|
สิงคโปร์ เศรษฐกิจเล็กพริกขี้หนู
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กันยายน 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ด้วยพื้นที่เพียง 267 ตารางไมล์ หรือเล็กกว่านครนิวยอร์ก (301 ตารางไมล์) สิงคโปร์จึงเป็นเพียงนครรัฐ (city state) เล็กจิ๋ว แต่เป็นเล็กพริกขี้หนู เพราะมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างร้อนแรงที่สุดในโลก เพียงครึ่งปีแรกของปีนี้ประเทศเล็กๆ ในเอเชียแห่งนี้เติบโต ถึง 18.1% มากกว่าทั้งจีน อินเดีย และบราซิลอย่างไม่เห็นฝุ่น
แม้ว่าการเติบโตของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กจิ๋วหลิว อย่างสิงคโปร์ จะเทียบไม่ได้เลยกับประเทศยักษ์ใหญ่ทั้งสามข้างต้น แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่สิงคโปร์สามารถต้านเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ทั่วโลกได้ และดูเหมือนว่าจะสามารถรักษาการเติบโตอย่างร้อนแรงเช่นนี้ต่อไปได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ทั้งๆ ที่ชาติตะวันตกยังคงเผชิญกับสภาพที่เหมือนกับ aftershock หลังวิกฤติ เศรษฐกิจอยู่ Goldman Sachs ประเมินว่า GDP ของสิงคโปร์ในปีนี้คงจะอยู่ที่ 16.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขที่เคยประเมินไว้ก่อน หน้านี้ที่ 12%
อะไรทำให้สิงคโปร์เติบโตอย่างพรวดพราดในปีนี้ รัฐบาลสิงคโปร์เพิ่งผ่อนคลายการห้ามเรื่องการพนัน และอนุญาตให้สร้าง รีสอร์ตกาสิโน 2 แห่ง ซึ่งไม่ใช่มีเพียงบ่อนกาสิโน หากแต่มีพร้อม ทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้าและภัตตาคารหรูหรา รวมถึงสวนสนุก Universal Studios กาสิโนแห่งแรกเปิดตัวในเดือนมกราคมปีนี้ ตามด้วยแห่งที่สองในเดือนเมษายน การทุ่มทุนมหาศาลถึง 10,200 ล้าน ดอลลาร์ ในการสร้างกาสิโนทั้งสองแห่ง กำลังให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดแก่สิงคโปร์ โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้แล้ว มากกว่า 3 ล้านคนนับถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
สาเหตุที่ทำให้สิงคโปร์เติบโตอย่างร้อนแรง ยังเป็นเพราะความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมยา และการที่สถาบันการเงินระดับโลกย้ายมาตั้งสำนักงานที่สิงคโปร์มากขึ้นในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 15% จากข้อมูลของรัฐบาลสิงคโปร์
แม้กระทั่งความต้องการซื้อของผู้บริโภคในสหรัฐฯ และยุโรปที่ซบเซา ก็ยังไม่อาจทำอะไรสิงคโปร์ได้ รายงานล่าสุดเกี่ยวกับสิงคโปร์ของ Goldman Sachs ชี้ว่า ขณะนี้แรงงานสิงคโปร์มีงานทำเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งกลายเป็นกำลังสนับสนุนอันแข็ง แกร่งที่สุด ที่ค้ำจุนเศรษฐกิจของสิงคโปร์ไว้ ทั้งๆ ที่ต้องเผชิญปัญหาความต้องการจากต่างประเทศตกต่ำ นายกรัฐมนตรี Lee Hsien Loong ของสิงคโปร์คาดว่า สิงคโปร์อาจต้องนำเข้าคนงาน ต่างด้าวเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 100,000 คนในปีนี้
อย่างไรก็ตาม Christian Ketels นักวิจัยอาวุโสจาก Harvard Business School และที่ปรึกษาพิเศษสถาบัน Asia Competitiveness Institute ชี้ว่า ตัวเลขการเติบโตที่สูงของสิงคโปร์ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ สิงคโปร์เป็นประเทศหนึ่งในเอเชียที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤติเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกครั้งล่าสุด ในปี 2009 เศรษฐกิจสิงคโปร์ติดลบถึง 2.1% ดังนั้น เมื่อกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ตัวเลขการเติบโตจึงดูสูงมาก
แต่เศรษฐกิจสิงคโปร์อาจชะลอตัวลงในปีหน้า เมื่อการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าของเศรษฐกิจโลก จะส่งผลกระทบต่อประเทศ เล็กๆ อย่างสิงคโปร์ ซึ่งต้องพึ่งพาการค้ากับประเทศใหญ่ๆ อย่าง สหรัฐฯ และยุโรป คาดว่า ความต้องการซื้อในประเทศใหญ่ๆ จะ ยังคงซบเซาต่อไปอีกนานหลายปี ส่วนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสิงคโปร์กับจีน เป็นการที่ผู้ส่งออกของสิงคโปร์ ส่งออกสินค้าไป reprocess ใหม่ยังจีน เพื่อจะส่งออกไปยังสหรัฐฯ กับยุโรปต่อไป ดังนั้น ความต้องการที่ซบเซาในชาติตะวันตกในปีหน้า จะยิ่งส่งผลกระทบกับสิงคโปร์ 2 ต่อ
อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์มีสิ่งที่สามารถชดเชยผลกระทบจาก เศรษฐกิจโลกได้ ประการแรก สิงคโปร์กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของ private banking แทนชาติยุโรปตะวันตก ผลสำรวจเกี่ยวกับ ธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ส่วนบุคคล หรือ private banking ปี 2010 ของ McKinsey พบว่า ในปีที่แล้ว เงินที่ไหลเข้าลักเซม เบิร์กลดลง 5% และลดลง 1% ในสวิตเซอร์แลนด์ แต่เงินที่ไหลเข้า สิงคโปร์กับฮ่องกงกลับเพิ่มขึ้น 7% ในปีเดียวกัน ปีที่แล้ว สิงคโปร์ ยังได้รับการถอดชื่อออกจาก “บัญชีเทา” ของ OECD ในยุโรป ซึ่งเป็นรายชื่อประเทศที่ยุโรประบุว่า ไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ
และสุดท้าย สิงคโปร์ยังสร้างฐานลูกค้า private banking ของตัวเอง โดยมีครัวเรือนสิงคโปร์มากถึง 11.4% ที่เป็นเศรษฐีเงินล้าน ซึ่งนับว่าสิงคโปร์เป็นประเทศมีจำนวนเศรษฐีเงินล้าน ในสัดส่วนที่มากที่สุดในโลก
นักวิเคราะห์ประเมินว่า GDP ของสิงคโปร์ในปี 2011 จะเติบโตระหว่าง 4.4-5.3% แต่การเติบโตที่ลดความร้อนแรงลงจากปี 2010 กลับจะเป็นผลดีต่อสิงคโปร์ไปเสียอีก เพราะการเติบโตอย่างรวดเร็วก็มีความเสี่ยง สิงคโปร์เคยคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2-3% ในปีนี้ แต่เงินเฟ้อจริงกลับสูงกว่านั้นโดยอยู่ที่ 2.5-3.5%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|