พุฒ เบญจมงคลวารี ขายตรงเหมือนม้าแข่ง…ต้องมองตรงสมาธิมั่น


นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2530)



กลับสู่หน้าหลัก

พนักงานอีเลคโทรลักซ์ที่มีอายุงานตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไปต้องรู้จักพุฒเป็นอย่างดี พุฒมิได้มาความหมายเพียงแค่ตัวแทนพนักงานรุ่นแรกที่มีอายุขัยการทำงานที่นานที่สุดเท่านั้น แต่ 6 ปี ของเขาที่นี้ไม่ผิดนักหลอกถ้าจะพูดว่าเขาคือผู้ตอกลิ้มความสำเร็จแท้จริง

พุฒ เบญจมงคลวารี ผินผายสู่อีเลคโทรลักซ์ด้วยความต้องการ ที่จะท่าทายกับงานขายรูปแบบใหม่ตามประสาคนหนุ่มที่มุ่งแสวงหาความชำนิชำนาญแก่ตัวเองมากขึ้น ดังนั้นเมื่อพบประกาสสมัครพนักงานของบริษัทจึงตัดสินใจทิ้งรายได้ก้อนงามจากที่เดิมโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

"ผมเป็นพนักงานคนแรกก่อนที่อีเลคโทรลักซ์จะตั้งบริษัทในเมืองเสียอีก โดยผ่านการตรวจสอบให้ไปดูงานที่สิงคโปร์ และมาเลเชียก่อนหน้านั้น 1 เดือน ยังจำได้ดีถึงการซื้อโต๊ะตัวแรกไปไว้ที่ออฟฟิศเอกมัย ตอนนั้นไม่รู้หลอกว่างานมันจะยากแค่ไหน ขอทำให้ดีที่สุดเท่านั้น " เขากล่าวถึงอดีตด้วยท่าทีที่สุขใจยิ่งนักกับ "ผู้จัดการ"

ที่นี้นอกจากปัญหาที่ทำให้ลูกค้ายอมรับในตัวสินตค้าที่ค่อนข้างมีราคาแพงซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงพอควรนั้น ฐานะของการเป็นพนักงานรุ่นบุกเบิก พุฒกับเพื่อนร่วมงาน 2-3 คน ยังต้องขบคิดอย่างหนักด้วยว่า จะค้นหาวิธีไหนได้บ้างที่จะให้งานขายตรงเป็นที่ยอมรับ

"หลักของงานขายตรงมีอยู่ว่าต้องขยายทีมงานให้มากขึ้น ๆ ทว่าคนหนุ่มสาวบ้านเรายุคนั้นพอรู้ว่าต้องมาขายของก็เมินหนีทันที เราต้องสร้างแรงจูงใจหลายอย่างแม้แต่การรับสมัครเราก็บอกว่า เป็นพนักงานวิจัยสินค้า กว่าที่จะทำให้คนหลายคนภูมิใจและเชื่อมั่นในงานขายของเราต้องใช้เวลานานไม่น้อยกว่า 3 ปี

พุฒเล่าประสบการณ์ขายตรงให้ฟัง สมัยที่เปิดแผนกเครื่องซักผ้าเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด เพราะการสาธิตให้ลูกค้าชมต้องเล่นกันถึงขนาดแม่บ้านทั้งหลานกำลังชักผ้า และมีหลายต้องบุกเข้าไปถึงในบ้านในสวนจนทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจอย่างมาก

สิ่งที่พุฒได้จากอีเลคโทรลักซ์ มิใช่เพียงแค่ความศรัทธาในงานขายตรงที่เพิ่มพูนขึ้นทุกวันเท่านั้นหากยนังบ่งบอกถึงรายได้อันงดงามในแต่ละปีอีกด้วย จะเป็นจำนวนตัวเลขเท่าใดนั้น พุฒไม่ได้บอกอย่างตรง ๆ เพียงแย้มว่า รายได้ของเขาเมื่อ 6 ปีก่อนต้องเสียภาษีเท่ากับราคารถบีเอ็มดับบลิวรุ่นใหม่ ๆ ในเวลานี้ทีเดียว

ความรุ่งเรืองของพุฒในอีเลคโทรลักซ์พุ่งสูงขึ้นถึงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายตลาดที่ต้องคุมสาขาทั่วประเทศ เป็นผู้มีอำนาจรองลงมาจากนายฝรั่ง แต่ มันเป็นความรุ่งโรจน์ที่ทำให้เขาต้องอำลาจากอีเลคโทรลักซ์ในราวปี 2527 ด้วยเหตุผลสั้น ๆ เพียงว่า

นักการตลาดเหมือนนักรบมีอายุจำกันในตัวเอง ผมตั้งใจเอาไว้ว่าก่อนอายุ 40 ปีต้องหาอะไรทำเป็นของตัวเองอีกอย่างเมื่อได้ไปดูงานที่อีเลคฯ ทั่วโลกพบว่าเจ้าหน้าที่บริหารส่วนมากอายุ 30 กว่าปีเท่านั้น จึงคิดว่าควรเปิดโอกาสให้คนหนุ่มสาวก้าวขึ้นมาบ้าง "

ปุจจุบันพุฒเป็นกรรมการผู้จักการ บริษัท ไดมาร์ทจำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนขายเครื่องซักผ้าแฮนนูเวอและนี่เองที่ทำให้ลูกหม้อของอีเลคโทรลักซ์อย่างเขาต้องกลายมาเป็นคู่แข่งโดยไม่เจตนา

พุฒทิ้งท้ายงานขายตรงไว้ว่า ไม่แตกต่างอะไรกับม้าแข่งในสนาม พนักงานขายเป็นเหมือนจ็อกกี้ต้องมีสมาธิมั่น กล้าหารฮึกเหิมลำพออยู่ตลอดเวลาต้องมองตรงไปสู่เส้นทางอย่างเดี่ยวเท่านั้น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.