|
อินเทลซื้อแมคคาฟี่ ขายแบบบุฟเฟต์แทนขายเดี่ยว
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(30 สิงหาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ใครๆ ก็รู้ว่าอินเทลเป็นกิจการที่ยึดเกาะและผูกติดอย่างเหนียวแน่นกับการจำหน่ายชิปเพื่อใช้เป็นโปรเซสเซอร์คุณภาพสูงบนคอมพิวเตอร์พีซีมานานแสนนาน และไม่เคยมีท่าทีมาก่อนว่าจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจไปจากการผลิตและจำหน่ายชิป
แต่เมื่อไม่นานมานี้ อินเทลได้ประกาศการซื้อกิจการบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยของการใช้อินเทอร์เน็ต หรือระบบซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ชื่อบริษัท แมคคาฟี่ (McAfee) ด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 7,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้การซื้อกิจการคราวนี้เป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไม่เคยมีมาก่อน
การตัดสินใจครั้งนี้ของอินเทลแสดงชัดว่านโยบายการดำเนินธุรกิจของอินเทลกำลังจะขยายออกไปจากตลาดลูกค้าที่ใช้เฉพาะคอมพิวเตอร์พีซี ไปสู่ตลาดของโมบายและไวร์เลส ที่เชื่อมโยงการทำงานบนเว็บผ่านอุปกรณ์อย่างอื่น
การตัดสินใจใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาลของอินเทล เพื่อให้ได้บริษัท แมคคาฟี่เข้ามาอยู่ในพอร์ตการลงทุนของอินเทล ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอนาคตของอินเทลมากมาย ประการแรก การซื้อกิจการของบริษัท แมคคาฟี่ ทำให้อินเทลได้เข้าถึงฐานข้อมูลของลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งเพิ่มขึ้น และฐานลูกค้าที่ได้มาเพิ่มขึ้นนี้น่าจะทำให้อินเทลมีความพร้อมในการแข่งขันทางการตลาดกับคู่แข่งขันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกิจการที่เป็นผู้ออกแบบเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มพลังให้กับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์พีซี และโทรทัศน์ที่มีบทบาทในการตลาดแบบตอบโต้ไปมามากขึ้น
ประการที่สอง อินเทลกำลังจะเข้าไปจับตลาดสำคัญอีกตลาดหนึ่ง คือ ตลาดของการให้บริการซอฟต์แวร์ที่จะตรวจจับและรักษาความปลอดภัยของการติดต่อและการดาวน์โหลดข้อมูลผ่านทางเว็บบนโลกออนไลน์ ซึ่งบริการซอฟต์แวร์ประเภทนี้ นับวันจะมีความสำคัญมากขึ้นและต้องการคุณภาพของการตรวจจับและการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ที่มีประสิทธิผลมากขึ้น
นอกจากนั้น ตลาดของการจำหน่ายซอฟต์แวร์เพื่อการตรวจจับและรักษาความปลอดภัยของการใช้งานผ่านโลกออนไลน์นี้ เป็นตลาดที่มีความสามารถในการทำกำไรให้แก่กิจการในอัตราที่สูง เมื่อนำเอาซอฟต์แวร์ในส่วนนี้มาทำงานร่วมกับโครงสร้างสินค้าของอินเทลเองในส่วนของไมโครโปรเซสเซอร์แล้ว ย่อมจะมีโอกาสทำให้อินเทลมีมูลค่าเพิ่มทั้งกับฐานลูกค้าดั้งเดิมของตนเอง และกับลูกค้าที่เป็นฐานการตลาดของแมคคาฟี่ด้วย
ประการที่สาม ส่วนที่อินเทลต้องนำมาพัฒนาและต่อยอดทางธุรกิจ หลังจากการครอบครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าของแมคคาฟี่แล้ว คือการเพิ่มมูลค่าให้กับพอร์ตที่รวมกันแล้ว ด้วยการหาทางจัดตำแหน่งทางการตลาดของสินค้าใหม่ ให้เป็นแบบบุฟเฟต์ให้กับสินค้าที่เป็นซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยของแมคคาฟี่ จากระดับปัจจุบันไปสู่ระดับสูงและทำการสร้างความแตกต่างของแบรนด์ เพื่อนำไปสู่การตั้งราคาที่แตกต่าง ซึ่งจะทำให้แมคคาฟี่พร้อมที่จะเผชิญหน้าด้านการแข่งขันได้อย่างมั่นใจขึ้นกว่าเดิม
ประการที่สี่ การทำความตกลงซื้อกิจการระหว่างอินเทลกับแมคคาฟี่ ไม่ได้เป็นเรื่องนอกลู่นอกทางแม้แต่น้อย เพราะการทำความตกลงร่วมมือกันทางธุรกิจในลักษณะของการจับมือพันธมิตรแบบนี้ กำลังเป็นกระแสของการเคลื่อนไหวของตลาดส่วนนี้ในปัจจุบัน
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ยักษ์ใหญ่วงการคอมพิวเตอร์อย่างบริษัทเดลล์ ได้เข้าไปซื้อกิจการบริษัทที่ทำหน้าที่บริหารจัดการการเก็บดาต้าชื่อ 3PAR เป็นเงินถึง 1,300 ล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่าการรวมกิจการกันระหว่างธุรกิจ น่าจะยังเป็นหนทางหนึ่งที่กิจการด้านเทคโนโลยีเชื่อว่าจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกิจการได้
นอกจากนั้น ยังมีกระแสข่าวในตลาดตอนนี้ว่า เอชพีอาจสามารถทำความตกลงร่วมมือกันทางธุรกิจกับออราเคิล เพื่อการเชื่อมโยงฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ในอนาคตด้วย
ประการที่ห้า ธุรกิจดั้งเดิมของอินเทลคือ การทำหน้าที่ด้านโปรเซสเซอร์บนคอมพิวเตอร์พีซีของลูกค้า แต่ในระยะหลัง อินเทลพบว่าลูกค้าจำนวนไม่น้อยของตนได้ย้ายฐานการใช้อุปกรณ์ที่เคยใช้ผ่านคอมพิวเตอร์พีซี ไปเป็นอุปกรณ์โมบายมากขึ้น เช่น สมาร์ทโฟน หรือไอแพดของแอปเปิล เพื่อเข้าสู่โลกออนไลน์ ซึ่งอุปกรณ์ชิปที่อินเทลจำหน่ายอยู่ยังมีความเสียเปรียบในตลาดส่วนนี้ เทียบกับชิปของบริษัทคู่แข่งขันที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเช่น ของบริษัท Qualcomm และบริษัท Texas Instruments
ด้วยเหตุนี้ โอกาสและช่องว่างทางการตลาดที่ได้เปิดกว้างอยู่เพื่อให้อินเทลรุกคืบเข้าไปได้ก็คือ การสร้างความแตกต่างในผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ของตน ด้วยการออกแบบและจำหน่ายสินค้าเป็นแพกเกจหรือเป็นแบบบุฟเฟต์ ด้วยโปรเซสเซอร์ที่มีความเร็วสูงในการตรวจจับและสแกนไวรัส ซึ่งมาจากการทำงานของระบบซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยของแมคคาฟี่ หรือไม่เช่นนั้น อินเทลอาจจะสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ระบบการทำงานของบรรดาแฮกเกอร์ทั้งหลาย ไม่สามารถทำงานกระบวนการทำลายล้างอย่างได้ผล
การตัดสินใจของอินเทลในครั้งนี้ เป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่อีกครั้งของอินเทลในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจด้วยการจับสินค้ามาจำหน่ายเป็นชุด ให้เกิดการทำงานร่วมกัน
ในอนาคตอินเทลคงจะมีกิจกรรมที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์โมบายของลูกค้าทั่วโลกมากขึ้นกว่าที่ผ่านมามาก รวมทั้งอาจทำให้เกิดการเชื่อมโยงถึงกันระหว่างการทำงานของโทรทัศน์กับอุปกรณ์โมบายทั้งหลาย โดยดึงเอาเรื่องของระบบตรวจจับและรักษาความปลอดภัย เพื่อสกัดไวรัสคอมพิวเตอร์ และการทำลายของแฮกเกอร์ของการทำงานบนโลกออนไลน์มาเป็นจุดเด่นแทนระบบงานโปรเซสเซอร์
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|