สมชาย ฤทธิ์ อายรุเพียง 40 ปีเศษ ๆ หากมองกันในแง่ที่เขาไม่ได้เกิดในชาติตระกูลสูงส่งหรือครอบครัวมีฐานะที่มั่งคั้งและมั่นคงมาก่อน
และสมชายก็นับว่ามาได้ไกลมาก
สมชายเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด เขาเป็นลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่มีเชื้อสายจีน
ไม่ค่อยมีใครทราบประวัติชีวิตในช่วงเยาว์วัยของเขาและถ้าจะมีใครซักถามสมชายก็จะสรุปให้ฟังสั้น
ๆ ว่าครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย ก็เลยไม่ได้เรียนหนังสือมาก
"ผมมาโตที่บ้านโป่ง (จัง-หวัดราชบุรี) แล้วก็มาทำงานก่อสร้างเป็นลูกจ้างเขา.."
เขาเล่าแค่นั้น
สมชายเป็นคนที่มีหน้าตา มีสง่าราศี พูดจาเรียบยร้อยออ่นน้อมแฝงความเฉลียวฉลาดและจริงใจ
ใครที่ได้ทีโอกาสเสวนากับสมชายก็จะรู้สึกว่าสมชายเป็นคน ชื่อ ๆ และจำนวนไม่น้อยไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดหากมีใครมาบอกว่าสมชายเป็น
"ขี้โกง" ที่เถียงแทนสมชายก็มีหลายคนทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วไม่ได้สนิทกับสมชายอย่างใกล้ชิดหรือยาวนานแต่ประการใด
ว่ากันว่า ดวงตา ภรรยา ของสมชายนี้ ทางบ้านมีสตางค์พอสมควร ดวงตาเป็นนักเรียนเก่าฮ่องกง
นอกจากจะคล่องภาษาอังกฤษ, ภาษาจีนกลางแล้วยังชอบสมาคมกับคนใหญ่โต และบุคลิกที่เป็นแบบฉบับก็คือเป็นคนที่ช่างจำนรรจามาก
ๆ
อย่างเช่นวันหนึ่งที่ "ผู้จัดการ" นัดสัมภาษณ์สมชายนั้นสมชายคุยอยู่เพียง
10 นาทีเวลาที่เหลืออีกชั่วโมงกว่าคนที่คุยคือภรรยาของสมชาย เธอพูดไปด้วยสาบานไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเด็ดเดี่ยวและบอกถึงความ
"บริสุทธิ์ใจ" เกือบทุกประโยค
บางขณะที่รู้สึกว่าสมชาย กำลังจะพูดในสิ่งที่อาจจะยังไม่สมควรพูด เธอก็จะรีบตัดบทเข้าสู่ประเด็นอื่นอย่างน่าตาเฉยอีกด้วย
"ที่จริงก็ไม่เคยไปยุ้งเรื่องธุรกิจของคุณสมชายเลย แต่เห็นว่าแก่
ซื่อ เกินไปไม่ทันคนอื่นเขาโดนเขาหลอก โดนเขาทำเอามากมาย เพราะความซื่อนี้แหละ
ก็เลยว่าต้องตัดสินใจว่าต่อไปนี้ต้องยุ้งแล้ว คุณสมชายจะทำอะไรต้องปรึกษากันก่อน
เพราะที่เราลำบากกันเวลานี้ก็เพราะว่าเราเชื่อใจคนอื่นมากเกินไปแท้ ๆ.."
ดวงตา ฤทธิ์นพคุณ คล้ายกับชี้แจงบทบาท "พญาหงส์" ให้ฟัง
สมชายกับดวงตาแต่งงานอยู่กินกันเป็นสามีภรรยา เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว
ซึ่งก็เป็นเวลาที่ไล่เรี่ยกับการก่อสร้างบริษัทสมชาย ก่อสร้างสมชายจำกัด
ฤทธิ์นพคุณ ที่เปลี่ยนฐานะลูกจ้างบริษัทก่อสร้างของสมชายมาเป็น "เถ้าแก่"
ที่มีกิจกรรมเหมาก่อสร้างเป็นของตัวเอง
พูดได้ว่าเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี กว่าปีที่สมชายและกิจการของเขารุ้งเรืองต่อเนื่อง
เป็นช่วงเวลาที่เปรี่ยมไปด้วยความสุขสมชายกำลัง "มือขึ้น" จากคนไม่มีอะไร
เขากลายเป็น "เสี่ยสมชายไปอย่างภาคภูมิ
และสามารถขึ้นมาจับโครงการระดับร้อยล้าน "ไดมอนด์ทาวเวอร์ "
ในท้ายที่สุด
กิจการก่อสร้างของสมชาย ฤทธิ์นพคุณ นั้นเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยระยะแรก
ๆ ก็เขาไปรับเหมาก่อสร้างหรือซ่อมแซมวังให้กับเจ้านายโดยเฉพาะวังวรดิศแล้ว
แทบจะผูกขาดการก่อสร้างโดยสมชายเลยก็ว่าได้
จากบุคลิกเรียบร้อยและอ่อนน้อมและ "ซื่อ" ของเขาบวกกับผลงานที่ประณีตราคาสมเหตุสมผลก็ทำให้
"เจ้านาย" หลายพระองค์ทรงโปรดปานสมชายมาก มีงานก่อสร้างหรือซ่อมแซมก็จะเรียกสมชายและก็จะบอกกันต่อ
ๆ ไปอีหลายวัง
ต่อมาเมื่อมีทุนรอนมากขึ้ยนเขาก็รับงานสร้างห้องแถวขาย ซึ่งงานที่สร้างซื้อเสียงโด่งดังมาก
กระทั่งร่วมเสริมกิจเชื่อมั่นยินยอมให้การสนับสนุนทุกด้านการเงินให้ก่อสร้างคอนโดมิเนียม
" ไดมอนด์ทาวเวอร์" ของสมชายก็คือ การสร้างทาวน์เฮ้าส์ที่ถนนวิทยุใกล้กับสถานทูตอเมริกา
ตรงนั้นหลายคนเชื่อว่าทำยาก แต่สมชายเขากล้าเสี่ยงแล้วเขาก็ทำได้สำเร็จ
ขายหมดเกลี้ยงในเวลารวดเร็ว ก็เลยกลายเป็นงานชิ้นโปว์แดง ร่วมเสริมกิจเองก็เลยเชื่อมือสมชายมากเชื่อว่าสมชาย
ถ้าตัดสินใจทำแล้วมันต้องขึ้นและก็สำเร็จแน่นอน.." แหล่งข่าวคนหนึ่งพูดถึงผลงานของสมชายที่เป็นทาวเฮ้าส์ริมถนนวิทยุ
"เราก็ทำกันเองจริง ๆ ไม่มีแหล่งเงินสนับสนุนเลย ก็ได้ท่านผู้ใหญ่หลายท่านให้ความช่วยเหลือ
ซึ่งก็ยังสำนึกในพระคุณของท่านเหล่ามาโดยตลอด.." ดวงตาภรรยาของสมชายพูดให้ฟัง
ที่ดินขนาดราว ๆ 2 ไร่เศษ ตรงที่สมชายใช้สร้างทาวเฮาส์ริมถนนวิทยุเป็นที่ดินของหม่อมเจ้าสนิทรังสิต
รังสิต ซึ่งสมชายเคยรับงานก่อสร้างซ้อมแซมวังเจ้านายพระองค์นี้มาแล้วหลายครั้ง
กระทั่งหม่อมเจ้าสนิทรังสิต ประทานความไว้เนื้อเชื่อใจเมื่อสมชายทูลขอที่ดินผื่นนี้เพื่อพัฒนาขายท่านก็ได้ประทานให้สมชายดำเนินการ
โดยค่าที่ดินไว้ชำระกันเมื่อโครงการเสร็จซึ่งว่าไปแล้วสมชายก็นับเป็นผู้ทำโครงการที่โชคดีมากและก็โชคดีเข้าไปอีกที่
ม.ล ตรีทศยุทธ เป็นผู้หนึ่งที่สมชายเข้าไปใกล้ชิดเพราะความที่เป็นผู้รับเหมาซ้อมแซมวังเจ้านาย
ความสัมพันธ์พัฒนาถึงขั้นแบบแปลของอาคาร "ไดมอนด์ทาวเวอร์" ก็เป็น
ม.ล ตรีทศยุทธ ที่ออกแบบให้
และอีรายหนึ่งที่มีสาวนช่วยสมชายเอามาก ๆ ก็คือ "นิธิวาสิน "
เจ้าของกิจการกระดาษฮั่วกี่เปอร์ และโรงแรมนามรายณ์
"นิธิวาสิน" เป็นลูกค้ากลุ่มเล็ก ๆ ที่สั่งจองทาวน์เฮ้าส์ริมถนนวิทยุของสมชายหลายยูนิต
และที่สำคัญก็คือชำระค่าซื้อก่อนก่อสร้างเสร็จเป็นเงินสด ๆ
"ก็ได้จากกลุ่มฮั่วกี่นี้แหละค่ะ ที่ช่วยให้เรื่องการเงินเราแทบจะหมดไปเลย"
ดวงตา ฤทธิ์นพคุณ กล่าวอย่างตื่นตัน
ทาวเฮ้าส์ ริมถนนวิทยนุถูกขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่ล่วงหน้าก่อนตัดสินใจดำเนินโครงการไดมอนอ์ทาวเวอร์
ในปี 2526 ปัจจุบันสมชายเหลือทาวเฮ้าส์บริเวณด้านหน้าส่วนที่ติดกับถนนวิทยุเอาไว้
6 ยูนิตส่วนหนึ่งเขากับภรรยาเปิดเป็นภัตตาคารอาหารจีนระดับหรูชื่อ "ฟูหลิงเหมิน"
ตอนนี้ก็ยนังเป็นปัญหาว่าสมชายยังจะสามารถครอบครองสมบัตรส่วนตัวตรงนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน
เพราะเผอิญที่ดินและอาคารส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ติดจำนองอยู่กับร่วมเสริมกิจ
อันเป็นผลพวงจากโครงการไดมอนด์ทาวเวอร์