ซีพีเอฟจ่อชนเกี๊ยวซ่าหมูโออิชิ ลดราคาโค้งท้ายดันยอดโต 15%


ASTV ผู้จัดการรายวัน(29 สิงหาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

“ซีพีเอฟ” จ้องปะทะโออิชิ ออกเมนูเกี๊ยวหมู หวังเบียดขึ้นผู้นำในกลุ่มอาหารพร้อมทานหมู โค้งท้ายปีอัดโปรโมชันเพียบ ลดราคาสินค้า กระตุ้นยอดโต 15%

นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จดการอาวุโส ด้านกรตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า แผนการทำตลาดของบริษัทในช่วง 4 เดือนสุดท้ายปี 2553 ได้เตรียมออกแคมเปญโปรโมชัน เต็มที่ด้วยงบตลาดกว่า 50 ล้านบาท เช่น การลดราคาสินค้าเหลือ 63-65 บาทต่อแพ็ก จากปรกติ 75 บาท การแจกสินค้าพรีเมียมเมื่อซื้อสินค้าตามที่กำหนด เป็นต้น เนื่องจากว่าใกล้สิ้นปีจะเป็นช่วงที่การแข่งขันรุนแรง และเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโต 15% หรือมีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท

รวมไปถึงการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับเมนูอาหารว่างมากขึ้นด้วยงบตลาด 10 ล้านบาท จากงบทั้งปี 180 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้แชร์เมนูอาหารว่างไก่ของซีพีเพิ่มเป็น 65% จากตลาดรวมเซ็กเมนต์นี้ 800 ล้านบาท จากขณะนี้อยู่ที่ 61% ด้วยเมนูมากถึง 11 เมนูและกระจายสินค้าครอบคลุมหมดแล้วทั่วประเทศ ล่าสุด ได้ออกเมนูใหม่ ไก่ย่างพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว โดยมี “ตุ้ย-เอเอฟ 3 หรือ เกียรติกมล ล่าทา” เป็นพรีเซ็นเตอร์

ส่วนเป้าหมายของบริษัท ต้องการที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในทุกเซ็กเมนต์ของตลาดอาหารพร้อมรับประทานหรือ รีดดี้ทูอีท (Ready to eat) และ อาหารพร้อมปรุง (ready Meal) ที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อต่างๆ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู กุ้ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทถือว่าเป็นผู้นำตลาดดังกล่าวมีส่วนแบ่งที่ 25% จากตลาดรวม อีกทั้งยังเป็นผู้นำในตลาดอาหารพร้อมรับประทานผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ 61% และยังเป็นผู้นำในตลาดรีดดี้มีลอีก 41%

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มของอาหารพร้อมรับประทานประเภทหมูนั้น ซีพีเอฟยังไม่ได้เป็นผู้นำแต่อย่างใด โดยปัจจุบันมีแบรนด์โออิชิ เป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาดถึง 60% ขณะที่ของบริษัทมีแชร์ 20% อยู่ในอันดับที่สอง

ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนออกเมนูใหม่ คือ เกี๊ยวซ่าหมู เพื่อมาแข่งขันกับเกี๊ยวซ่าหมูของโออิชิโดยเฉพาะ คาดว่า จะเริ่มวางตลาดได้ต้นปีหน้า รวมถึงเมนูกลุ่มอื่นเช่น เกี๊ยวกุ้งต้มยำ เส้นหมี่เกี๊ยวกุ้งต้มยำ เป็นต้น

สำหรับตลาดรวมอาหารพร้อมรับประทานปัจจุบันมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท เป้นการเก็บตัวเลขจากยอดขายผ่านทางค้าปลีกใหญ่ 5 ราย คือ เทสโก้โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และซูเปอร์มาร์เก็ตเครือเดอะมอลล์ แต่ถ้าหากรวมถึงช่องทางคอนวีเนียนสโตร์ด้วยแล้วคาดว่าจะมากถึง 5,000 ล้านบาท เติบโต 10%

โดยตลาดอาหารพร้อมรับประทานกลุ่มที่เติบโตมากที่สุดปีนี้ คือ ประเภทรีดดี้มีลล์ มากถึง 20% และมีสัดส่วนมูลค่าตลาดที่ 1,500 ล้านบาท เพราะการแข่งขันทำตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งมีค่ายซีพีเอฟ เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 41% และอันดับที่สอง คือ เอสแอนด์พี ประมาณ 30%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.