สมาคมประกันวินาศภัยก่อตั้งมา 20 ปี แล้ว ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมานายกสมาคม
ฯ ทั้ง 12 คนล้วนเป็นชายทั้งสิ้น และต่างก็เป็นตัวแทนจากบริษัทประกันภัยที่เป็นสมาชิกของสมาคม
ฯ ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 62 บริษัทสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นคุมกุมบังเหียน
แล้วก็ถึงวันหนึ่ง ( 8 เม.ย. 2530 ) ประวัติศาสตร์ผู้นำสมาคมได้เปลี่ยนไป
เมื่อผู้หญิงลูก 2 อายุ 45 ชื่อมาลินี เลี่ยวไพรัตน์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคม
ฯ เป็นคนที่ 13 และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้
มาลินี เป็นบุตรสาวของ พรและบุญศรี เลี่ยวไพรัตน์ เมื่อเด็ก ๆ เรียนหนังสือที่
สระบุรี แล้วมาจบชั้นมัธยมปลายที่เตรียมอุดม รุ่นเดียวกับ ดร. ศุภชัย พานิชภักดิ์
ดร. วีรพงษ์ รามางกูร เทียนชัย ลายเลิศ จากนั้นข้ามรั้วมาเรียนสถิติ ที่คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี
จุฬา ฯ
เริ่มงานครั้งแรกด้วยการรับราชการในตำแหน่งผู้ตรวจสอบกิจการประกันภัย สำนักงานประกันภัย
กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างรับราชการได้รับทุนจากองค์การยูเสด ไปศึกษาต่อปริญญาโท
ทางด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย ที่มหาวิทยาลัยจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา กับมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายคณิตศาสตร์ประกันชีวิต
และหัวหน้าฝ่ายวิชาการ ที่สำนักงานประกันภัย
ครั้นปี 2516 มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงที่กระทรวงพาณิชย์ด้วย
มาลินีจึงลาออกจากราชการเข้าสู้ระบบธุรกิจด้วยการรับดำตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
บริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธนาพรชัยและคาเธ่ย์ไฟแนนซ์
จนถึงปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จักการ ดูแลรับผิดชอบพนักงานกว่า 100
คน
"ชีวิตดิฉันเป็นไปอย่างเรียบ ๆ ไม่ว่าจะเรียนหนังสือหรือทำงาน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นขั้น
ๆ " มาลินี พูดถึงชีวิตตัวเองที่ค่อย ๆ ก้าวไปทีละขั้น ๆ โดยไม่มีอะไรโลดโผน
จะว่าไปนั้นชีวิตมาลินีออกจะ "เฮง" หรือมีโอกาสดีอยู่เสมอ เริ่มจากการเริ่มต้นชีวิตทำงาน
เมื่อเรียนจบใหม่ ๆ เธอไม่รู้ด้วยซ่ำว่าการประกันภัยนั้นมีงานอะไรให้ทำบางแต่เมื่อมีโอกาสได้พบ
ชูเกียรติ ประมูลผล ผู้อำนวยการสำนักงานประกันภัยคนแรก ชูเกียรติได้ช่วยชีแนะงานประกันภัยจนเป็นที่ประทับใจมาลินี
จึงได้สมัครเข้ารับงานราชการที่สำนักงานประกันภัยในปี 2509 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวสำนักงานประกันภัยกำลังปรับปรุงและพัฒนาเป็นการใหญ่
โอกาสที่มาลินีได้เรียนต่อทางด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยจึงตามมา และกล่าวได้ว่าชีวิตการทำงานของเธอนั้นเติมโตเร็วมากทีเดียว
ต่อมาสถานการณ์ปี 2516 ผลักดันให้เธอเข้าสู่ธุรกิจประกันภัย และเธอก็ไม่ละโอกาสรับตำแหน่ง
กรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอกสหประกันภัยที่ " เลี่ยวไพรัตน์ "
ถือหุ้นใหญ่อยู่
ทุกครั้งที่สถานการณ์สร้างโอกาส มาลินีไม่เคยพลาดโอกาสนั้นเลย
แม้กระทั่งตำแหน่งนายกสมาคมประกันวินาศภัยซึ่งหลายคนก็คงคาดไม่ไม่ถึงว่าจะตกเป็นของเธอ
แต่เป็นเพราะสถานการณ์ของสมาคม ฯ ขณะนั้นคนในสมาคมบางส่วนไม่พอใจในตัวของนายกสมาคม
ฯ คนก่อนโอกาสจึงตกเป็นของมาลินี โดยเธอเลยก็ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลยสำหรับตำแหน่งนี้
อย่างนี้ไม่เรียกว่า " เฮง " จะเรียกว่าอะไร
สำหรับความเก่ง ถ้าพูดถึงด้านวิชาการประกันภัยแล้วมาลินีไม่เป็นรองใคร
เพราระตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิชาการ สำหรับงานประกันภัยในอดีตคงเป็นประกันได้
และมาลินีก็เป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูง ไม่กี่คนในธุรกิจประกันภัย บ้านเราที่จบมาทางคณิตศาสตร์ประกันภัย
และในปีที่แล้วมาลินีก็ทำให้บางกอกสหประกันภัยมีกำไรกว่า 4 ล้านบาท มีเบี้ยประกันสุทธิกว่า
70 ล้านบาท สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำได้ถึงขนาดนี้ ก็นับว่าพอตัวแล้ว
" งานที่คิดจะทำให้สมาคม ฯ ได้ในสมัยนี้ ก็มีเรื่องการจัดบอรมประกันภัย
เรื่องสถาบันประกันภัย การจัดทำสถิติข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ การประกันพืชไร่จัดทำ
BLACK LIST ก็คงทำได้ " นายกสมาคมประกันวินาศภัยหญิงคนแรก ที่ต้องร่วมงานกับกรรมการบริหารสมาคมที่เป็นชายอีก
20 คนกล่าวถึงงานที่จะได้ทำภายในเวลาอีก 9 เดือนที่แล้วกับ "ผู้จัดการ
"
เวลาอีกประมาณ 9 เดือนคงไม่นานเกินรอที่จะพิสูจน์ว่ามาลินีที่ทำให้งานของสมาคม
ฯ ลุลวงไปด้วยดีและเป็นที่น่าพอใจแก่บรรดาสมาชิกทั้ง 62 บริษัท หรือไม่
หรือจะต้องตัดบัวไม่เหลือใยกับสมาคม ฯ เหมือนยื่นยง โศภิษฐ์พงศธร นายกสามคมคนก่อน
ที่จำต้องสะบัดหน้า จากสมาคม ฯ ไปทั้งที่ยังรั้งตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียว
และไม่ยอมแม้ที่จะรับตำแหน่งกรรมการสมาคม ฯ อีกต่อไปด้วย