พนักงานอีเลคโทรลักซ์ที่มีอายุงานตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไปต้องรู้จักพุฒเป็นอย่างดี
พุฒมิได้มาความหมายเพียงแค่ตัวแทนพนักงานรุ่นแรกที่มีอายุขัยการทำงานที่นานที่สุดเท่านั้น
แต่ 6 ปี ของเขาที่นี้ไม่ผิดนักหลอกถ้าจะพูดว่าเขาคือผู้ตอกลิ้มความสำเร็จแท้จริง
พุฒ เบญจมงคลวารี ผินผายสู่อีเลคโทรลักซ์ด้วยความต้องการ ที่จะท่าทายกับงานขายรูปแบบใหม่ตามประสาคนหนุ่มที่มุ่งแสวงหาความชำนิชำนาญแก่ตัวเองมากขึ้น
ดังนั้นเมื่อพบประกาสสมัครพนักงานของบริษัทจึงตัดสินใจทิ้งรายได้ก้อนงามจากที่เดิมโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
"ผมเป็นพนักงานคนแรกก่อนที่อีเลคโทรลักซ์จะตั้งบริษัทในเมืองเสียอีก
โดยผ่านการตรวจสอบให้ไปดูงานที่สิงคโปร์ และมาเลเชียก่อนหน้านั้น 1 เดือน
ยังจำได้ดีถึงการซื้อโต๊ะตัวแรกไปไว้ที่ออฟฟิศเอกมัย ตอนนั้นไม่รู้หลอกว่างานมันจะยากแค่ไหน
ขอทำให้ดีที่สุดเท่านั้น " เขากล่าวถึงอดีตด้วยท่าทีที่สุขใจยิ่งนักกับ
"ผู้จัดการ"
ที่นี้นอกจากปัญหาที่ทำให้ลูกค้ายอมรับในตัวสินตค้าที่ค่อนข้างมีราคาแพงซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงพอควรนั้น
ฐานะของการเป็นพนักงานรุ่นบุกเบิก พุฒกับเพื่อนร่วมงาน 2-3 คน ยังต้องขบคิดอย่างหนักด้วยว่า
จะค้นหาวิธีไหนได้บ้างที่จะให้งานขายตรงเป็นที่ยอมรับ
"หลักของงานขายตรงมีอยู่ว่าต้องขยายทีมงานให้มากขึ้น ๆ ทว่าคนหนุ่มสาวบ้านเรายุคนั้นพอรู้ว่าต้องมาขายของก็เมินหนีทันที
เราต้องสร้างแรงจูงใจหลายอย่างแม้แต่การรับสมัครเราก็บอกว่า เป็นพนักงานวิจัยสินค้า
กว่าที่จะทำให้คนหลายคนภูมิใจและเชื่อมั่นในงานขายของเราต้องใช้เวลานานไม่น้อยกว่า
3 ปี
พุฒเล่าประสบการณ์ขายตรงให้ฟัง สมัยที่เปิดแผนกเครื่องซักผ้าเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
เพราะการสาธิตให้ลูกค้าชมต้องเล่นกันถึงขนาดแม่บ้านทั้งหลานกำลังชักผ้า และมีหลายต้องบุกเข้าไปถึงในบ้านในสวนจนทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจอย่างมาก
สิ่งที่พุฒได้จากอีเลคโทรลักซ์ มิใช่เพียงแค่ความศรัทธาในงานขายตรงที่เพิ่มพูนขึ้นทุกวันเท่านั้นหากยนังบ่งบอกถึงรายได้อันงดงามในแต่ละปีอีกด้วย
จะเป็นจำนวนตัวเลขเท่าใดนั้น พุฒไม่ได้บอกอย่างตรง ๆ เพียงแย้มว่า รายได้ของเขาเมื่อ
6 ปีก่อนต้องเสียภาษีเท่ากับราคารถบีเอ็มดับบลิวรุ่นใหม่ ๆ ในเวลานี้ทีเดียว
ความรุ่งเรืองของพุฒในอีเลคโทรลักซ์พุ่งสูงขึ้นถึงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายตลาดที่ต้องคุมสาขาทั่วประเทศ
เป็นผู้มีอำนาจรองลงมาจากนายฝรั่ง แต่ มันเป็นความรุ่งโรจน์ที่ทำให้เขาต้องอำลาจากอีเลคโทรลักซ์ในราวปี
2527 ด้วยเหตุผลสั้น ๆ เพียงว่า
นักการตลาดเหมือนนักรบมีอายุจำกันในตัวเอง ผมตั้งใจเอาไว้ว่าก่อนอายุ 40
ปีต้องหาอะไรทำเป็นของตัวเองอีกอย่างเมื่อได้ไปดูงานที่อีเลคฯ ทั่วโลกพบว่าเจ้าหน้าที่บริหารส่วนมากอายุ
30 กว่าปีเท่านั้น จึงคิดว่าควรเปิดโอกาสให้คนหนุ่มสาวก้าวขึ้นมาบ้าง "
ปุจจุบันพุฒเป็นกรรมการผู้จักการ บริษัท ไดมาร์ทจำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนขายเครื่องซักผ้าแฮนนูเวอและนี่เองที่ทำให้ลูกหม้อของอีเลคโทรลักซ์อย่างเขาต้องกลายมาเป็นคู่แข่งโดยไม่เจตนา
พุฒทิ้งท้ายงานขายตรงไว้ว่า ไม่แตกต่างอะไรกับม้าแข่งในสนาม พนักงานขายเป็นเหมือนจ็อกกี้ต้องมีสมาธิมั่น
กล้าหารฮึกเหิมลำพออยู่ตลอดเวลาต้องมองตรงไปสู่เส้นทางอย่างเดี่ยวเท่านั้น