ทอม ตั้งไวบูลย์ สัญชาติไทยอายุ 28 ปี มีชื่ออีกชื่อ หนึ่งว่า วีระพล
เขาถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2530 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมของกลาง
บัตรเครดิตการ์ดปลอมของเอเม็กซ์ และส่งตัวให้กับ สน. ลุมพินี สืบสวนสอบสวน
ว่ากันว่าการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ ผลงานส่วนหนึ่งมาจากแรงผลักดันของเจ้าหน้าที่เครดิตการ์ดผู้ได้รับความเสียหาย
ภายหลังที่ทอมออกอาละวาดกวนทรัพย์สินไปได้หลายรายการร่วมกับสมัครพักพวกอีกหลายคน
ที่ยังตามจับตัวไม่ได้ ด้วยวิธีการที่เหนือชั้น
เครดิตการ์ด ยี่ห้อเอเม็กซ์ที่ทอมทำปลอมขึ้นมา กระทั่งบัดนี้ยังไม่ทราบว่าทอมไปได้บัตรมาได้อย่างไร
วิธีไหนและเป็นบัตรของใคร ทราบกันก็เพียงว่า บัตรปลอมที่ทอมใช้เป็นบัตรที่ขูดลบชื่อและหมายเลขบัตรพร้อมกับลายเซ็นออกจนหมดจากนั้นก็มีการปั๊มตัวเลขบัตรเสียใหม่
เป็นบัตรเลขที่ 3763 002910 31003 พร้อมกับปั๊ม ชื่อผู้ถือบัตรเป็นภาษาอังกฤษ
ชื่อ วิทยา ชีวรุโณทัย จากนั้นก็เซ็นลายมือชื่อเจ้าบัตร เสร็จสรรพ มองดูแล้วก็เหมือนบัตรจริงทุกอย่าง
ซ้ำรายกว่านั้นหมายเลขบัตรและชื่อเจ้าของบัตรก็ยังเป็นหมายเลขและชื่อที่มีตัวตนเป็นสมาชิกบัตร
ของเอเม็กซ์จริง ๆ เสียด้วย
ก็ยังไม่ทราบอีกเช่นกันว่า ทอม ไปได้หมายเลขและชื่อเจ้าของบัตรที่มีตัวจริงเขาได้อย่างไร
จากพยานหลักฐานนั้น พบว่าทอมได้นำบัตรเครดิตการ์ด ปลอมออกมาอาละวาดไปได้แล้วอย่างน้อย
2 จุด ก่อนจะถูกจับคืนเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2530 เขาใช้บัตรปลอมใบเดียวกันนี้
ไปซื้อสินค้าหลายรายการรวมมูลค่า 10,000 บาท จากร้านไฮเอนออดิโอแอนด์ วิดีโอ
ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า
วันที่ 31 มกราคม 2530 หางกันเพียง 5 วันก็เอาบัตรปลอมไป รูด เพื่อซื้อนาฬิกา
2 เรือน ราคา 3,600 บาท จากห้างหุ้นส่วนจำกัน วีเต็กหลงแถว ๆ ย่านสัมพันธวงศ์
เขตท้องที่พลับพาไชยเขต 2
ซึ่งขณะนี้ความผิดทั้ง 2 คดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาไปแล้ว
โดยที่ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ !!
ที่จริงกรณีทอม ตั้งไพบูลย์ นี้เป็นกรณีที่สาวลงไปลึก ๆ แล้วก็อาจจะได้พบอะไรสนุกหลายอย่าง
แหล่งที่ทำการปลอมแปลงบัตร ปั๊มนูนหมายเลขและชื่อเจ้าของบัตร
รวมทั้งแหล่งที่ป้อนข้อมูลชื่อ และหมายเลขบัตรที่มาอยู่จริง ๆ ให้กับแก็งปลอมแปลงที่ไปทำการอ้างกับร้านค้า
ซึ่งในกรณีแบบนี้กว่าจะตรวจพบคนร้ายก็มักจะได้ทรัพย์สินไปแล้ว
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าแนวทางการสืบสวน ของตำรวจและอัยการจะเพ่งเล็งไปตามที่ว่านั้นหรือไม่
?
หรือจะทำกันเพียงความผิดที่เห็นโต้ง ๆ เนื่องจากคงเป็นกรณีที่ สบาย…..สบาย
หรือไม่ก็ไม่ทราบ ?