็นปีแห่งนิวเจเนอเรชัน นิวบิสซิเนสโมเดลของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ (New Generaton New Business Model) ที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านการมีรุ่นใหม่เข้ามาบริหารมากขึ้นและการลงทุนที่มากขึ้นด้วย” นายไพบูลย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับธุรกิจทีวีดาวเทียม หรือแซทเทิลไลต์ทีวี (Sattellite TV) ก็จะยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยจะมีการเพิ่มช่องทีวีดาวเทียมใหม่อีกด้วยหลายช่องตามความต้องการของตลาด คาดว่า จะมีอีก 5 ช่อง หรือรวมเป็น 10 ช่อง จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 5 ช่อง ที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีพอสมควร และทุกช่องก็ล้วนอยู่ในภาวะที่คืนทุนหรือใกล้คืนทุนแล้ว

“จานดาวเทียม หรือแซทเทิลไลต์ทีวี จะมีแนวโน้มในการเติบโตมากยิ่งขึ้น เพราะว่าความนิยมเริ่มมีมากขึ้น และเป็นสื่อทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค ส่วนเจ้าของสินค้าเองก็อยากลงโฆษณาเพราะว่าต้นทุนต่ำ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตั้งจานดาวเทียมมากกว่า 3 ล้านจานต่อปีแล้ว” นายไพบูลย์ กล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.